TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyรพ.จตุรพักตรพิมาน สาธารณสุขจ.ร้อยเอ็ด อสม. และเอไอเอส ร่วมกันคว้ารางวัล “PM Digital Awards 2021”

รพ.จตุรพักตรพิมาน สาธารณสุขจ.ร้อยเอ็ด อสม. และเอไอเอส ร่วมกันคว้ารางวัล “PM Digital Awards 2021”

โรงพยาบาลจตุรพักตรพิมาน สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด อสม.ในพื้นที่ นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาดูแลและส่งเสริมสุขภาวะทางสุขภาพในภาพรวม ผ่านแอปพลิเคชัน “อสม.ออนไลน์” จนผลงานเป็นที่ประจักษ์และได้รับรางวัล Prime Minister’s Digital Awards 2021 ในหมวด Digital Community of the Year สาขา Well being

กริชติยา ธรรมวัตร ประธาน อสม.โรงพยาบาลจตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมา โควิด-19 ทำให้การทำงานมีข้อจำกัด แต่เมื่อมีการนำแอปฯ อสม.ออนไลน์ พร้อมฟีเจอร์ที่ทำให้สามารถเก็บข้อมูลได้ง่าย รวดเร็ว คล่องตัว ลดการสัมผัส ก็ยิ่งทำให้อสม สามารถคัดกรองกลุ่มเป้าหมายในชุมชนได้เอง โดยไม่ต้องรอบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องรับภาระหนักอยู่แล้ว รวมถึงการติดตามกลุ่มเป้าหมาย พร้อมให้ข้อแนะนำ เพื่อช่วยในการดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง และเมื่อใช้งานแอปฯ ได้อย่างคล่องตัว ก็ยิ่งทำให้เราดูแลประชาชนได้มากขึ้น ถือเป็นเครื่องมือเชิงรุกช่วยดูแลสุขภาพองค์รวมของประชาชนได้อย่างดี

ในชุมชนดังกล่าว อสม. ทั้ง 427 คนใช้ แอปฯ อสม.ออนไลน์ทำงานเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง และมีการใช้ฟีเจอร์สำคัญอย่างการคัดกรองโควิด ที่เน้นติดตามคนที่มาจากต่างพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังใช้ฟีเจอร์คัดกรองสุขภาพจิตได้มากกว่า 6,000 คน ช่วยให้ภาพรวมการดูแลสุขภาพจิตประชาชนเป็นไปได้อย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ

นายแพทย์สุพัชร์ศักย์ พันธุ์ศิลา ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลจตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา แพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าสาธารณสุขทุกคน ต่างทำงานอย่างหนัก โดยเน้นการขับเคลื่อนความช่วยเหลือประชาชนด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย อย่าง แอปฯ อสม.ที่ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าเชิงรุกอย่าง อสม.ใช้เก็บข้อมูลประชาชนในพื้นที่ได้อย่างครบถ้วน รวดเร็ว เรียลไทม์ โดยเฉพาะ การติดตามสถานการณ์โควิดในชุมชน ที่ทำให้เราสามารถร่วมกันวางแผนบริหารจัดการ กลุ่มผู้ติดเชื้อ  home isolation หรือ การติดตามกลุ่มเสี่ยงให้ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม พร้อมกันนี้ยังสามารถใช้เป็นข้อมูลรายงานถึงฝ่ายบริหารระดับอำเภอ และ ระดับจังหวัด กรณีเกิดเหตุพบการแพร่ระบาดกลุ่ม (คลัสเตอร์) ได้อย่างฉับพลัน นำไปสู่การเฝ้าระวังได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด (สสจ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสามารถเข้าถึงข้อมูลของการคัดกรองและการติดตามผู้ที่มีความเสี่ยงตามหลักระบาดวิทยา รวมทั้งสามารถวางแผนการทำงานร่วมกับ อสม.ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งหมดบ่งชี้ได้เป็นอย่างดีว่า เมื่อมีการนำดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้ พร้อมทั้งได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทุกคนที่พร้อมจะเรียนรู้ ปรับตัว ก็จะยิ่งส่งผลทำให้การทำงานร่วมกันทั้งองคาพยพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทั่วถึง เท่าทัน และเท่าเทียม

สายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ในช่วงกว่า 7 ปีที่ผ่านมา เอไอเอสได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมายกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยในด้านสาธารณสุขผ่านการพัฒนาแอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์ เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยยกระดับการทำงานของ อสม.ให้สามารถส่งเสริมและสร้างสุขภาวะมวลรวมด้านสุขภาพของคนไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ปัจจุบันมี อสม.ใช้งานเป็นประจำแล้วกว่า 500,000 ราย และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยฟังก์ชันที่ถูกออกแบบอย่างสอดคล้องกับเป้าหมายการดูแลสุขภาพประชาชน ทั้งการคัดกรองโควิด การสำรวจสุขภาพจิต การติดตามสถานการณ์ลูกน้ำยุงลาย บ่อเกิดไข้เลือดออก รวมถึงข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพต่าง ๆ ที่นอกจากจะทำให้การทำงานของ อสม.คล่องตัวแล้ว ยังทำให้การประเมินภาพรวมของคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

การได้รับรางวัล  Prime Minister’s Digital Awards 2021 ในหมวด Digital Community of the Year สาขา Well being ผ่านการทำงานของ AIS พร้อมด้วย โรงพยาบาลจตุรพักตรพิมาน และสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด รวมทั้ง อสม.ในพื้นที่ ในฐานะที่สามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปประยุกต์ใช้และก่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ในครั้งนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจ และกำลังใจสำคัญ พร้อมเป็นบทพิสูจน์ถึงความแน่วแน่ในเป้าหมายของทุกภาคส่วนที่บูรณาการ การทำงานเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ส่งผลให้การส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนไทยผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลเกิดผลขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

นี่คือหลักฐานเชิงประจักษ์ที่สะท้อนถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดูแลสุขภาวะทั้งกาย ใจ ในภาพรวมได้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเป็นแบบอย่างที่สามารถส่งต่อโมเดลการทำงานที่บูรณาการทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐในระดับท้องถิ่น ส่วนกลาง และภาคเอกชนได้อย่างเป็นเลิศ

“ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตด้านสุขภาพจากการระบาดของโควิดไปทั่วโลก การลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในท้องถิ่นคือ หัวใจสำคัญที่สุด ดังนั้น AIS จึงยังคงเดินหน้าพัฒนาเครือข่ายให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ พร้อมตั้งมั่นในเป้าหมายที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลทุกรูปแบบมาพัฒนา เพื่อให้บุคลากรทุกภาคส่วนที่ต้องทำงานในพื้นที่ มีเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพมาช่วยให้ภารกิจดูแลสุขภาพคนไทย เป็นไปได้อย่างดีที่สุด” สายชล กล่าว

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ