TH | EN
TH | EN
หน้าแรกLifeสถานการณ์โควิด-19 ต่ออนาคตของสาธารณสุข

สถานการณ์โควิด-19 ต่ออนาคตของสาธารณสุข

HIGHLIGHT

  • เมดิกซ์ บริษัทนวัตกรรมการจัดการทางการแพทย์คุณภาพสูง เผยภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
  • ทำความรู้จัก และรู้วิธีรับมือกับภาวะหลังโควิด-19 (Long Covid)

โควิด-19 เป็นสัญญาณทำให้ทั่วโลกตื่นตัวในช่วงสองปีที่ผ่านมา เผยให้เห็นถึงจุดที่ระบบการรักษาพยาบาลและผู้ป่วย ไม่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า ช่องว่างที่เห็นได้ชัดในการป้องกันโรค และอุปสรรคต่อการเข้าถึงการรักษาพยาบาลและบริการในราคาที่เอื้อมถึงได้

ภาพรวมของสถานการณ์มีทิศทางบวกมากขึ้นเมื่อสายพันธุ์โอมิครอนซึ่งมีอันตรายคุกคามน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา เพราะแม้ว่าการติดเชื้อจะเพิ่มขึ้น แต่อัตราการเข้ารักษาในโรงพยาบาลยังคงต่ำอยู่ การฉีดวัคซีนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการควบคุมโรค และแนวทางของประเทศไทยก็เป็นที่น่าชื่นชม จากความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้ชีวิตแบบ New Normal จนทำให้สามารถเปิดประเทศได้อีกครั้ง

ซิกัล อัทซ์มอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง เมดิกซ์ โกลบอล กล่าว “แนวทางการรับมือโดยใช้ข้อมูลขับเคลื่อนและรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสิ่งที่จำเป็น นอกจากนี้ ยังเป็นเรื่องของการเตรียมความพร้อม ทั้งสำหรับรัฐบาล โรงพยาบาล ไปจนถึงระดับบุคคลและครอบครัว ซึ่งเมดิกซ์พร้อมให้การสนับสนุนช่วยเหลือทุกเมื่อ เพราะสำหรับเรา สิ่งที่สำคัญคือการเตรียมรับมือสำหรับระลอกถัดไปและต้องจัดการให้ตรงจุด”

ทำความเข้าใจและรับมือกับภาวะหลังโควิด-19 (Long Covid)

คนที่ติดเชื้อโควิดอาจต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่รู้อีกมาก เรียกว่าภาวะหลังโควิด-19 (Long Covid) โดยมี 3 อาการที่พบบ่อยที่สุดคือ

  1. หายใจลำบาก
  2. ความผิดปกติของการรับรู้ (หรือสมองล้า)
  3. ความเหนื่อยล้า

มีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าประมาณ 4.5% ของผู้ที่ติดเชื้อโควิดอาจมีอาการเกี่ยวกับหัวใจในช่วง 30 วัน ถึง 1 ปี หลังจากติดเชื้อ นับเป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับวงการสาธารณสุขไทย ที่จำเป็นต้องเตรียมพร้อมในการดูแลสุขภาพประชาชนในอนาคตหลังจากภาวะโรคระบาดครั้งนี้

ปัจจุบัน มีรายงานอาการต่าง ๆ มากกว่า 200 ลักษณะอาการในผู้ป่วย Long Covid อาการที่พบ ได้แก่

  1. เจ็บหน้าอก
  2. พูดลำบาก
  3. วิตกกังวลหรือซึมเศร้า
  4. ปวดกล้ามเนื้อ
  5. มีไข้
  6. สูญเสียการรับกลิ่น และสูญเสียการรับรส

โดยอาจจะมีอาการดังกล่าวประมาณ 3 – 9 เดือน

นายแพทย์เดวิด เซลเซอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ของเมดิกซ์ โกลบอล เสริมว่า “การตรวจสุขภาพเป็นประจำ รวมถึงทดสอบการทำงานของปอด วิเคราะห์การทำงานของหัวใจ และการตรวจภาวะภูมิแพ้ ควบคู่ไปกับโปรแกรมการฟื้นฟูสมรรถภาพที่ครอบคลุมถึงการฝึกหายใจและออกกำลังกาย ตรวจวัดระดับวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระอย่างสม่ำเสมอ รับวัคซีนและอาหารเสริมวิตามินเพื่อเพิ่มระดับภูมิคุ้มกัน รวมถึงแนวทางอื่น ๆ ที่ช่วยดูแลสุขภาพของผู้ป่วยให้ฟื้นตัวจากโควิด-19 เมื่อเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับลองโควิดและผลกระทบของภาวะนี้มากขึ้น ก็จะสามารถช่วยผู้ป่วยที่ต้องการฟื้นฟูจากอาการต่าง ๆ ได้ดีมากขึ้น”

จากงานวิจัยล่าสุดในวารสารวิทยาศาสตร์ Cell ระบุว่า ผู้ที่ยังมีเชื้อโคโรนาหลงเหลืออยู่ จะมีแอนติบอดีบางอย่างเกิดขึ้นมาต่อต้านเนื้อเยื่อหรืออวัยวะของตนเอง (เรียกว่า ออโตแอนติบอดี) และการระบาดของไวรัสเอปสไตน์บาร์ (Epstein-Barr virus) ก็ดูจะเสี่ยงมากขึ้น ทีมนักวิจัยกว่า 50 คน พบว่ามีจุดที่สามารถบ่งชี้ได้แต่เนิ่น ๆ และมีแนวโน้มจะสัมพันธ์กับอาการที่ยังคงเป็นอยู่ ไม่ว่าการติดเชื้อนั้นจะรุนแรงหรือไม่ก็ตาม

อนาคตสำหรับประเทศไทย

เมื่อมีการฉีดวัคซีนและบูสเตอร์มากขึ้นทั่วโลก การรักษาก็มีความพร้อมขึ้น ซึ่งเป็นแนวโน้มและสัญญาณที่ดีว่ากำลังมาถูกทางแล้ว แต่ทุกคนก็ยังต้องระวังอยู่ ประเทศไทยจะยิ่งได้รับผลในทางที่ดีขึ้น สะท้อนให้เห็นจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้น และแนวโน้มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน สิ่งเหล่านี้จะส่งผลดีต่อเนื่องไปยังธุรกิจค้าปลีก ร้านอาหาร การจัดแสดงสินค้า และการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ที่ต่างเป็นอุตสาหกรรมจุดแข็งของไทย

แนวทางปัจจุบันของไทยที่เน้นเป้าหมายเป็นสำคัญนั้น มีความสมเหตุสมผล ทั้งจากอัตราการรับวัคซีน การติดตามและตรวจเชื้อ และสกัดกั้นมิให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว “ในระยะสั้นนี้ อาจจะต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก โดยเฉพาะในฤดูท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึง ทุกภาคส่วนก็ต้องช่วยกัน ทั้งคนไทยที่ช่วยส่งเสริมและลงทุนดูแลสุขภาพของตนเอง รัฐบาลและบริษัทประกันที่ลงทุนในระบบสาธารณสุขให้แข็งแกร่งจะช่วยพัฒนาพื้นฐานของระบบสาธารณสุขไทยให้ดีขึ้นได้” อัทซ์มอนกล่าวทิ้งท้าย

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ทำความรู้จัก T-cells เซลล์เม็ดเลือดขาว ช่วยป้องกันโรคโควิด-19

สปสช. ร่วมกับกรุงไทย เตรียมแจก ATK ให้กลุ่มเสี่ยงผ่านแอปฯ เป๋าตัง เริ่ม 1 มีนาคมนี้

แซดพี เทอราพิวติกส์ เตรียมส่งมอบโมเดอร์นา 2.2 ล้านโด๊ส ให้องค์การเภสัช และรพ.เอกชน

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ