Story of Business • Technology • Sustainability
Share on
×

Share

เมื่อโลกเทคโนโลยีเคาะประตูสภา: เดิมพันครั้งใหม่ของ ‘Tech Talent’ กับการเปลี่ยนผ่านประเทศไทย

ในบรรยากาศทางการเมืองที่กำลังเข้มข้น นอกเหนือจากใบหน้าของนักการเมืองมืออาชีพที่คุ้นตา ปรากฏการณ์หนึ่งที่น่าจับตามองอย่างยิ่งในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ คือการปรากฏตัวของกลุ่มคนที่เรียกได้ว่าเป็น “Tech Talent” ระดับหัวกะทิของวงการธุรกิจและเทคโนโลยีไทย การตัดสินใจก้าวออกจากโลกธุรกิจที่พวกเขาสร้างมากับมือ เพื่อลงสู่สนามการเมืองที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ไม่ใช่เพียงแค่สีสันทางการเมือง แต่คือนัยสำคัญที่บ่งบอกว่า กำแพงระหว่าง “โลกเทคโนโลยี” กับ “โลกการเมือง” กำลังถูกทลายลง

จากผู้สร้างระบบนิเวศ สู่ผู้ขอกำหนดทิศทางประเทศ

หากเรามองไปที่รายชื่อผู้ท้าชิงเก้าอี้สส. ในกลุ่มนี้ จะเห็นภาพสะท้อนของความเชี่ยวชาญที่หลากหลายแต่สอดประสานกัน เริ่มจาก ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ชื่อนี้คือตำนานในฐานะเจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซ (E-commerce) ผู้ปลุกปั้น TARAD.com ประสบการณ์ของเขาในการมองภาพรวมเศรษฐกิจดิจิทัลทั้งระบบ คือต้นทุนสำคัญที่อาจช่วยให้ประเทศไทยก้าวทันโลกการค้ายุคใหม่ได้ดียิ่งขึ้น

ในขณะเดียวกัน การก้าวเข้ามาของ อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Blognone และผู้บริหารจาก LINE MAN Wongnai ก็น่าจับตามองในมิติของการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแพลตฟอร์มและสื่อไอที ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในยุคที่รัฐบาลต้องสื่อสารและให้บริการประชาชนผ่านช่องทางดิจิทัล

LINE MAN มอบทุนการศึกษา 1 ล้านบาท แก่บุตรคนขับในโครงการ “ส่งเสริมเติมฝัน”

ความหวังเรื่อง ‘ข้อมูล’ และ ‘ระบบ’ ที่แม่นยำ

อีกหนึ่งมิติที่น่าสนใจคือการนำความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ธีระชาติ ก่อตระกูล ซีอีโอจาก StockRadars เป็นตัวแทนของโลกฟินเทค (FinTech) ที่เชื่อมั่นในพลังของข้อมูล (Data) หากแนวคิดนี้ถูกผลักดันเข้าสู่สภา การจัดสรรงบประมาณและการลงทุนของประเทศอาจเปลี่ยนโฉมหน้าไปสู่ความแม่นยำและคุ้มค่าด้วยข้อมูลเชิงลึก

สอดคล้องกับ ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ จาก JIBSOFT ที่มาพร้อมความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลโซลูชันและการวางระบบซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่จะช่วยเปลี่ยนคำว่า “รัฐบาลดิจิทัล” จากนโยบายสวยหรู ให้กลายเป็นระบบที่ใช้งานได้จริง

รอยต่อแห่งอนาคต

วันนี้ ทั้งสี่คนยังคงสถานะเป็นเพียงผู้เสนอตัว เป็นทางเลือกให้ประชาชนพิจารณา แต่การขยับตัวของพวกเขาได้สร้างแรงกระเพื่อมที่น่าสนใจ เป็นสัญญาณว่าบุคลากรคุณภาพในภาคเอกชนเริ่มมองเห็นว่า การขับเคลื่อนประเทศไม่สามารถทำได้เพียงแค่การสร้างธุรกิจให้เติบโต แต่ต้องอาศัยกลไกทางรัฐสภาในการปลดล็อกอุปสรรคต่าง ๆ

ไม่ว่าบทสรุปสุดท้ายพวกเขาจะได้ก้าวเข้าไปทำหน้าที่ในสภาหรือไม่ แต่หน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยได้บันทึกแล้วว่า ถึงเวลาแล้วที่คนสายเทคฯ จะผันตัวจากผู้สร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ มาเป็นผู้ขันอาสาขับเคลื่อนประเทศ และนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่เราจะได้เห็น “Tech DNA” เข้าไปผสมผสานอยู่ในกระดูกสันหลังของการบริหารประเทศไทยในอนาคต

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

อว. ปั้น 1.7 หมื่น AI Talent ดันไทยฮับอาเซียน

EGCO Group ชูกลยุทธ์ ‘POWER4’ ทุ่ม 30,000 ล้านบาท ขับเคลื่อนพลังงานสะอาด

×

Share

ผู้เขียน