จากกลยุทธ์ Happiness Reinvented ในปี 2566 ที่เน้นการเติมเต็มความสุขในทุกมิติผ่านหลักการ Outside-in ปัจจุบันเมืองไทยประกันชีวิตมุ่งสู่ปี 2567 ด้วยกลยุทธ์ “Happiness, Your Way เพราะความสุขคือทุกอย่าง ความสุขสไตล์คุณคือที่สุดของทุกสิ่ง” มุ่งเน้นการเป็นคู่คิดด้านการวางแผนชีวิตและสุขภาพที่วางใจ ตอบโจทย์ความเป็นคุณ (Personal) ในทุกช่วงของชีวิต (Life)
“เมืองไทยประกันชีวิตเข้าใจความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าจึงมุ่งเน้นการเป็นคู่คิดในการวางแผนชีวิตและสุขภาพที่ตรงกับความเป็นคุณของแต่ละบุคคลในทุกช่วงของชีวิตด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ให้ความพึงพอใจและตรงกับความต้องการของลูกค้าผ่านช่องทางการเข้าถึงง่ายและหลากหลาย” สาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าว
“ปีนี้เป็นปีสำคัญของเมืองไทยประกันชีวิต เนื่องจากเติบโตอย่างต่อเนื่องและสร้างความสุขให้กับคนไทยมาอย่างมากถึง 72 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก ๆ อีกทั้งยังเป็นปีที่บริษัทได้รับคะแนน NPS (Net Promoter Score) สูงถึง 58 คะแนนในปี 2566 เปรียบเทียบกับปี 2565 ที่ได้ 41 คะแนน แสดงให้เห็นถึงความเพิ่มขึ้นมากถึง 17 คะแนน เป็นการบ่งบอกถึงความพึงพอใจและความผูกพันธ์ของลูกค้า ผ่านคำถามง่าย ๆ เกี่ยวกับการแนะนำแบรนด์ให้กับคนรู้จักเมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการอย่างครบวงจรเพื่อให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าในปีที่ผ่านมา และจะดำเนินการต่อไปอย่างยั่งยืนเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า”
โดยในปี 2567 กลยุทธ์หลักที่มุ่งคือ “Happiness, Your Way” ที่เน้นว่าความสุขมีความหมายต่างกันสำหรับทุกคน และความสุขของคุณคือสิ่งสำคัญที่สุดของทุกสิ่ง ฉะนั้นจึงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการช่วยคุณวางแผนชีวิตและสุขภาพที่ลูกค้าวางใจผ่าน 2 แนวคิดหลัก คือ
Personal “ความต้องการเฉพาะบุคคล” คือ การเป็นตัวเองในรูปแบบที่คุณอยากเป็น
เมืองไทยประกันชีวิตเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงด้วยการใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย และช่องทางการสื่อสารที่สะดวกรวมถึงการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความเชื่อมั่นและมีความสุขในแบบที่เป็นคุณอย่างแท้จริง
นับจากนี้เมืองไทยประกันชีวิตเริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการพัฒนาคุณภาพด้านการบริการโดยใช้ Chatbot Chompoo (น้องชมพู) เป็น LINE Chatbot ที่ให้บริการข้อมูล ตอบโต้กับผู้ใช้ที่เป็นตัวแทน/นายหน้า บมจ. เมืองไทยประกันชีวิตแบบอัตโนมัติ เป็นโปรแกรมที่มีความซับซ้อนแต่เข้าใจง่ายผ่านการให้คำแนะนำเกี่ยวกับประกันสุขภาพและความคุ้มครองสุขภาพ ทั้งนี้ ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ กล่าวคือ ความต้องการเฉพาะตัวและความซับซ้อนที่มากขึ้นของแต่ละบุคคลส่งผลเป็นแรงผลักดันให้เทคโนโลยีพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อบริการที่ดียิ่งขึ้นต่อลูกค้า
ต่อมาคือการร่วมมือกับ LineBK เป็นการให้บริการที่สะดวกสบายและเข้าถึงได้ง่ายสำหรับลูกค้าในการซื้อประกันชีวิตและสุขภาพผ่านแพลตฟอร์มที่ทุกคนสามารถใช้งานได้ โดยลูกค้าสามารถทำการซื้อง่าย และชำระเงินได้อย่างสะดวกผ่านแอปพลิเคชัน Line ได้รับข้อมูลที่เข้าใจง่ายและไม่ซับซ้อนเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อตกลง เพื่อความสะดวกสบายแก่ลูกค้า
– เมืองไทยประกันชีวิต ปักธงปี 67 คู่คิดด้านวางแผนชีวิตที่ลูกค้าวางใจ อันดับหนึ่ง
นอกจากนี้ ยังมีแอปพลิเคชันใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว “MTL Connect” เป็นแอปพลิเคชันเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ตัวแทนของเมืองไทยประกันชีวิตในการดูแลลูกค้าอย่างเต็มประสิทธิภาพ ภายใต้แนวคิดที่มุ่งเน้นการเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ตัวแทนจำหน่าย ผ่านฟีเจอร์ต่าง ๆ ส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น ซึ่งจะมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ อัปเดตอยู่ตลอดเวลาต้องคอยติดตาม ยกตัวอย่างเช่น ตัวแทนทุกคนสามารถดูข้อมูลของลูกค้าผ่านมือถือเกี่ยวกับโปร์ไฟล์ อาชีพ รายได้ โดยมี Data ที่สรุปข้อมูลให้เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน เนื่องจากตัวแทนจำหน่ายเมืองไทยประกันชีวิตเป็นจุดที่สร้างเอนเกจเมนต์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการเข้าถึงช่องทางเป็นเรื่องสำคัญมาก
“ทำอย่างไรให้ตัวแทนสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคลได้โดยอิงกับ Data ที่แท้จริง”
ดังนั้น เพื่อเล็งเห็นถึงความสำคัญในการดูแลลูกค้าอย่างเต็มประสิทธิภาพ บริษัทมุ่งมั่นชี้จุดสำคัญไปที่ช่องทางตัวแทนเป็นหลักภายใต้ฐานข้อมูลหรือดาต้าที่มีการรองรับ และการใช้เทคโนโลยีในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคล และเมืองไทยประกันชีวิตยังมีแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น MTL Online Sales และแอปพลิเคชัน MTL Click ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่จะคอยอำนวยความสะดวกลูกค้าทุกคนของเมืองไทยประกันชีวิต ให้ทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น เพียงแค่ click ก็เรียบร้อย ครอบคลุมทุกบริการ สะดวก ครบ จบในแอปเดียว และให้ประสบการณ์ด้านการใช้บริการที่ดียิ่งขึ้น
“ยังไม่หมด (Life) ไทยประกันชีวิตมุ่งเติมเต็มความสุขความมั่นใจในการใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ของตนเอง” แน่นอนว่าด้านผลิตภัณฑ์ ที่สามารถตอบโจทย์ได้คือเรื่องความคุ้มครองชีวิต คนจะเริ่มเห็นว่ามีภาระมากมายนับไม่ถ้วน แล้วการใช้ประกันชีวิตจะเข้ามาช่วยให้ดีขึ้นได้อย่างไร?
Life “การเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของคนทุกกลุ่ม ผ่านทุกช่วงเวลาของชีวิต”
เมืองไทยประกันชีวิตมุ่งสร้างนวัตกรรมเพื่อให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนมากขึ้นด้วยการดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงรอบด้าน เช่น ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพ ให้บริการผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพที่ออกแบบมาอย่างครอบคลุม เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วย และให้การรักษาที่เข้าถึงง่ายและตรงจุดตามความต้องการของลูกค้า ต่อมาด้านการส่งเสริมการดูแลสุขภาพ เมืองไทยประกันชีวิตสนับสนุนและส่งเสริมการดูแลสุขภาพของลูกค้าโดยใช้เทคโนโลยีผ่านแอปพลิเคชัน “MTL Fit” ซึ่งช่วยในการเก็บข้อมูลการออกกำลังกายและสะสมคะแนน เพื่อนำไปใช้แลกรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ส่วนลดค่าเบี้ยประกันสุขภาพ และสิทธิพิเศษอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์สำหรับทุก ๆ ไลฟ์สไตล์ โดยมุ่งมั่นในการให้บริการที่สอดคล้องกับทุก ๆ ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และประชาชนทั่วไป อย่างการใช้คะแนน “Smile Point” ที่ได้จากการชำระเบี้ยประกัน เพื่อแลกรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ จากเมืองไทยสไมล์คลับต่อไป และเมื่อเจ็บป่วย บริษัทฯ ก็มีสถานพยาบาลในเครือข่ายมากกว่า 860 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ตามที่ตนเองต้องการอีกด้วย
ด้านเทคโนโลยีและคน เมืองไทยประกันชีวิตได้นำเอาเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น AI, Machine Learning, Automation, และ Digital Tools มาช่วยเติมเต็มในทุก ๆ กระบวนการ เช่น การขาย การพิจารณารับประกัน การพิจารณาสินไหม และธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ทางการขายและเจ้าหน้าที่บริการ ช่วยให้สามารถส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้กับผู้คนทุกกลุ่มในทุกช่วงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นพนักงานภายใน พาร์ตเนอร์ ลูกค้า หรือบุคคลต่างๆ ในสังคม เป็นการทำให้บริษัทมุ่งมั่นเพื่อความพึงพอใจและความสุขของทุกคนอย่างแท้จริง
ESG & Sustainability ยึดมั่นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมสังคมและบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิ (ESG)
สำหรับ เมืองไทยประกันชีวิต การสร้างความยั่งยืนรูปแบบของ ESG มี 2 ด้าน คือ การออกแบบกรมธรรม์และการลงทุน เมืองไทยประกันชีวิตไม่เพียงแค่เน้นการเติบโตในด้านรายได้เท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจด้วย มุ่งมั่นส่งเสริมการจัดการขยะและลดการใช้ทรัพยากรสิ้นเปลือง โดยเฉพาะการลดการใช้กระดาษผ่านกระบวนการดิจิทัลต่าง ๆ พร้อมสนับสนุนการนำเข้าพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อลดการใช้พลังงานที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม เชื่อว่าการกระทำเหล่านี้จะมีผลต่อสังคมอย่างกว้างขวาง และเป็นประโยชน์ต่อผู้คนในอนาคต
สิ่งสำคัญที่สุดของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนคือการประสานความยั่งยืนให้เป็นหนึ่งเดียวกับการดำเนินธุรกิจในทุก ๆ วัน ทั้งนี้ ธุรกิจหลักของบริษัทฯ เป็นเรื่องของประกันชีวิต จึงทำให้ความยั่งยืนแรกในมิติสังคมที่เกี่ยวข้องกับประกันชีวิตโดยตรง กล่าวคือบริษัทมุ่งสร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุกคน (Democratize Insurance) ไม่ว่าจะเป็นการขยายอายุรับประกันภัยสำหรับแบบประกันภัยหลัก ๆ ถึง 90 ปี พร้อมให้ความคุ้มครองต่อเนื่องสูงสุดถึงอายุ 99 ปี
โดยสรุปแล้ว เมืองไทยประกันชีวิตก้าวเข้าสู่ปีที่ 67 ด้วยกลยุทธ์ “Happiness, Your Way” ซึ่งเน้นการเติมเต็มความสุขให้กับลูกค้าในแบบที่เป็นตนเอง บริษัทมุ่งมั่นในการให้บริการที่ดีที่สุดและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า โดยมุ่งหวังให้ลูกค้าได้รับความสุขและความพึงพอใจในแบบที่เป็นตัวของตนเองในทุกมิติของชีวิต
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
“กราน-มอนเต้” GI ไวน์เขาใหญ่ ยืนหนึ่งไวน์ไทยในวิถียั่งยืน
RS Mall ต่อยอดการเติบโตสู่ Social Commerce รีแบรนด์เป็น RS Mall X ตั้งเป้าปี 67 รายได้แตะ 1,200 ลบ.
