TH | EN
TH | EN
หน้าแรกLifeGWM xEV Charity Drive ที่ มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ บางเลน

GWM xEV Charity Drive ที่ มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ บางเลน

ได้รับการชวนจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ให้ร่วมกิจกรรม GWM xEV Charity Drive คาราวานยานยนต์ไฟฟ้าการกุศล ด้วยการทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้า GWM ไป-กลับ ทำกิจกรรมสร้างกรงให้น้องหมา และคอนโดให้น้องเหมียว รวมถึงนำอาหารสัตว์เลี้ยงไปมอบให้มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (บางเลน)

เช้าวันอังคารสุดท้ายของเดือนกรกฎาคม ที่จุดนัดหมาย คือ DAVIN Café  ร้านกาแฟที่กำลังโด่งดังบนโลกออนไลน์ แถวเลียบด่วนฯ รามอินทรา เพื่อเดินทางสู่ มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) บางเลน จังหวัดนครปฐม รวมระยะทางไป-กลับทั้งสิ้นกว่า 130 กิโลเมตร

ก่อนออกเดินทาง ศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ได้ให้ข้อมูลว่า GWM จะทำกิจกรรม GWM xEV Charity Drive คาราวานยานยนต์ไฟฟ้าการกุศล 3 ครั้ง เดือนละครั้ง (กรกฎาคม – กันยายน 2565) เพื่อสานต่อพันธกิจการสร้างกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อเสริมสร้างสวัสดิภาพของชุมชนและความรับผิดชอบต่อสังคม ของ GWM และ stakeholders ของ GWM

นักข่าวกว่า 40 ชีวิต ร่วมเดินทางด้วยรถยนต์ของ GWM 3 รุ่น คือ All New HAVAL H6 Hybrid SUV, HAVAL JOLION และ ORA Good CAT GT จำนวน 8 คัน ฝ่าการจราจรยามเช้าวันอังคารที่ติดขัดตลอดเส้นทาง ทำให้ได้ทดสอบสมรรถนะการขับขี่รถไฟฟ้าในสภาพการจราจรที่เป็นปกติของถนนเมืองกรุง ที่ส่วนมากติดมากกว่าเคลื่อนที่ ซึ่งที่ผ่านมาจะได้ทดสอบการขับขี่ระยะทางไกลและการจราจรไม่หนาแน่น

ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงกว่าบนระยะทางราว ๆ 60 กิโลเมตร ผ่านเส้นทางการก่อสร้าง การหักเลี่ยงเลนถนน ผ่านถนนสาบแคบทอดยาวคดเคี้ยวเลียบท้องนาที่คิดว่าน่าจะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุดแล้ว จนมาถึงมูลนิธิฯ

ได้เวลาเปิดท้ายกระโปรงรถนำอาหารเปียกน้องเหมียวและอาหารเม็ดน้องหมาลงมาให้เจ้าหน้าที่นำไปรวบรวมเก็บไว้

ก่อนจะไปรวมตัวกันเพื่อฟังบรรยายจาก พิมพ์กุล โอฬารศิรโรจน์ ผู้อำนวยการมูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ ว่า มูลนิธิฯ เพิ่งย้ายมาจากที่เดิมที่อยุ่ที่นนทบุรีเมื่อต้นปี 2564 ก่อนหน้านั้นมีน้องหมาที่ปกติอาศัยอยู่ที่นี่ก่อนแล้วราว 800 ตัว เมื่อมูลนิธิฯ ถูกไล่ที่จากที่เดิมที่นนทบุรีมาที่นี่ จึงนำสัตว์พิการ อีกจำนวนเกือบ 300 ตัวอยู่ที่นี่ โดยที่ยังเหลือสัตว์พิการที่ติดเตียงและต้องอยู่ใกล้สัตว์แพทย์ ยังอยู่ที่นนทบุรีอีกเกือบ 50 ตัว

บนพื้นที่ 21 ไร่ของมูลนิธิฯ ถูกจัดแบ่งเป็นโซนพักอาศัยของเหล่าน้องหมาและน้องเหมียว ส่วนมากจะเป็นน้องหมา ซึ่งแบ่งออกเป็ยโซนหลัก 3 โซน คือ ด้านในสุด เป็นที่พักของสัตว์พิการ (ติดเตียง) น้องหมาจะอยู่ในเตียงกรงแยกเดี่ยว โรงนอนมีพัดลมเปิดทำความเย็นให้ตลอดเวลา โรงเรือนสะอาดสะอ้าน แต่ละเตียงกรงมีถ้วยน้ำวางไว้ให้ดื่ม มีป้ายชื่อทุกเตียง และบางเตียงจะมีป้ายเตือนว่าน้องดุ

เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลให้ข้อมูลว่า จะให้อาหารน้อง ๆ วันละ 2 เวลา คือ 7 โมงเช้า กับบ่าย 3 โมงเย็น และจะอาบน้ำให้น้อง ๆ ทุกตัว สัปดาห์ละครั้ง

จากที่ได้เดินไปหาน้อง ๆ น้อง ๆ เกือบทุกตัวส่งสายตาเว้าวอน และเข้ามาหา และเล่นด้วย ด้วยอาการประจบประแจง ความกระตือรือร้นในการเข้ามาหาของน้อง ๆ แตกต่างกันไปตามมแต่นิสัยและพื้นหลัง เพราะบางตัวมีท่าทีกลัวและหดตัวหนีออกไปสุดกรง เจ้าหน้าที่แจ้งว่าบางตัวที่มีอาการแบบนั้นเป็นเพราะว่าน้องเคยโดนทำร้ายมา

โซนต่อมาคือ โซนของสัตว์พิการที่ยังปีนกรงได้ คือ ยังช่วยเหลือตัวเองได้ น้องหมาจะอยู่รวมกันในพื้นที่ (กรง) ขนาดใหญ่ มีตาข่ายกั้นระหว่างน้อง ๆ กับคนที่มาเยี่ยมเยียน น้องหมาในโซนนี้จะไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ที่มาเยี่ยมเยือน แต่จะวิ่งออมาหาที่ริมกรงเมื่อมีคนเดินเข้ามาทักทาย แต่บางตัวก็ยืนส่งเสียงเห่าอยู่ไกล ๆ

อีกโซนเป็นโซนสำหรับน้องหมาที่ปกติ เป็นเหมือนกรงในสวนสัตว์ที่มีพื้นที่กว้างและสะอาด น้อง ๆ จะเดินเล่น บ้างก็นอนอาบแดด มีเจ้าหน้าที่เข้าไปกวาดพื้นทำความสะอาดกรงให้ พอเห็นคนเดินเข้ามาทักทายที่ริมกรง น้อง ๆ ก็กรูกันเข้ามาหากระดิกหางและส่ายก้นไปมา

สำหรับโซนน้องเหมียว เป็นอาคารแยกต่างหาก มีประตูเข้าสองชั้น กันน้องเหมียววิ่งสวนทางหลุดออกไป ข้างในห้องนั้น มีน้องเมียวอาศัยรวมกันอยู่นับร้อย มีคอนโดแมว โต๊ะ และเตียงนอน รวมถึงของเล่นวางเรียงราย หน้าห้องมีซองอาหารเปียกให้บริการให้ผู้ที่มาเยี่ยมเยือนได้อุดหนุนป้อนน้อง ๆ เข้าไปอยู่ข้างในแล้วได้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในคาเฟ่แมว

อีกฝั่งของเรือนนอนน้องเหมียว เป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ และมีการก่อสร้างอาคารโรงเรือนขนาดใหญ่ ยกพื้นสูง บนบึงน้ำนั้น อาคารนี้เองที่เป็นอาคารที่จะสร้างเพื่อนำสัตว์พิการมาอาศัย และวางแผนไว้ว่าจะเป็นที่หลบภัยให้น้องหมาและน้องเหมียวหากเกิดน้ำท่วม

กิจกรรมที่ได้ทำที่นั่น คือ การช่วยกันต่อกรงให้น้องหมา และสร้างคอนโดให้น้องแมว รวมถึงได้นำไก่ต้มหั่นชิ้น ไปป้อนน้องหมาที่พิการ

ก่อนที่จะไปทานมื้อกลางวันและเดินทางกลับ

ที่นี่เปิดรับผู้ที่ต้องการมาเยี่ยมเยือนและสนับสนุนทุกรูปแบบ ทั้งอาหารและปัจจัย ทางมูลนิธิฯ บอกว่า หากมาเป็นอาหาร บางทีได้รับเป็นจำนวนมากทางมูลนิธิฯ มีจัดส่งต่อให้ที่อื่น ๆ สำหรับปัจจัย (เงิน) นั้นนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทุกอย่าง ทั้งค่าน้ำค่าไฟ ค่าคนงาน ค่าสัตวแพทย์ประจำ ค่าหาหมอ ค่ารักษาสัตว์ป่วย โดยเฉพาะป่วยใหญ่ (หากป่วยเล็กจะมีสัตวแพทย์ประจำดูแล)

มูลนิธิฯ ไม่ได้รอรับเงินบริจาคเพียงอย่างเดียว แต่มีบริการแลกรายได้ ทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านขายของที่ระลึก ซึ่งก็เป็นของใช้ที่เราสามารถสนับสนุนแล้วนำมาใช้ได้ อาทิ เสื้อยืด ถุงผ้า ผ้าเช็ดมือ ซองใส่เครื่องเขียน เป็นต้น

วันธรรมดามูลนิธิฯ​ ไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปไปเยี่ยมน้อง ๆ แต่เปิดรับองค์กรที่นำพาคนมาทำกิจกรรมอาสาเช่นเดียวกับที่ GWM พาสื่อมวลชนลงพื้นที่ทำกิจกรรมในครั้งนี้ สำหรับคนทั่วไปที่ต้องการไปเยี่ยมน้องหมาน้องแมวที่นี่ สามารถมาได้ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ 9:00 – 17:00 น.

เว็บ The Story Thailand ได้มีโอกาสไปร่วมกิจกรรมครั้งนี้ และอยากส่งต่อความเอื้ออาทรสู่น้องหมาและน้องแมวของที่นี่ ด้วยการขอมอบหนังสือ The Story Thailand EP2 ให้กับทุกท่านที่ โอนค่าหนังสือ จำนวน 325 บาท ให้กับมูลนิธิบ้านสงเครราะห์สัตว์พิการ สาขาบางเลน แล้วส่งใบสลิปโอนเงิน พร้อมชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรมาที่ (Inbox) เพจ Facebook The Story Thailand

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ