AIS เปิดตัว Open Application Programming Interface (Open API) ด้วยมาตรฐานสากล ตาม CAMARA Open API พร้อมการรับรองจาก GSMA ลดความซับซ้อน และสร้างความชัดเจนในการเชื่อมต่อ เพื่อเข้าถึงและใช้งานบริการโทรคมนาคมรวมทั้งความสามารถต่าง ๆ จากผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อให้นักพัฒนาแอปพลิเคชัน ผู้ให้บริการโซลูชัน และลูกค้าองค์กรธุรกิจ สามารถสร้างนวัตกรรม เพิ่มโอกาสและการใช้งานจริงในเชิงธุรกิจได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
AIS Open API ประกอบด้วย 11 ชุด API ที่สามารถต่อยอดขีดความสามารถของ แอปพลิเคชัน อาทิ ชุด API เพื่อการรับรองความถูกต้องของผู้ใช้บริการ หรือ Silent Network Authentication APIs การตรวจสอบเพื่อยืนยันเลขหมายโทรศัพท์ของผู้ใช้บริการ (Number Verify) และการตรวจสอบการเปลี่ยนซิมการ์ดของผู้ใช้บริการ (SIM Swap) โดยใช้ข้อมูลจริงในระบบของผู้ให้บริการเครือข่ายซึ่งเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ ในการยืนยันตัวตนของผู้ใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ และป้องกันการแอบอ้างหรือโจรกรรมทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่ง APIs เหล่านี้ถูกพัฒนาและทดสอบอย่างสมบูรณ์ มีการเริ่มใช้กับดิจิทัลแอปพลิเคชันเชิงพาณิชย์แล้ว และพร้อมขยายการให้บริการกับลูกค้าธุรกิจและองค์กรทั่วไป
ภูผา เอกะวิภาต, รักษาการหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร เอไอเอส กล่าวว่า “ AIS เล็งเห็นความสำคัญและประโยชน์ ที่นักพัฒนาจะสามารถเข้าถึงบริการและความสามารถของเครือข่ายโทรคมนาคมเคลื่อนที่ ซึ่งจะช่วยสนับสนุน และเร่งเกิดการพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการรูปแบบใหม่ ๆ ขององค์กรธุรกิจได้ โดยมุ่งเน้นในเรื่องการดูแลความปลอดภัยของผู้ใช้บริการดิจิทัล ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวม
ทั้งนี้ ในการให้บริการด้าน APIs นั้นมาตรฐานของ APIs เป็นเรื่องสำคัญ และการทำงานร่วมกับ GSMA และออกแบบตามมาตรฐาน CAMARA Open APIs จะช่วยเสริมการขยายการเชื่อมต่อถึงนักพัฒนาในวงกว้าง ให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ลดความซับซ้อนในการพัฒนาของนักพัฒนาร่วมกับผู้ให้บริการ และพร้อมการต่อยอดนวัตกรรมของดิจิทัลแอปพลิเคชันในยุคต่อไป”
Henry Calvert, Head of Networks, GSMA กล่าวเสริมว่า “แพลตฟอร์มนี้จะมีบทบาทหลักในการสนับสนุนนักพัฒนาขององค์กรธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้เข้าถึงความสามารถและนวัตกรรมที่หลากหลายของเครือข่ายโทรคมนาคมเคลื่อนที่ จากความริเริ่มของ GSMA Open Gateway ในการกำหนดมาตรฐานในการทำงานร่วมกันของ APIs จะช่วยให้นักพัฒนา สามารถพัฒนาบริการ และแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นประโยชน์กับทั้งภาคธุรกิจและสังคมผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยทั่วไป”
ในส่วนของ AIS ยังจะเร่งพัฒนาตลาด ผ่านความร่วมมือพัฒนาการใช้งาน API กับนักพัฒนาแอปพลิเคชัน และผู้ให้บริการโซลูชัน โดยการสร้างเครือข่ายพันธมิตรที่จะทำงานร่วมกัน สนับสนุนทั้งด้านเทคนิคที่จำเป็น และการบ่มเพาะแนวคิดเพื่อสร้างนวัตกรรม การหาแนวทางการนำ APIs เหล่านี้ไปใช้กับผลิตภัณฑ์ดิจิทัลต่าง ๆ และสร้างการใช้งานใหม่ ๆ (Use Cases) ถือเป็นโอกาสใหม่ของพันธมิตรทั้งองค์กรธุรกิจ, นักพัฒนาแอปพลิเคชันและผู้ให้บริการโซลูชัน ที่จะผนึกกำลังเร่งการสร้างการพัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจ เศรษฐกิจและสังคมไปด้วยกัน
และครั้งนี้ AIS ได้เปิดตัวหนึ่งในพันธมิตรที่ทำงานร่วมกันแล้ว บน AIS Open API เพื่อให้บริการการยืนยันตัวตนยุคใหม่ผ่าน Number Verify API (Phone Number Verification) โดย IPification ผู้ให้บริการโซลูชันยืนยันตัวตนด้วยเทคโนโลยี IP Address และเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อป้องกันการทุจริตในระบบดิจิทัลระดับโลก ซึ่งมีฐานลูกค้าทั้งอุตสาหกรรมการเงิน และ OTT อาทิ Alibaba และอื่นๆ นับเป็นผู้ใช้บริการมากกว่า 3.5 พันล้านรายทั่วโลก บริการนี้ จะช่วยยกระดับการทำธุรกรรมทางโทรศัพท์ให้ปลอดภัยมากขึ้น โดยสามารถยืนยันตัวตนผู้ใช้บริการผ่าน Number Verify API โดยไม่ต้องใช้ OTP แบบเดิม สะดวก ปลอดภัย และรวดเร็วในระดับมิลลิวินาที ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อ เพิ่มโอกาสในการขาย หรือธุรกรรมผ่านดิจิทัล ให้กับองค์กรธุรกิจได้ดีมากยิ่งขึ้น
AIS Open API – Call to action สำหรับผู้ที่สนใจบริการ AIS Open API สามารถติดต่อทีมงาน AIS Business ได้ทันที โดยนอกจากบริการที่กล่าวไปแล้ว ยังมีบริการเฉพาะสำหรับการทำธุรกิจทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กอีกมากมาย สนใจสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ https://ais.th/business/enterprise/technology-and-solution/communication/ais-open-api
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ไทยพาณิชย์ จัดงาน Digital Marketing Trends 2024 เจาะลึก AI ช่วย SME เพิ่มยอดขาย
