TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyรัสเซีย-ยูเครน สงครามใหญ่ไฮบริดในยุคดิจิทัล "เทคโนโลยี" ในยุทธวิธีสงครามของยูเครน

รัสเซีย-ยูเครน สงครามใหญ่ไฮบริดในยุคดิจิทัล “เทคโนโลยี” ในยุทธวิธีสงครามของยูเครน

ทันทีที่รัฐบาลรัสเซีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซียเปิดฉากระดมยิงขีปนาวุธโจมตียูเครน หลายฝ่ายต่างวิตกกังวลและคาดการณ์ว่า สงครามครั้งนี้ ฝ่ายที่เสียเปรียบและเพลี่ยงพล้ำน่าจะเป็นฝั่งยูเครน เนื่องจากจำนวนอาวุธยุทโธปกรณ์และแสนยานุภาพกองทัพของรัสเซียนั้นมากกว่าและก้าวหน้ากว่ายูเครนอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม กว่าหนึ่งสัปดาห์ของการยืนหยัดต้านทานรัสเซีย ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ ซีเลนสกี พร้อมด้วยประชาชนชาวยูเครนกลับแสดงให้ทั่วโลกได้เห็นถึงศักยภาพของนวัตกรรมและเทคโนโลยีในปัจจุบัน กระทั่ง ตระหนักได้ว่าโลกทุกวันนี้คือโลกยุคดิจิทัลที่คำว่าการต่อสู้ไม่ได้จำกัดขอบเขตอยู่แค่บนสนามรบอีกต่อไป เป็นสงครามในยูเครนที่ทำให้ทั่วโลกได้เรียนรู้ว่า เทคโนโลยีมีบทบาทต่อสังคมโลกมากเพียงใด

สำหรับบทบาทแรกสุดของเทคโนโลยีในสงครามครั้งนี้ ก็คือ การเป็นช่องทางระดมทุนสนับสนุนสงคราม

ทั้งนี้ ในฐานะประเทศเล็ก ๆ ที่เพิ่งมีอำนาจปกครองตนเองได้เพียง 30 กว่าปี ยูเครนรู้ดีว่า นอกจากอาวุธและจำนวนทหารที่สำคัญแล้ว สิ่งที่สำคัญสำหรับการสู้รบอีกอย่างก็คือเงินทุน ซึ่งผู้นำยูเครนพร้อมคณะรัฐบาลก็เดินหน้าประกาศขอความช่วยเหลือจากนานาชาติทันที

แต่แทนที่จะวิงวอนขอจากรัฐบาลหรือหน่วยงานองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ ซึ่งต้องผ่านกระบวนการขั้นตอนมากมาย รัฐบาลยูเครนกลับร้องขอเงินสนับสนุนโดยตรงจากสามัญชนคนธรรมดาทั่วโลกผ่านระบบบล็อกเชนกับเครือข่ายคริปโทเคอร์เรนซีทั้งหลาย นำโดยบิตคอยน์ และ อีเธอร์เรียม ทำให้จนถึงขณะนี้ มีรายงานว่า ยูเครนสามารถระดมเงินบริจาคผ่านคริปโทได้มากกว่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว

ขณะเดียวกัน นอกจากเงินบริจาคแล้ว รัฐบาลยูเครนยังได้ออกพันธบัตรสงคราม หรือ วอร์ บอนด์ (War Bond) เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการระดมเงินช่วยเหลือเข้าประเทศ ทั้งสำหรับการเป็นทุนสนับสนุนกองทัพยูเครน กับเป็นทุนช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชน ซึ่งขณะนี้ สามารถระดมทุนผ่านบอนด์ดังกล่าวได้มากกว่า 200 ล้านปอนด์แล้ว ควบคู่ไปกับการหารือกับทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารโลก (เวิร์ดแบงก์) เรื่องเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน

นอกจากนี้ ล่าสุด รัฐบาลยูเครนเตรียมออก NFTs ในเร็ววันนี้เพื่อระดมเงินสนับสนุนการต่อสู้ของยูเครน โดย NFTs ถือเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่งที่สามารถซื้อขายได้ไม่ต่างจากอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป เพียงแต่ NFTs ไม่มีรูปธรรมที่จับต้องได้เหมือนสินทรัพย์อื่น ๆ

การเปิดเผยครั้งนี้นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่รัฐบาลยูเครนประยุกต์ใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัล ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของรัฐบาลในการมองหาช่องทางใหม่ ๆ สำหรับการระดมเงินสมทบทุนให้กับทางกองทัพ

นอกเหนือจากการใช้เทคโนโลยีเป็นช่องทางระดมเงินสนับสนุน ซึ่งถือได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามแล้ว รัฐบาลยูเครน ซึ่งถือเป็นผู้นำอายุน้อยรุ่นใหม่ยังประสบความสำเร็จอย่างมากในการใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางสื่อสารกับประชาชนชาวยูเครน และประชาคมโลกในการพูดคุยทำความเข้าใจ รายงานข่าว และส่งสารขอความช่วยเหลือต่าง ๆ

ทำให้ทั่วโลกได้เห็นและเป็นประจักษ์พยานว่า ยูเครนถูกทำร้ายอย่างไร และยูเครนตอบโต้ทหารรัสเซียที่ยอมจำนนอย่างไร

จนถึงขณะนี้ บรรดาบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติหลายแห่งต่างตอบสนองไปในเชิงสนับสนุนรัฐบาลยูเครนทั่วหน้า เริ่มต้นที่ Spotify ที่ประกาศปิดสำนักงานในรัสเซียอย่างไม่มีกำหนด พร้อมสั่งลบเนื้อหาจากสำนักข่าวของรัสเซียทั้ง Sputnik และ RT ออกจากแพลตฟอร์มของ Spotify

ขณะที่ Visa และ Mastercard สั่งบล็อกธนาคารสัญชาติรัสเซียออกจากเครือข่ายตามมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯและสหภาพยุโรป (อียู) โดยบริษัททั้งสองแห่งยังประกาศบริจาคเงินสดเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับยูเครนแห่งละ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ด้าน อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกผู้ก่อตั้งเทสลา และ สเปซเอ็กซ์ ก็ออกตัวแรงด้วยการอนุมัติเปิดให้บริการใช้งานสัญญาณอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงค์ของสเปซเอ็กซ์ในยูเครน เพื่อจัดการคลี่คลายปัญหาการเข้าถึงสัญญาณเน็ตในยูเครนก่อนหน้านี้ โดยสัญญาณอินเทอร์เน็ตของสตาร์ลิงค์มาถึงยูเครนในช่วงเช้าวันอังคารที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา

เรียกได้ว่า การเข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ต ทำให้ยูเครนพลิกกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบ เพราะมีช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับนานาประเทศทั่วโลกในทันที

ส่วน ไบรอัน เชสกี ซีอีโอ Airbnb ประกาศจัดหาที่พำนักพักพิงให้แก่ผู้อพยพชาวยูเครนจำนวน 100,000 คนฟรี ขณะที่ เน็ทฟลิกซ์, โรคุ และดิสนีย์ สั่งห้าม งด และตัด เนื้อหาคอนเทนต์ต่าง ๆ ของรัสเซียออกไปอย่างไม่มีกำหนด เช่นเดียวกันกับบริษัท CD Projekt Group นักพัฒนาเกมชั้นนำอย่าง The Witcher สั่งระงับขายเกมในรัสเซียและเบลารุสแล้ว

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญมองว่า สงครามยูเครนครั้งนี้ ยูเครนได้ใช้เทคโนโลยีแสดง ซอฟต์ พาวเวอร์ เพื่อยืนหยัดและแสดงให้ทั่วโลกเห็นถึงอำนาจอธิปไตยอันชอบธรรมของตนเอง ซึ่งแตกต่างจากรัสเซียที่พยายามหาทางสกัดกั้นและคุมเข้ม จนกลายเป็นการบีบให้ตนเองถูกโดดเดี่ยวมากขื้นเรื่อย ๆ

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ