เปิดประเทศเต็มร้อย กัมพูชาปั้น “ซอฟต์ พาวเวอร์” ท่องเที่ยวสายวัฒนธรรม และจิตนิยม

กัมพูชาภายใต้สถานการณ์โควิด สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ยกเลิกการสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ และนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว เนื่องจากชาวกัมพูชา เกือบร้อยละ 90 ได้รับวัคซีนป้องกันโควิดครบโดสแล้ว

วันที่ 28 เม.ย.2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล กองทัพนักกีฬากัมพูชาได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อจะเดินทางไปร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ สมเด็จฮุนเซน กล่าวตอนหนึ่งว่า “หมอดูทำนายว่า ผมจะมีอายุยืนยาวถึง 101 ปี..แต่ผมคงไม่ขออยู่ในอำนาจจนถึงอายุ 101 ปี  ขอแค่อีก 10 ปีก็พอแล้ว”

นี่แหละฮุนเซนสไตล์ นายกรัฐมนตรีเกือบจะตลอดกาลของกัมพูชา ซึ่งปีที่แล้ว สมเด็จฮุนเซนสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโควิดจากจีน ทั้งซิโนแวค และซิโนฟาร์ม มาระดมฉีดให้แก่ประชาชน โดยไม่สนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนักการเมืองฝ่ายค้านที่อยู่นอกประเทศเรื่องคุณภาพวัคซีน

จากข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาพบว่า ประชากรกว่าร้อยละ 93 ของประชากรทั้งหมด 16 ล้านคน ได้ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส และร้อยละ 88.5 ได้ฉีดวัคซีนครบโดส ส่วนร้อยละ 51.7 ได้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (ตามมาตรการบังคับ)

ดังนั้น เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2565 สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จึงได้ประกาศยกเลิกคำสั่งบังคับสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะ และพื้นที่เปิดโล่งทั่วประเทศ โดยมีผลบังคับใช้ทันที ส่วนพื้นที่ปิดในร่มที่มีเครื่องปรับอากาศ อาทิ ห้องประชุมและโรงภาพยนตร์ จะยังบังคับสวมหน้ากากอนามัยต่อไป

นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ออกประกาศประกาศให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาประเทศกัมพูชา ไม่จำเป็นต้องแสดงผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2565 ยกเลิกข้อกำหนดให้แสดงผลตรวจ PCR ของโควิด-19 เพื่อเดินทางเข้าประเทศกัมพูชา และยกเลิกข้อกำหนดในการตรวจโควิดเร่งด่วน (ATK) เพื่อเป็นการดึงดูดนักลงทุน นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยว ให้เดินทางเข้ามาในกัมพูชาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจ และการท่องเที่ยวของกัมพูชา

ช่วงเทศกาลปีใหม่เขมร หรือสงกรานต์ รัฐบาลกัมพูชา อนุญาตให้จัดงานเฉลิมฉลองสงกรานต์ได้ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 14-16 เม.ย.2565 ซึ่ง รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา สรุปว่า ช่วงสงกรานต์มีนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น 4,590,362 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา 4,561,477 คน และชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในกัมพูชา 28,849 คน

‘ท่องเที่ยวสายมู’

ช่วงก่อนสงกรานต์ สมเด็จฮุนเซน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการก่อสร้างสนามบินนานาชาติเสียมราฐอังกอร์ที่อยู่ห่างจากอุทยานโบราณสถานพระนคร (อังกอร์) 40 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองเสียมราฐราว 50 กิโลเมตร โดยสนามบินแห่งนี้ จะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ 

สมเด็จฮุนเซนกล่าวว่า โครงการนี้เป็นอีกผลงานหนึ่งของความร่วมมือระหว่างกัมพูชาและจีน เมื่อเปิดใช้งานแล้ว จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในเขตภาคเหนือประกอบด้วย จ.เสียมราฐ จ.อุดรมีชัย จ.กำปงธม และจ.พระวิหาร

สนามบินนานาชาติเสียมราฐอังกอร์ ครอบคลุมพื้นที่ราว 4,375 ไร่ ลงทุนโดยบริษัท Angkor International Airport Investment (Cambodia) Co.,Ltd. ที่เป็นบริษัทในเครือของบริษัท Yunnan Investment Holdings Ltd. ของจีน ทั้งนี้ คาดว่าโครงการจะก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในเดือน มี.ค.2566 และเริ่มใช้งานในเดือน ต.ค.2566

สมเด็จฮุนเซน ยกให้ จ.เสียมราฐ เป็นจังหวัดดาวรุ่งในภูมิภาคตอนเหนือของกัมพูชา เนื่องด้วยโครงสร้างพื้นฐานสร้างใหม่ในตัวเมือง และท่าอากาศยานนานาชาติแห่งใหม่ 

จ.เสียมราฐ เป็นที่ตั้งของอุทยานโบราณคดีพระนคร (อังกอร์) มีพื้นที่ 401 ตารางกิโลเมตร ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ในปี 2535

กระทรวงท่องเที่ยวกัมพูชาแถลงว่า ได้จัดตั้ง จ.เสียมราฐเป็นเขตการท่องเที่ยวพิเศษ นำจุดเด่นของเสียมราฐมหานครศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งปราสาทนครวัด และปราสาทหินโบราณหลายสิบแห่ง รวมถึงมีเรื่องเล่าลี้ลับในดินแดนแห่งนี้มานานหลายพันปี 

พูดง่าย ๆ กัมพูชากำลังออกแบบ จ.เสียมราฐ เป็นการท่องเที่ยวสายวัฒนธรรม และจิตนิยม รองรับนักท่องเที่ยวสายมูโดยเฉพาะ 

มิเพียงเท่านั้น กระทรวงท่องเที่ยวกัมพูชา ได้วางโครงสร้างบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอาณาจักรขอมโบราณ พร้อมรับนักท่องเที่ยวทุกระดับ และปรับปรุงแลนด์สเคปเตรียมตัวไปสู่เสียมราฐสมาร์ทซิตี้ ในอนาคต

กัมพูชาได้เปิดรับนักท่องเที่ยวมาที่เที่ยวชมอุทยานโบราณคดีพระนคร(อังกอร์) ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565 โดยพบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เยี่ยมชมอุทยานฯ กลับมาฟื้นตัวในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 อยู่ที่ 19,840 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 342 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 

ในสถานการณ์ปกติ อุทยานฯ ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึง 2.2 ล้านคนเมื่อปี 2562 และทำรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมราว 3.31 พันล้านบาท

‘ตำนานสร้างเมืองเขมร’

ปลายปี 2564 กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาประกาศการให้จังหวัดพระสีหนุ หรือสีหนุวิลล์ และโครงการดาราสาคร ในจังหวัดเกาะกง ให้เป็นพื้นที่นำร่องในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบโดส เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.2564 

ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา สมเด็จฮุนเซน และท่านผู้หญิงบุนรานี ภริยาพร้อมครอบครัว ได้เดินทางไปพักผ่อนที่ชายทะเลสีหนุวิลล์ ซึ่งก่อนวันปีใหม่เขมร สมเด็จฮุนเซน ได้เป็นประธานในพิธีเปิดตัวรูปปั้น “พระทองและนางนาค” บริเวณวงเวียนแห่งหนึ่งในเขตไพรนบ จ.พระสีหนุ 

รูปปั้นพระทอง-นางนาค ได้หันหน้าสู่ทะเล เป็นรูปปั้นทองแดง มีน้ำหนัก 60 ตัน สูงตระหง่าน 21 เมตร และยืนอยู่บนบัลลังก์สูง 6.34 เมตร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการถือกำเนิดแผ่นดิน วัฒนธรรม อารยธรรม ขนบธรรมเนียม และประเพณีของกัมพูชา

สมเด็จฮุนเซน กล่าวว่า รูปปั้นนี้ มีความสมบูรณ์แบบ สะท้อนเอกลักษณ์ของกัมพูชา และไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของการกำเนิดแผ่นดินกัมพูชา หากแต่ยังเป็นผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดใจด้วย

ตำนานพระทอง-นางนาค ได้มีการเล่าขานสืบมาในรูปแบบของนิทานพื้นบ้านกัมพูชา และต่อมาพระองค์นพรัตน์ได้นำมาเชื่อมไว้ในต้นราชพงศาวดารกรุงกัมพูชา 

นางนาคชื่อ ทาวดีเป็นลูกนาคราชอาศัยอยู่ใต้บาดาล และพระทองเป็นเจ้าชายจากแดนไกล วันหนึ่งนางนาคแปลงกายเป็นมนุษย์ขึ้นมาเล่นน้ำ เป็นจังหวะที่พระทองเดินทางมาพบจึงเกิดหลงรักนางนาคและแต่งงานกัน บิดานางนาคจึงเนรมิตเมืองขึ้นให้ชื่อกัมพูชา ให้แก่พระทองและลูกสาวของตน พระทองจึงเป็นปฐมกษัตริย์แห่งกัมพูชา 

เมื่อพระทองต้องการลงไปเมืองบาดาล แต่เป็นมนุษย์ไม่สามารถเดินทางไปได้ นางนาคจึงให้พระทองจับสไบเพื่อจะสามารถตามไปยังถ้ำใต้บาดาลได้ ดังปรากฏในรูปปั้นพระทอง-นางนาค ที่สมเด็จฮุนเซน ภูมิใจนำเสนออย่างยิ่ง

ปัจจุบัน ภาพลักษณ์สีหนุวิลล์ ได้เปลี่ยนจากเมืองชายทะเลอันเงียบสงบ สวรรค์ของนักท่องเที่ยว ได้กลายเป็นมาเก๊า 2 เพราะเต็มไปด้วยกาสิโนชาวจีน 

การปลุกจิตวิญญาณของคนกัมพูชา ด้วยรูปปั้นพระทอง-นางนาค ก็ไม่ต่างอะไรกับซอฟต์พาวเวอร์ (Soft power) ฉบับฮุนเซน ที่ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวใหม่ใน จ.พระสีหนุ หรือสีหนุวิลล์

ผู้เขียน: ประชา บูรพาภิวัฒน์

คอลัมน์: แม่โขงคอนเนก

ภาพจาก: Facebook: Samdech Hun Sen, Cambodian Prime Minister