อะโดบี บริษัทดิจิทัลที่ให้บริการบริษัทที่ต้องการสร้างดิจิทัลคอนเทนต์ และมีปฎิสัมพันธ์กับเนื้อหาและลูกค้า มาตลอด 4 ทศวรรษที่ผ่านมาอะโดบีสร้างนวัตกรรมมาตลอดเส้นทาง เริ่มจากสร้างเทคโนโลยีพื้นฐานด้านดิจิทัล ที่ช่วยสร้างภาพที่มีคุณภาพสูง จากนั้นก้าวเข้าสู่งานเอกสารด้วย PDF และในช่วงกว่าทศวรรษล่าสุดที่ผ่านมา อะโดบีได้เข้ามาในตลาดคอนเทนต์มากขึ้น และช่วยธุรกิจสร้างและบริหารประสบการณ์ด้านคอนเทน อะโดบีมีลูกค้าเป็นทั้งองค์กรธุรกิจและผู้บริโภค
ไซมอน เดล, รองประธานบริหาร และกรรมการผู้จัดการประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเกาหลีของอะโดบีกล่าวกับสื่อมวลชนไทยในงาน virtual group interveiw เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า อะโดบีเริ่มเส้นทางการทรานส์ฟอร์มด้านดิจิทัลเมื่อ 12 ปีที่ผ่านมาด้วยการมาทำการตลาดแบบ D2C คือ direct-to-consumer ซึ่งทุก ๆ บริษัทต่างลงทุนอย่างมากที่จะเข้าถึงลูกค้าของตัวเอง อะโดบีสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าซื้อสินค้าและบริการ และรักษาลูกค้านั้นไว้ตราบนานเทานาน หลังจากที่อะโดบีทำสิ่งเหล่านี้ ทำให้อะโดบีมีขีดความสามารถที่จะช่วยให้ทุก ๆ องค์กรสามารถทำแบบนี้ได้เช่นเดียวกัน
อะโดบี เริ่มตั้งสำนักงานที่กรุงเทพฯ ที่อาคาร Park Ventures Ecoplex อย่างเป็นทางการ หลังจากทำตลาดในประเทศไทยมานาน เพราะต้องการอยู่ใกล้และเข้าใจลูกค้าในประเทศไทยมากขึ้น ที่เรียกว่า be local สำนักงานที่กรุงเทพฯ ถือเป็นสำนักงานแห่งที่ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของอะโดบี และเพื่อต้องการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของอะโดบีในประเทศไทยมากขึ้น
สิ่งที่อะโดบีให้ความสำคัญคือการบริหารประสบการณ์ดิจิทัลให้กับลูกค้าของอะโดบีเองและลูกค้าของธุรกิจที่ใช้อะโดบี อาทิ กลุ่มเซ็นทรัล และสยามพิวรรธน์ ที่ใช้อะโดบีเพื่อสร้างประสบการณ์ดิจิทัลและปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าตั้งแต่การออกแบบเว็บไซต์ การสร้างอีคอมเมิร์ซ เพื่อเข้าใจลูกค้าจากข้อมูลที่ผ่านมาวิเคราะห์แล้ว สร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลให้กับลูกค้า นี่คือสิ่งที่อะโดบีทำให้ธุรกิจของอะโดบีและลูกค้าของอะโดบีทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย
ก่อนหน้านี้อะโดบีมี Adobe Creative Cloud เป็นชุดเครื่องมือสำหรับสร้างคอนเทนต์ อาทิ Adobe Photoshop และ Adobe Lightroom รวมถึง Adobe Document Cloud ที่เป็น Adobe Acrobat PDF และ Adobe Acrobat Sign
Adobe Experience Cloud รุก SME
ล่าสุด Adobe Experience Cloud ที่รวมเครื่องมือในการบริหารประสบการณ์ดิจิทัลไว้ที่เดียว ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการรวมเทคโนโลยีแต่เป็นแอปพลิเคชันสำหรับผู้ใช้งานด้านธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการตลาด ฝ่ายประสบการณ์ลูกค้า และฝ่ายอีคอมเมิร์ซในองค์กรธุรกิจ รวมถึงเอเจนซี่ที่จะช่วยลูกค้าสร้างคอนเทนต์เพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจนั้น ๆ
ภายใต้ Adobe Experience Cloud ประกอบด้วย 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับ customer journey, content & commerce, data insight & activation และ marketing planning & workflow
Adobe Experience Cloud ช่วยองค์กรวางแผนและบริหารโครงการที่เกี่ยวกับการตลาดและประสบการณ์ลูกค้า และช่วยให้ธุรกิจเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าที่เข้ามาปฏิสัมพันธ์กับทุกช่องทางดิจิทัลของธุรกิจนั้น ๆ เพื่อที่ธุรกิจนั้นจะได้สร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคอนเทนต์ คือ หัวใจ
อะโดบีมีเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรธุกิจสามารถสร้างคอนเทนต์แล้ว ยังมีเครื่องมือที่ช่วยให้นำคอนเทนต์ไปถึงลูกค้าผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชันบนมือถือ หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่สามารมีการวัดประสิทธิผลของคอนเทนต์เหล่านี้บนช่องทางการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย สิ่งนี้คือ content management
นอกจากนี้อะโดบียังมี Adobe Commerce ซึ่งอะโดบีไปซื้อกิจการ Magento มูลค่า 1.68 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 4 หมื่นล้านบาท เมื่อปี 2561 ทำให้อะโดบีมีเครื่องมือที่ทรงพลังที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเปลี่ยน audience เป็นลูกค้า ด้วยระบบที่ครบวงจรตั้งแต่ระบบ chceck- out จ่ายเงิน ส่งสินค้า
สิ่งสำคัญที่สุดของการบริหารประสบการณ์ลูกค้าคือ การสร้างประสบการณ์ลูกค้าตั้งแต่ต้นจนไปจบที่การซื้อสินค้าและบริการ รวมถึงเป็นลูกค้าประจำกลับมาซื้อซ้ำ ซึ่งอะโดบีมีชุดเครื่องมือที่จะช่วยธุรกิจบริหารประสบการณ์เฉพาะบุคคลให้ลูกค้า
การสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับลูกค้า ห่วงโซ่เนื้อหา (content suuply chain) เป็นสิ่งสำคัญที่อะโดบีเห็นโอกาสที่จะเข้าไปช่วยธุรกิจ ตั้งแต่การวางแแผน การผลิต การส่งมอบ และการวิเคราะห์เนื้อหาให้กับธุรกิจ
เปิดตัว Adobe Express for Enterprise
อะโดบี เปิดตัว Adobe Express for Enterprise แพลตฟอร์มบนอินเทอร์เน็ตที่ช่วยให้กระบวนการสร้างเนื้อหาทางการตลาดของธุรกิจเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เป็นแพลตฟอร์มที่ให้คนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเนื้อหาด้านดิจิทัลสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสะดวก ทำให้ธุรกิจขนาดกลางและเล็กมีความสามารถในกาารเข้าถึงเครื่องของอะโดบีได้ง่ายขึ้น สามารถนำเครื่องมือนี้ไปสร้างแต้มต่อทางธุรกิจได้ ซึ่ง Adobe Express for Enterprise นี้เป็นบริการฟรี
Adobe Firefly เครื่องมือสร้างภาพและวิดีโอด้วย generative AI ของอะโดบี ผ่านบริการ Adobe Sensei ให้ธุรกิจสามารถสร้างภาพและเนื้อหาวิดีโอจาก ซึ่งเป็นผลมาจากการเก็บข้อมูลการใช้งานอย่างถูกต้องตามกฎหมายของอะโดบีมาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา และสามารถออกแบบภาพได้สอดคล้องกับประสบการณ์ความต้องการของลูกค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การมาเปิดสำนักงานใหมที่ประเทศไทย อะโดบีจะมีทีมเข้าหาลูกค้าองค์กรมากขึ้น โดยทำงานร่วมกับพันธมิตรในประเทศไทย เพื่อช่วยให้ธุรกิจในประเทศไทยสามารถใช้เครื่องมือของอะโดบีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อธุรกิจนั้น ๆ ด้วยการเข้ามาให้ความช่วยหลืออย่างใกล้ชิดในการใช้เครื่องมือและการให้ความรู้เรื่องการสร้างประสบการณ์ลูกค้าด้วยคอนเทนต์
เศรษฐกิจกิจิทัลและนโยบายการสร้าง soft power ของรัฐบาลไทย เป็นอีก 2 แรงขับเคลื่อนในการสร้างดิจิทัลคอนเทนต์เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งจากรายงานThailand’s Martech Report 2023 เผยว่าองค์กรส่วนใหญ่ (30%) ในประเทศไทย จะลงทุนกับการใช้งาน Martech อยู่ประมาณ 10-20% ของงบการตลาดทั้งหมด
“เราลงทุนในการศึกษาอย่างมากในภูมิภาค SEA เพื่อสร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในการใช้ Adobe เป็นเครื่องมือดิจทับในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เราอยากจะเข้ามาช่วยประเทศไทยขับเคลื่อนในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน”
การมีสำนักงานที่ที่นี่ ไซมอล เดลล กล่าวว่า นอกจากช่วยลดการเดินทางของทีมอะโดบีที่ต้องเดินทางไปมา คือ การสร้างฐานลูกค้าให้แข็งแกร่งขึ้น ด้วยทีมที่ดูแลตลาดนี้อย่างโดยเฉพาะเจาะจง ที่สามารถมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ หาลูกค้าใหม่ได้เต็มที่เต็มเวลามากขึ้น
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
อาร์เอส จัดแคมเปญ RS Diversity | RS People All Bloom สะท้อนความหลากหลายของพนักงาน
COMMY ประกาศรีแบรนด์ในรอบ 30 ปี ทุ่ม 100 ล้าน ปรับแผนการตลาดใหม่ ตั้งเป้าปิดปีโต 100%
