แรงงานที่มีทักษะความสามารถด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะในฐานะผู้สร้างและนักพัฒนา กลายเป็นแรงงานที่ตลาดงานทั่วโลกต่างอ้าแขนต้อนรับเป็นจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย ยืนยันได้จากรายงาน Salary Survey ฉบับล่าสุดของโรเบิร์ต วอลเตอร์ส (ประเทศไทย) ที่คาดการณ์ตลาดการจ้างงานในปี 2022 ตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น 5G, Data Analytics, Cloud และ Blockchain จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเป็นงานที่ให้ผลตอบแทนในอัตราที่สูงมากเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ขยล ตันติชาติวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ผู้นำด้านการพัฒนานวัตกรรมการให้บริการ Digital Platform และ AI-Empowered Solution ระดับประเทศ กล่าวว่าปัญหาที่น่ากังวลเพราะเป็นปัจจัยเสี่ยงคุกคามต่อการเติบโตของบริษัทไทยอย่างยั่งยืนก็คือ การที่ไทยขาดแคลนแรงงานที่มีขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างมาก
ขยล กล่าวว่าแรงงานเทคโนโลยีถือเป็น “ของหายาก” ที่หลายบริษัทต่างแย่งชิง เนื่องจากแรงงานเหล่านี้เป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยให้การเปลี่ยนผ่าน (ทรานส์ฟอร์ม) ของบริษัทไปสู่ยุคดิจิทัลเป็นไปได้อย่างราบรื่น ดังนั้น ในฐานะบริษัทชั้นนำด้านการพัฒนานวัตกรรม สกายไอซีทีจึงเห็นว่า การเป็นฝ่ายรุกด้วยการให้ความรู้และบ่มเพาะขัดเกลาทักษะเทคนิคแก่บรรดาคนรุ่นใหม่ที่มีความชื่นชอบ (passion) ในเทคโนโลยีนวัตกรรม และต้องการทำงานในสายนี้อย่างจริงจัง เพื่อสร้างแรงงานฝีมือด้านเทคนิคเข้าสู่ตลาด ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญของสกายไอซีที
“เราเริ่มต้นตั้งแต่การเข้าไปจับมือกับทางมหาวิทยาลัย คือเราไม่ได้รอให้เด็กเรียนจบก่อน แต่เป็นการเข้าหาเด็กในช่วงที่กำลังเรียนอยู่ตั้งแต่ปี 1 ปี 2 ให้เด็กมีโอกาสเรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์การทำงานในแวดวงจริง ๆ ว่าเป็นอย่างไร ใช่แบบที่ต้องการหรือไม่”
นอกจากจับมือกับมหาวิทยาลัยร่วมกันให้ความรู้แก่นักเรียนนักศึกษาในสายเทคโนโลยีแล้ว สกายไอซีทียังจัดสรรทุน จัดเวิร์กชอบ และจัดการฝึกอบรมให้กับครูผู้สอน ตลอดจนขยายความร่วมมือในการสร้างเครือข่ายชุมชนเทคโนโลยี ร่วมลงทุนและร่วมพัฒนาโครงการของนักศึกษาที่น่าสนใจ และเปิดพื้นที่ให้นักศึกษาได้มาฝึกงาน โดยที่ระหว่างฝึกงานก็ให้ร่วมทำงานอย่างจริงจัง ถึงขั้นที่เด็กบางคนสร้างผลงานออกมาใช้งานได้จริง เก็บเป็นประวัติต่อยอดเส้นทางอาชีพของตนเองต่อได้ในอนาคต
ทั้งนี้ การพัฒนาคนถือเป็นหนึ่งใน 3 กลยุทธ์หลักภายใต้ แผน CONNECTING THAILAND คือ การสร้างสรรค์เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อเกิดเป็นโซลูชันใหม่ การพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และการสร้างคน ซึ่งรวมถึงการสร้างคนรุ่นใหม่ให้พร้อมรับทุกกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกเทคโนโลยี เพื่อร่วมแก้ปัญหาการขาดแคลนกำลังคน
อย่างไรก็ตาม ในฐานะบริษัทด้านเทคโนโลยี ปัญหาสำคัญที่กำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ และคาดว่าจะเป็นปัญหาที่ต้องเผชิญไปอีกยาวนานก็คือ อัตราการเปลี่ยนงาน หรือ turn over rate ของแรงงานรุ่นใหม่ที่ค่อนข้างสูง ดังนั้น การร่วมมือสร้าง “คน” กับสถาบันการศึกษาจึงไม่เพียงพออีกต่อไป
โจทย์ใหญ่ที่สำคัญอีกประการหนึ่งของสกายไอซีที ก็คือการดึงดูดให้ Tech Talent เหล่านั้น สมัครใจอยากมาทำงานกับบริษัท
ขยล กล่าวว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมา นอกจากเงินเดือนค่าตอบแทนและสวัสดิการที่สมน้ำสมเนื้อแล้ว สิ่งที่แรงงานรุ่นใหม่ต้องการก็คือเวทีที่จะได้ปล่อยของ โชว์ผลงาน ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือมีโอกาสลงมือทำโครงการที่ตนเองได้วางแผนงานไว้
“หน้าที่ของสกายไอซีทีก็คือการให้โอกาส ให้พื้นที่แก่เด็กรุ่นใหม่มาแชร์ไอเดีย โดยเราพร้อมรับฟัง ให้คำแนะนำ ให้การสนับสนุน พวกเขาต้องการมีผลงานของตนเองที่จับต้องได้อย่างรวดเร็ว และเราให้เวที ให้เวลาโชว์ไทม์กับเขา อย่างเด็กฝึกงานของเรา มีคนหนึ่งที่คิดโปรเจ็กต์ของตัวเองเพื่อมาเสริมกับแอปพลิเคชั่นของบริษัทที่ใช้งานอยู่ในสนามบิน ซึ่งเราก็รับฟังและให้เขาไปลงมือพัฒนาให้เต็มที่ และมีแผนจะนำมาใช้งานจริงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า” ขยลกล่าว
ทั้งนี้ การสร้าง Tech Talent ยังหมายรวมถึงการสร้างพื้นที่สำหรับการบ่มเพาะไอเดียใหม่เพื่อให้โอกาสแรงงานเทคโนโลยีรุ่นใหม่ได้รีสกิลและอัพสกิลของตนเองได้อย่างเต็มที่ ทำให้นอกจากช่วยพัฒนาทักษะของเด็กรุ่นใหม่แล้ว ยังสามารถขยายไปยังกลุ่มคนทั่วไปที่สนใจและต้องการต่อยอดพัฒนาทักษะทางเทคนิคของตนเองต่อไป ซึ่งหมายรวมถึงการที่สกายไอซีทีร่วมจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น Tech Talk, อีเวนต์ด้านเทคโนโลยี หรือ Code Camp เป็นต้น
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
SEAC ตั้งเป้าปั้น 12 โรงเรียนต้นแบบ สร้างคนอนาคต ถอดหลักสูตรฟินแลนด์ ติดอาวุธพัฒนาครู
