วิกฤติโควิด-19 ได้สร้างวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ของการทำงานขึ้นมา องค์กรใหญ่ ๆ ในระดับโลกต่างเริ่มเห็นว่าการทำงานจากบ้านส่งผลบวกต่อประสิทธิภาพการทำงาน ส่วนธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจำเป็นต้องตัดงบประมาณต่าง ๆ ออกเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดได้
นอกเหนือจากการลดค่าใช้จ่ายด้านต่าง ๆ แล้ว สิ่งหนี่งที่สำคัญในยุคดิจิทัล คือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ที่ธุรกิจหรือองค์กรจำเป็นต้องควักกระเป๋าซื้อให้พนักงานทุกคน แต่จะทำอย่างไรให้ได้คอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด ลดต้นทุนได้มากที่สุด รวมถึงตอบโจทย์ที่พนักงานแต่ละคนจะต้องทำงานที่สำนักงานบ้าง และทำงานที่บ้านบ้าง โดยสามารถนำงานกลับไปทำต่อได้ไม่ว่าจะอยู่ในสำนักงานหรือที่บ้านก็ตาม
จากปัจจัยดังกล่าว หลายคนคงคิดว่าจะต้องเลือกซื้อโน้ตบุ๊กให้พนักงาน เพราะสามารถนำไปทำงานได้ทุกที่ แต่โน้ตบุ๊กที่ประสิทธิภาพสูง ๆ นั้นราคาไม่ต่างกับการซื้อคอมพิวเตอร์พีซีสักตัวเลย และตำแหน่งงานส่วนใหญ่นั้นนั่งทำงานอยู่กับโต๊ะทำงาน ไม่มีความจำเป็นต้องเดินทางตลอดเวลา รวมถึงเมื่อต้องการหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่ขึ้น ก็จำเป็นต้องซื้อจอเข้ามาต่อเพิ่ม ทำให้เปลืองงบประมาณมากกว่าเดิม
ThinkCentre Nano เป็นทางเลือกที่เข้ามาตอบโจทย์ธุรกิจในยุคใหม่ทั้งในด้าน ประสิทธิภาพการใช้งานเทียบเท่ากับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป มาพร้อมกับ 8th generation Intel® Core™ vPro™ processors มีระบบปฏิบัติการอย่าง Windows 10 Pro ใช้ SSD เป็นพื้นที่เก็บข้อมูลหลัก รวมถึงมีพอร์ตเชื่อมต่อทั้ง USB, USB-C รองรับการถ่ายโอนข้อมูล
พนักงานไม่จำเป็นต้องแบกอุปกรณ์ชิ้นใหญ่และหนัก เพราะตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง 505 กรัม และขนาดกว้างxยาว นั้นแทบไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนในยุคนี้ รวมถึงประหยัดพลังงานได้มากถึง 15% ต่อปี
เมื่อพนักงานเข้าไปที่บริษัทก็สามารถนำ ThinkCentre Nano เข้าไปต่อกับจอ คีย์บอร์ด และเมาส์ รวมถึงเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทันที เมื่อทำงานอยู่ที่บ้านก็ต่อเข้ากับจอที่บ้านของพนักงานได้ ทำให้พนักงานสามารถทำงานต่อเนื่องได้
ด้านโรงงานการผลิต เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ และต้องปรับตัวในยุคนี้เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดได้ จึงต้องมองหาคอมพิวเตอร์สำหรับเป็นตัวกลางสื่อสารกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ในโรงงานที่คุณภาพสูง และราคาไม่แพงจนเกินไป
ThinkCentre Nano IoT ถูกออกแบบมาให้ประหยัดพลังงาน ระบายความร้อนได้โดยไม่ต้องใช้พัดลม และรองรับสภาพแวดล้อมการทำงานที่แตกต่างกันออกไปได้ของแต่ละอุตสาหกรรมที่อุณภูมิตั้งแต่ 0-50 องศา รวมถึงเคลื่อนย้ายไปใช้งานกับไซต์งานอื่น ๆ ได้ง่าย เพราะขนาดตัวเครื่องที่เล็กและมีน้ำหนักเพียง 720 กรัม
ประสิทธิภาพที่มาพร้อม 8th generation Intel® Core™ vPro™ processors เช่นเดียวกับ ThinkCentre Nano แต่มีความพิเศษกว่าตรงที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 IoT Enterprise รองรับการเชื่อมต่อ ประมวลผล และป้องกันความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์ IoT
ทั้งนี้ ThinkCentre Nano และ ThinkCentre Nano IoT นอกจากจะมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สะดวกต่อการเคลื่อนย้านแล้ว ยังผ่านการทดสอบความทนทานในระดับ (Military Standard) สามารถทนทานต่อทุกสภาพแวดล้อมการทำงาน เช่น ในทะเลทราย หรือบนที่ราบสูงที่มีอากาศหนาวจัด ทนแรงกระแทก รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานสากล Trusted Platform Module (TPM) ชิปเซ็ตปกป้องข้อมูลสำคัญในตัวเครื่อง
