TH | EN
TH | EN
หน้าแรกSustainabilityการบินไทย เปิดตัวชุดยูนิฟอร์มใหม่ ผลิตจากขวดรีไซเคิล 70%

การบินไทย เปิดตัวชุดยูนิฟอร์มใหม่ ผลิตจากขวดรีไซเคิล 70%

การบินไทย ประกาศเปิดตัวชุดยูนิฟอร์มใหม่สำหรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหญิง โชว์อัตลักษณ์ความเป็นไทยเข้ากับแนวคิดเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) โดยชุดยูนิฟอร์มใหม่นี้ มีส่วนผสมของผ้าไหม 30% และขวดพลาสติกรีไซเคิล 70% พร้อมอวดโฉมให้คนทั่วโลกและทุกชั้นบริการบนเครื่องบิน 1 มกราคม 2567

ตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา การบินไทยดำเนินธุรกิจโดยตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอันเกิดจากอุตสาหกรรมการบินมาอย่างต่อเนื่อง มีการปรับปรุงกระบวนการทำงานด้านต่าง ๆ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านกิจกรรมและโครงการริเริ่มต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบการลดการใช้ทรัพยากร ลดปริมาณขยะด้วยการนำวัสดุที่ไม่ใช้งานแล้วกลับมาพัฒนาสร้างคุณค่าให้เกิดประโยชน์เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน และมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) ภายใต้แนวคิด Zero Waste Living ซึ่งประกอบด้วยหลักการหลัก 3 ประการ ได้แก่ FROM PLANES TO PLANET-การบินเพื่อสิ่งแวดล้อม FROM WASTE TO WEALTH-การพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และ FROM PURPLE TO PURPOSE-จากใจสู่เป้าหมายเพื่อความยั่งยืน

THAI Unveils New Cabin Crew Uniform, a Combination of Thai Identity and Sustainability

เครื่องแบบชุดไทยเรือนต้นของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหญิงของการบินไทย เป็นที่รู้จักแพร่หลายในระดับนานาชาติ และได้รับการยอมรับในเรื่องความสวยงาม ได้รับการจดจำและเป็นสิ่งแสดงออกถึงเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงความเป็นสายการบินแห่งชาติ ถูกนำมาตัดเย็บด้วยเส้นไหมไทยถักทอผสมผสานกับเส้นใยแปรรูปจากวัสดุรีไซเคิล คงไว้ซึ่งความงดงามในความเป็นไทยที่เพิ่มคุณลักษณะพิเศษเฉพาะตัวด้วยประโยชน์ใช้สอยครบถ้วน โดดเด่นในเรื่องความง่ายในการดูแลรักษา การคงรูปแต่ให้ความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการใช้งาน และยังได้มีการทดสอบในด้านความปลอดภัยที่เป็นตามมาตรฐานสากล

เครื่องแบบชุดไทยเรือนต้นดังกล่าวจะปรากฏในทุกที่สาธารณะทั่วโลกและทุกชั้นบริการบนเครื่องบิน ในฐานะเครื่องแบบของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหญิงของการบินไทย ซึ่งจะสวมใส่พร้อมกันตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป

ที่ผ่านมา บริษัทได้เริ่มดำเนินการเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานด้วยการนำเครื่องบินและเครื่องยนต์สมัยใหม่ที่มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำมาใช้ในการให้บริการ และปรับปรุงการปฏิบัติการบิน อาทิ การนำเทคนิค Single Engine Taxi และการลดน้ำหนักการบรรทุกมาปรับใช้ในการปฏิบัติการบิน เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการปรับปรุงกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างยั่งยืนซึ่งรวมถึงการจัดทำแผนการนำเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF-Sustainable Aviation Fuel) มาใช้ทำการบิน และการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจด้านอื่น ๆ นอกเหนือจากกิจกรรมการบิน อาทิ กิจกรรมครัวการบิน กิจกรรมสายช่าง กิจกรรมการบริการภาคพื้น ตลอดจนกิจกรรมเพื่อสร้างความยั่งยืนทางสังคม อาทิ การสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากภาคการเกษตรของเกษตรชาวไทยและผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่บริษัทฯกำหนดไว้

การบินไทยใช้กลยุทธ์โดยตั้งอยู่บน 3 ฐาน ยุทศาสตร์เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน 

1. From Planes To Planet การบินเพื่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการบินไทยเป็นธุรกิจทางด้านการบิน สิ่งที่เป็นผลผลิตของการปฏิบัติกิจกรรมทางการบินทั้งหมดของสายการบิน สิ่งไหนที่สามารถ นำกลับมาใช้ซ้ำได้ นำกลับมารีไซเคิลพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สู่ความยั่งยืนได้ การบินไทยก็จะนำกลับมาพัฒนา 

2. From Waste To Wealth การพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ คือการต่อยอด หลังการบินไทยนำผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ซ้ำ ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพียงพอในการสร้างรายได้ไม่ใช่แค่เฉพาะให้กับการบินไทย แต่รวมไปถึงการสร้างรายได้ให้กับชุมชน ให้กับสังคม ทางการบินไทยก็จะต่อยอดเพื่อสร้างรายได้ให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ 

3. From Purple To Purpose จากใจสู่เป้าหมายเพื่อความยั่งยืน มาจากหัวใจสีม่วงที่หลายคนทราบกันว่าเป็นสีประจำของการบินไทย ดังนั้น From Purple To Purpose จึงมาจากหัวใจสีม่วงทุกดวงในการบินไทยที่จะร่วมพัฒนา ขับเคลื่อน ผลักดันให้การทำธุรกิจของการบินไทยเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมในอนาคต 

นอกจากนี้ ในฐานะสายการบินแห่งชาติ การบินไทยมีความรับผิดชอบไม่ใช่เฉพาะแค่การขับเคลื่อนทางธุรกิจของการบินไทยให้ยั่งยืน แต่ยังมีหน้าที่ในการช่วยผลักดันและสนับสนุนให้ประเทศไทยเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 

ผ่านการทดสอบคุณภาพ รับรองความปลอดภัย

การนำชุดไทยมาใช้มีความเกี่ยวข้องกับสายปฏิบัติการและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันการบินไทยมีพนักงานต้อนรับทั้งเพศชายและเพศหญิงรวมทั้งสิ้นประมาณ 3,000 กว่าคน เป็นหนักงานต้อนรับหญิงประมาณ 2,100 คน ในแต่ละวันการบินไทยมีเที่ยวบินที่ออกเดินทางไปทั่วโลกทั้งขาเข้าและขาออกรวมกันประมาณ 120 เที่ยวบิน ดังนั้นในแต่ละวันการบินไทยมีพนักงานต้อนรับออกไปสู่สายตาชาวโลกวันละ 1,000 คน เป็นพนักงานต้อนรับหญิงไม่ต่ำกว่า 600-700 คน ถ้าหากพนักงานหญิงทั้ง 600-700 คนแต่งกายด้วยชุดไทยออกไปสู่พื้นที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน หรือตามจุดต่าง ๆ ที่มีผู้โดยสารอีกเป็นจำนวนมาก จะกลายเป็นการสร้างความตื่นตาตื่นใจ ความประทับใจ ให้แก่ผู้โดยสารและประชาชนโดยรอบ ถือเป็นหนึ่งใน Soft Power ของการบินไทยที่ตอบสนองต่อนโยบายการเผยแพร่เอกลักษณ์ความเป็นไทยที่เป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ 

นอกจากเป็นการแสดงถึงเอกลักษณ์ของไทยสู่สายตาชาวโลกและรักษาสิ่งแวดล้อม ทางการบินไทยมีการทดสอบทั้งด้านของเนื้อผ้า รวมไปถึงความปลอดภัยจากการสวมใส่เครื่องแบบใหม่โดยให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ด้วยการทดสอบในด้านความปลอดภัยที่เป็นไปตามมาตรฐานระดับสากล และเพิ่มคุณลักษณะพิเศษเฉพาะตัวด้วยประโยชน์ใช้สอยครบถ้วน ง่ายต่อการดูแลรักษา การคงรูปแต่ให้ความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการใช้งาน กันคราบน้ำ สิ่งสกปรกต่าง ๆ สะดวกต่อการดูแลผู้โดยสาร พร้อมการทดสอบใช้งานในกรณีฉุกเฉิน เป็นแนวคิดที่ตอบโจทย์ต่อทั้งผู้ใช้งานและผู้คนที่ได้เห็นถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยในมุมมองต่าง ๆ  

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

อว. จัดงาน Thailand Space Week โชว์ความพร้อมไทยในการลงทุนด้านอุตสาหกรรมอวกาศ

กลุ่มธุรกิจ TCP ผนึกพันธมิตร ส่งต่อแนวทางการเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero สู่ผู้ประกอบการ

1 ใน 5 ของธุรกิจยั่งยืนมีการรายงานผลกระทบ SDG

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ