TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistBitkub Onlineรู้จัก Stablecoin ทั้ง 4 ประเภท ทำไมนักลงทุนถึงชื่นชอบเหรียญเหล่านี้

รู้จัก Stablecoin ทั้ง 4 ประเภท ทำไมนักลงทุนถึงชื่นชอบเหรียญเหล่านี้

สิ่งหนึ่งที่นักเทรดคริปโทฯ มือใหม่หลายคนกำลังปวดหัวกันหนึ่งในนั้นก็คือ ประเภทของเหรียญที่มีเยอะแยะไปหมดแน่ ๆ โดยเฉพาะเหรียญประเภทที่เรียกกันว่า Stablecoin ซึ่งเป็นประเภทเหรียญที่ถูกพูดถึงและออกข่าวบ่อย ๆ

แล้ว Stablecoin คืออะไร ทำไมถึงมีชื่อเรียกเช่นนั้น และถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร บทความนี้จะพาคุณรู้จักกับ Stablecoin ให้มากขึ้น เพื่อให้คุณสามารถลงทุนในคริปโทฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

Stablecoin คืออะไร?

คำอธิบายที่ง่ายที่สุดสำหรับ Stablecoin คือ สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่ามั่นคง ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนกับคริปโทเคอร์เรนซีสกุลอื่น ๆ เหมือนกับเงินตราที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้นั่นเอง และปัจจุบันก็เริ่มถูกนำไปใช้ในการซื้อขายสินค้าหรือบริการทั่วไปมากขึ้นเรื่อย ๆ

การที่ Stablecoin มีมูลค่าที่มั่นคงได้นั้นเป็นเพราะว่าเหรียญเหล่านี้ถูกนำไปผูกมูลค่า (Peg) กับสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างเหรียญที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันอย่าง USDT และ USDC นอกจากนี้ก็ยังมี Stablecoin ที่ผูกมูลค่ากับคริปโทฯ สกุลอื่นที่อย่าง Bitcoin หรือ Ethereum ด้วยเช่นกัน

Stablecoin มีกี่ประเภท และทำให้มีมูลค่าคงที่ได้อย่างไร?

Stablecoin ที่มีอยู่ในปัจจุบัน สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ตามวิธีที่ทำให้เหรียญมีมูลค่าคงที่ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1.Stablecoin ที่ผูกกับเงินเฟียต (Fiat-Backed Stablecoins)

Stablecoin ประเภทนี้ถือว่าเป็นประเภทที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในปัจจุบัน หากพิจารณาจากมูลค่าตลาด (Market cap) โดยเหรียญในกลุ่มนี้ได้แก่ USDC, BUSD และ USDT

สำหรับการผูกมูลค่าของ Stablecoins ประเภทเพื่อทำให้เหรียญมีมูลค่าคงที่ เรามาดูตัวอย่างของ USDC กัน โดยผู้ออกเหรียญ USDC อย่าง Circle จะเก็บเงินดอลลาร์ไว้ในคลังและออกเหรียญ USDC ออกมาในจำนวนที่เท่ากับเงินดอลลาร์ที่มี โดยอย่างน้อย Circle ก็ควรเก็บเงินดอลลาร์ให้เท่ากับหรือมากกว่าจำนวน USDC ที่มีในตลาดทั้งหมด เผื่อในกรณีที่ผู้ถือเหรียญ USDC ต้องการแลกกลับเป็นเงินดอลลาร์ พวกเขาก็จะสามารถทำได้ทันที นั่นจึงทำให้ USDC มีมูลค่าที่ใกล้เคียงกับเงินดอลลาร์แทบตลาดเวลานั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของความโปร่งใสของ Stablecoin ประเภทนี้อยู่ที่ว่าบริษัทที่ออกเหรียญมีความชัดเจนมากเท่าไหร่ มีเงินดอลลาร์ครบตามจำนวนเหรียญที่มีในตลาดหรือไม่ ดังนั้นบริษัทที่ออกเหรียญจึงควรมีรายงานบัญชีที่ชัดเจนให้นักลงทุนสามารถตรวจสอบได้ อย่าง Circle เองก็มีการออกรายงานการตรวจสอบบัญชีที่ได้รับการตรวจสอบโดย Grant Thornton โพสต์ลงเว็บไซต์ของพวกเขาทุกเดือน เพื่อสร้างความเชื่อถือให้กับนักลงทุนใน USDC นั่นเอง

2.Stablecoin ที่ผูกกับสินทรัพย์ดิจิทัล (Cryptocurrency-Backed Stablecoins)

คล้ายกับ Fiat-Backed Stablecoins เพียงแต่ Stablecoin ประเภทนี้จะผูกมูลค่ากับคริปโทเคอร์เรนซีสกุลอื่น ๆ แทน ทำให้มีความโปร่งใสที่สูงกว่า เพราะข้อมูลทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ผ่านบล็อกเชน ตัวอย่าง Stablecoin ในกลุ่มนี้ได้แก่ DAI, EOSDT, pTokens

3.Stablecoin ที่ผูกมูลค่ากับสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity-Backed Stablecoins)

ค่อนข้างแตกต่างกับ 2 ประเภทข้างต้นเล็กน้อย เพราะ Commodity-backed stablecoins จะอ้างอิงมูลค่าตามสินค้าโภคภัณฑ์อย่างน้ำมัน ทองคำ ที่ดิน รวมถึงสินทรัพย์อื่น ๆ อย่างเช่น หุ้น ตราสารทุนหรือหนี้ และกองทุนรวม โดยตัวอย่าง stablecoin ในกลุ่มนี้ ได้แก่ TCX (Tiberius Coin) DGX (Digix Gold)

อย่างไรก็ตาม Stablecoin ประเภทนี้ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับมากเท่ากับ Fiat-backed stablecoins เพราะการเปลี่ยนสินทรัพย์ประเภทนี้ให้กลายมาเป็นคริปโทฯ ยังขัดกับกฎหมายหลักทรัพย์ของหลาย ๆ ประเทศ

4.Stablecoin ที่ใช้อัลกอริทึมควบคุมมูลค่า (Algorithmic Stablecoins)

Stablecoin ประเภทนี้มีกลไกคงมูลค่าที่ต่างจากประเภทอื่นค่อนข้างมากเลยทีเดียว โดย Algorithmic stablecoins จะใช้อัลกอริทึมหรือคำสั่งทางคอมพิวเตอร์มาควบคุมมูลค่าของเหรียญ เช่น หากเหรียญมีมูลค่าสูงกว่าที่ควรจะเป็น ระบบก็จะสร้างเหรียญเพื่อเพิ่มปริมาณเหรียญในระบบ ทำให้มูลค่าของเหรียญลดลงมาในระดับที่เหมาะสม ในทางกลับกัน หากเหรียญมีมูลค่าต่ำ ระบบก็จะเผาเหรียญที่มีออกไปบางส่วน  ทำให้มูลค่าของเหรียญสูงขึ้น โดยเหรียญที่อยู่ในกลุ่มนี้

อย่างไรก็ตาม Stablecoin ประเภทนี้ไม่ได้ผูกมูลค่ากับสินทรัพย์อะไรสักอย่างเดียว ทำให้มีความเสี่ยงที่สูงกว่า Stablecoin ประเภทอื่นอย่างมาก และปัจจุบันก็มีหลายโปรเจกต์ที่หยุดพัฒนาไปแล้ว เช่น Basis, TerraUSD หรือ UST เป็นต้น

ประโยชน์ของ Stablecoin

เชื่อว่าหลายคนเมื่อเข้าใจว่า Stablecoin คืออะไรและมีกี่ประเภทกันไปแล้ว คำถามต่อไปก็คือเหรียญพวกนี้มีประโยชน์อย่างไรก็สำหรับนักลงทุนอย่างเรา ๆ บ้าง มาดูกันครับ

1.การใช้จ่ายที่ไร้พรมแดน

Stablecoin ช่วยให้ผู้คนทั่วโลกซื้อขายแลกเปลี่ยนอะไรก็ตามได้แบบไร้พรมแดน ด้วยการนำเงินเฟียตไปแลกเป็น Stablecoin ผ่านแพลตฟอร์มเทรดคริปโทเคอร์เรนซีที่มีมากมาย ซึ่งมีค่าธรรมเนียมซื้อขายถูกกว่าการโอนเงินปกติมาก และที่สำคัญคือเหรียญมีสภาพคล่องสูง ทำให้สามารถซื้อหรือขายเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสดได้อย่างรวดเร็ว

2.ใช้เป็นที่ปลอดภัยในวันที่ตลาดผันผวน

Stablecoin นอกจากใช้เพื่อเทรดกับเหรียญคริปโทฯ แล้ว ยังสามารถใช้เป็นที่หลบภัยในยามที่ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีที่กำลังผันผวนขึ้นลงหนักได้เช่นกัน เพียงนำเหรียญที่มีแนวโน้มว่าจะมีมูลค่าลดลงไปแลกเปลี่ยนเป็น Stablecoin เพื่อรอจังหวะกลับเข้าไปลงทุน หรือจะนำไป Stake หรือ Farm บนแพลตฟอร์มเทรด DeFi เพื่อสร้างรายได้ผ่านดอกเบี้ยก็ได้เช่นกัน

สรุป

Stablecoin คือสินทรัพย์ดิจิทัลหรือคริปโทเคอร์เรนซีที่มีมูลค่ามั่นคง โดยผู้ออกเหรียญทำให้เหรียญมีมูลค่ามั่นคงได้โดยการผูกมูลค่าเข้ากับสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น เงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่ง Stablecoin ได้รับความนิยมเพราะมันช่วยให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนผ่านบล็อกเชนได้โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความผันผวนของมูลค่า และยังสามารถใช้เป็นที่พักเงินในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงได้อีกด้วย

* คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
** สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
*** ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ