TH | EN
TH | EN
หน้าแรกNewsม.มหิดล ดันสตาร์ตอัพผลิต RT-LAMP ครอบคลุมตรวจ OMICRON ผ่านการรับรองจาก อย.

ม.มหิดล ดันสตาร์ตอัพผลิต RT-LAMP ครอบคลุมตรวจ OMICRON ผ่านการรับรองจาก อย.

ตลอดเวลาที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมหิดลฝ่าฟันกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก เปิดมิติใหม่โดยแทนที่จะผลักดันนักศึกษาให้เป็นสตาร์ตอัพทีละรายสู่การส่งเสริมให้เกิดกลุ่มสตาร์ตอัพต่อยอดเทคโนโลยีที่ใช้ประโยชน์ได้จริงแบบบูรณาการ ก่อนการก้าวสู่การเป็นสตาร์ตอัพในสเกลที่ใหญ่ขึ้นหลังสำเร็จการศึกษา ซึ่งจะเป็นการร่วมผลักดันประเทศไทยให้สามารถก้าวสู่การเป็นประเทศนวัตกรรมได้ทัดเทียมนานาประเทศต่อไป 

ตัวอย่างที่นับเป็นความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัยมหิดลได้แก่ กลุ่มสตาร์ตอัพจากกลุ่มนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล นำโดยกวิน น้าวัฒนไพบูลย์ ที่ได้ต่อยอดพัฒนาชุดตรวจ RT-LAMP ตั้งแต่เมื่อครั้งที่เริ่มมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จนปัจจุบันได้พัฒนาสู่เวอร์ชัน 3 ที่สามารถตรวจครอบคลุมสายพันธุ์ OMICRON และสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้เฝ้าระวัง ได้แก่ DELTA, ALPHA และ BETA ซึ่งเป็นผลงานนวัตกรรมร่วมระหว่างคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และคณะวิทยาศาสตร์ ประกอบกับการสนับสนุนจากสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iNT) มหาวิทยาลัยมหิดล

“สายพันธุ์ OMICRON เกิดจากการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส COVID-19 จนทำให้สามารถเข้าไปจับกับเซลล์ในร่างกายได้ง่ายขึ้น ซึ่งการกลายพันธุ์เป็นธรรมชาติของเชื้อไวรัสโดยทั่วไป สำหรับชุดตรวจ RT-LAMP เวอร์ชัน 3 นี้นอกจากผ่านการรับรองโดยองค์การอาหารและยา (อย.) แล้ว ยังมีจุดเด่นที่ความไว และเวลาที่ใช้ตรวจที่สั้นกว่าสองเวอร์ชันแรก โดยมีความไวถึงร้อยละ 96.51 และใช้เวลาตรวจเพียง 30 นาทีจากการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งหลังโพรงจมูก (Nasal Swab) หรือการป้ายลำคอ (Throat Swab) สามารถดูผลการติดเชื้อได้จากการเปลี่ยนสีของน้ำยา ผลลบจะเป็นสีชมพูเหมือนเดิม แต่ผลบวกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ชุดตรวจ RT-LAMP นี้ใช้ตรวจเฉพาะในห้องปฏิบัติการโดยผู้เชี่ยวชาญซึ่งให้ความแม่นยำกว่าการตรวจด้วย ATK” กวิน น้าวัฒนไพบูลย์ กล่าว

อาจารย์แพทย์หญิงรพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด อาจารย์ประจำสาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แสดงความห่วงใยประชาชนถึงการป้องกันความรุนแรงที่จะเกิดจากการติดเชื้อไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ OMICRON ว่าสามารถทำได้ด้วยการเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 อย่างน้อย 2 เข็ม ซึ่งถึงแม้จะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อที่กลายพันธุ์ได้ 100% แต่ก็สามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการที่อาจเกิดขึ้นจนถึงกับต้องเข้ารับการรักษาในห้อง ICU ได้ โดยควรปฏิบัติตามสูตรการฉีดวัคซีนต่อเนื่องที่ประกาศโดยกรมควมคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 

“การเตรียมพร้อมร่างกายก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ด้วยการควบคุมเบาหวาน ไขมัน ความดัน และน้ำหนักตัว จะทำให้เมื่อได้รับวัคซีนแล้วร่างกายจะแสดงปฏิกิริยาน้อยลง และถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ดูแลสุขภาพไปด้วย ซึ่งการฉีดวัคซีนควรทำเมื่อพร้อม และในรายที่มีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนควรปรึกษาแพทย์” อาจารย์ แพทย์หญิงรพีพรรณ รัตนวงศ์นรามอร์ด กล่าวทิ้งท้าย

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ยิบอินซอย ลงทุน ‘วินโนหนี้’ สตาร์ตอัพแพลตฟอร์มรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า

Kubix ประเดิมจับมือ GDH และบรอดคาซท์ฯ เตรียมเปิดตัว DESTINY Token

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ