Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดสกุลหนึ่งของโลก ด้วยการที่สร้างอยู่บนเทคโนโลยี Blockchain ทำให้ Bitcoin มีความปลอดภัย โปร่งใส และได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
แต่รู้หรือไม่? Bitcoin ไม่ใช่สกุลเงินดิจิทัลตัวแรกที่ถูกสร้างขึ้นมาแต่อย่างใด ดังนั้นเราจะมาดูกันว่า ก่อนที่ Bitcoin จะเกิดขึ้นมา มีสกุลเงินดิจิทัลสกุลใดบ้างที่น่าสนใจ และกลายเป็นต้นแบบให้กับ Bitcoin ได้อย่างไร
-ประวัติศาสตร์การเงินก่อนมาเป็น Bitcoin
-อธิบาย Bitcoin การเงินแห่งอนาคต
ต้นกำเนิดของเงินดิจิทัล
ในช่วงปลายยุค 80 ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์ กลุ่มปั๊มน้ำมันในพื้นที่ชนบทประสบปัญหาถูกปล้นตอนกลางคืน ทางปั๊มไม่อยากให้พนักงานต้องเสี่ยงชีวิต จึงเกิดความคิดสร้างเป็นบัตร Smart card และแจกให้กับบริษัทขนส่งที่เป็นลูกค้าหลัก คนขับรถบรรทุกของบริษัทก็สามารถนำบัตรนี้มาใช้แทนการจ่ายเงินสดที่ปั๊มได้ ซึ่งก็สามารถลดจำนวนการปล้นลงไปได้อย่างมาก และนีก็เป็นจุดกำเนิดของอุปกรณ์ชำระเงินแบบ POS (Point of sale) หรือต้นแบบของเครื่องรูดบัตรเครดิตในปัจจุบันนนั่นเอง
DigiCash
ในปี 1983, นาย David Chaum นักศึกษาปริญญาเอก สาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัย Berkeley ได้ออกเอกสารที่ชื่อว่า Untraceable Electronic Mail, Return Addresses, and Digital Pseudonyms ซึ่งก็คือสกุลเงินดิจิทัลที่ชื่อว่า DigiCash โดยมีคอนเซ็ปท์คือ Blind Signature ที่เป็นการเข้ารหัสข้อมูลธุรกรรมระหว่างผู้ใช้ ซึ่งแนวคิดของ Blind Signature นี้เอง ก็ได้กลายมาเป็นต้นแบบของ Public Key กับ Private Key ของ Bitcoin
B-Money
ในปี 1998, นาย Wei Dai วิศวกรคอมพิวเตอร์ สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Washington ได้ออกเอกสารที่อธิบายถึงแนวคิดของ B-Money ที่เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใช้การเข้ารหัสข้อมูลธุรกรรมคล้าย ๆ กับ DigiCash แต่ได้เพิ่มเติมในส่วนของการกระจายอำนาจ (Decentralized) โดยเป็นการให้เครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม ซึ่งแนวคิดนี้ได้กลายมาเป็นพื้นฐานของ Blockchain แบบ Proof-of-Work ที่ Bitcoin รวมถึงเครือข่าย Blockchain อื่น ๆ ใช้กันในปัจจุบัน
Bit Gold
ในปี 1998, นาย Nick Szabo นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ หนึ่งในผู้ผลักดันแนวคิดของ Blockchain คนแรก ๆ ได้ร่างเอกสารที่อธิบายการทำงานของ Bit Gold โดยมีระบบแบบกระจายศูนย์ ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายต้องทำการแข่งกันแก้สมการทางคณิตศาสตร์แลกกับสิทธิ์ในการยืนยันธุรกรรม ถึงแม้ว่า Bit Gold จะไม่ได้ถูกใช้งานจริง ๆ แต่แนวคิดของมันก็คล้ายกับ Bitcoin มากถึงกับมีคนตั้งคำถามว่า แท้จริงแล้วนาย Nick Szabo คือ Satoshi Nakamoto ตัวจริงหรือไม่? ซึ่งภายหลัง Nick Szabo ก็ได้ออกมาปฏิเสธคำถามดังกล่าว
HashCash
HashCash เกิดขึ้นในปี 1997 สร้างขึ้นโดยนาย Adam Beck นักวิทยาการเข้ารหัส (Cryptographer) ซึ่ง HashCash ใช้ระบบ Proof-of-Work ในการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของธุรกรรม ซึ่งมีพื้นฐานมาจากระบบที่ใช้สำหรับการลดจำนวนอีเมล์ที่เป็นสแปม และระบบป้องกัน DDoS attacks แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากข้อจำกัดทางด้านเทคโนโลยี เพราะว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ในสมัยนั้นยังไม่สามารถประมวลผลเพื่อแก้ไขสมการทางคณิตศาสตร์ได้รวดเร็วพอ
สรุป
จากตัวอย่างที่ยกมา จะเห็นได้ว่าก่อน Bitcoin จะกำเนิดขึ้น ก็มีการสร้างสกุลเงินดิจิทัลตัวอื่น ๆ ขึ้นมาหลายสกุล ถึงแม้สกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้จะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนกับ Bitcoin เนื่องจากข้อจำกัดต่าง ๆ เช่น ข้อจำกัดทางเทคโนโลยี หรือจังหวะเวลา จึงยังไม่สามารถเข้าถึงบุคคลทั่วไปได้ดีพอ แต่สกุลเงินเหล่านี้ก็กลายมาเป็นพื้นฐานให้กับ Bitcoin เช่น DigiCash ที่เป็นพื้นฐานด้านการเข้ารหัสข้อมูล, B-Money ที่เป็นพื้นฐานด้านการกระจายอำนาจ, หรือ Bit Gold กับ HashCash ที่เป็นพื้นฐานของระบบ Proof-of-Work ในเทคโนโลยี Blockchain เป็นต้น
ติดตามบทความดี ๆ เกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซี Blockchain และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ได้ที่ Bitkub หรือเริ่มเข้าสู่โลกแห่งสินทรัพย์ดิจิทัลและ Blockchain ไปกับ Bitkub Academy
อ้างอิง Bitcoin Magazine, HackerNoon, Investopedia
