TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistมารู้จัก “เทคโนโลยียืนยันตัวตนเปิดบัญชีหุ้น” สุดฮิต

มารู้จัก “เทคโนโลยียืนยันตัวตนเปิดบัญชีหุ้น” สุดฮิต

“ธุรกิจการเงินและการลงทุน” กำลังเข้าสู่ยุคแห่งการใช้เทคโนโลยีในทุกขั้นตอน เพื่อสร้างความปลอดภัย              ให้ผู้ใช้บริการอย่างมั่นใจ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า มีการสร้างความเสียหาย จากการโจรกรรมทางการเงินจำนวนมาก ส่งผลให้สถาบันการเงินต้องปรับเปลี่ยนและยกระดับการให้บริการ รวมทั้งให้ความสำคัญ ตั้งแต่จุดเริ่มต้น คือ “การรู้จักตัวตนของผู้ใช้บริการ” อย่างจริงจัง พร้อมทั้งหน่วยงานกำกับดูและกิจการทุกหน่วยงาน ได้มีการผลักดันและส่งเสริมให้ภาคธุรกิจใช้แนวทางปฏิบัติในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำความรู้จักกับผู้ใช้บริการ จนเกิดการเปลี่ยนแปลง และกลายเป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรมการเงิน

หนึ่งในมาตรฐานที่ทุกสถาบันการเงินต้องนำมาใช้ มาจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ที่มีการยกระดับความน่าเชื่อถือ ในกระบวนการพิสูจน์ตัวตน (Identity Assurance Level: IAL

โดยแบ่งเป็นระดับต่ำสุด = 1 ถึงสูงสุด = 3 และปัจจุบันทุกสถาบันการเงินต้องนำมาใช้กับผู้ใช้บริการจะอยู่ในระดับ 2+ ที่ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการรวบรวมข้อมูลผู้ใช้, การตรวจสอบหลักฐาน, การตรวจสอบบุคคล และการตรวจสอบช่องทางติดต่อ โดยมุ่งเน้นให้ธุรกิจการเงินมั่นใจว่า ลูกค้ามีตัวตนจริงเพียงคนเดียว ข้อมูลและหลักฐานที่นำมาประกอบการสมัครใช้บริการเป็นของจริง รวมไปถึงผู้ใช้บริการเป็นเจ้าของหลักฐานที่นำมาอีกด้วย จึงจำเป็นต้องมีการเพิ่มเทคโนโลยีเข้ามาในกระบวนเหล่านี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและมาตรฐานการให้บริการได้อย่าง สะดวก รวดเร็ว

ทั้งนี้ผู้ใช้บริการหรือนักลงทุน ก็ควรทำความเข้าใจและศึกษารูปแบบการให้บริการใหม่ ๆ เพื่อความปลอดภัยของการใช้บริการการเงินได้อย่าง สะดวก สบาย เช่นเดียวกัน วันนี้เราจะนำข้อมูลมาสรุปแนวทางการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อยืนยันตัวตนเปิดบัญชีหุ้นที่สามารถแบ่งได้เป็น 2 แนวทางด้วยกัน

  1. Face to Face หรือการไปยืนยันตัวตนด้วยตนเองกับเจ้าหน้าที่โดยจะมีการตรวจสอบให้มั่นใจว่า ผู้ใช้บริการมีตัวตนถูกต้อง และมีกระบวนการตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ เช่น การนำบัตรประชาชนแบบ Smart card เสียบกับเครื่องอ่านบัตรดูความถูกต้อง รวมไปถึงการเชื่อมต่อข้อมูลกับกรมการปกครอง (DOPA) ซึ่งกระบวนการยืนยันตัวตนแบบนี้ ทำให้ภาคธุรกิจที่มีสาขาหรือหน้าร้านเยอะ ๆ ต่างปรับตัวรับหน้าที่บริการพบลูกค้าให้กับสถาบันการเงินแทนจำนวนมาก แถมนำเทคโนโลยีที่เพิ่มความมั่นใจอย่างการเปรียบเทียบใบหน้า (Face Recognition) มาเพิ่มเติม เช่น เคาน์เตอร์เซอร์วิส ในร้าน 7-Eleven ที่เกือบทุกธนาคารและสถาบันการเงินเลือกใช้ รวมถึงการเปิดบัญชีหุ้นกับหลักทรัพย์บัวหลวง ก็ให้นักลงทุนสามารถยืนยันตัวตน ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสและได้รับอนุมัติบัญชี ภายใน 15 นาที
  1. Non-Face to Face หรือวิธียืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (NDID) โดยนักลงทุนที่เคยยืนยันตัวตนกับสถาบันการเงินหรือธนาคาร และมีการสมัครใช้ NDID ไว้แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปแสดงตัวตนซ้ำอีก ทำให้มีความสะดวก และลดขั้นตอนในการยืนยันตัวตนได้ง่าย ๆ เพียงสมัครเปิดบัญชีหุ้นและเลือกยืนยันตัวตน ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารที่คุณใช้งาน ก็เป็นอันจบขั้นตอน เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถได้รับเลขที่บัญชีซื้อขายหุ้นทันที ภายใน 15 นาที เช่นเดียวกัน

จากแนวทางข้างต้นจึงเป็นที่มาของการปรับปรุงกระบวนเปิดบัญชีธนาคารและบัญชีหุ้น รวมไปถึงสถาบันการเงิน     ในอนาคต โดยต้องประยุกต์ใช้ 2 แนวทาง ร่วมกับกระบวนการทำงานภายในของแต่ละธุรกิจให้กลมกลืนกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความสะดวก สำหรับผู้ใช้บริการในปัจจุบัน เช่น การเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นออนไลน์ของหลักทรัพย์บัวหลวงที่ได้ออกแบบขั้นตอนการทำงานให้ง่ายสำหรับนักลงทุน ซึ่งสามารถเข้าถึงตลาดหุ้นได้ง่าย ๆ เพียง 3 ขั้นตอน พร้อมเทรดหุ้นทันที ภายใน 15 นาที โดยไม่ต้องเดินทางไปสาขา หรือที่ทำการของบริษัท ดังภาพด้านล่าง

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและกระบวนการยืนยันตัวตน 2 แบบนี้ จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผู้ใช้บริการการเงินทุกรูปแบบ รวมทั้งนักลงทุนในตลาดหุ้น สนใจเปิดบัญชีหุ้นออนไลน์และใช้เทคโนโลยียืนยันตัวตนแบบใหม่ได้แล้ววันนี้ที่ www.bualuang.co.th หรือโทร 0-2618-1111

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ