TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessศุภาลัย พร้อมเอาใจเจน Z+Y กลุ่มลูกค้าหลักซื้อบ้านปี 2575

ศุภาลัย พร้อมเอาใจเจน Z+Y กลุ่มลูกค้าหลักซื้อบ้านปี 2575

ความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานสะอาด การลดคาร์บอน กลายเป็นวิถีปฏิบัติที่อยู่ในใจของคนยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ พวกเขายอมจ่ายเพื่อโลกเพิ่มขึ้น รวมถึงการซื้อที่อยู่อาศัยก็คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเช่นกัน

จากข้อมูลของบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ เผยว่า ปี 2575 หรืออีก 8 ข้างหน้าคนเจน Z วัยเริ่มต้นทำงาน และเจน Y วัยสร้างตัวจะกลายเป็นลูกค้าหลัก 90% ของผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยคนทั้งสองกลุ่มนี้ต้องการเหมือนกันคือ ประหยัดพลังงาน และมีข้อแตกต่างกันเล็กน้อยที่คนเจน Z ต้องการอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม คนเจน Y ต้องการความสะดวกปลอดภัย ดังนั้น บ้านที่พวกเขาต้องการจะต้องสร้างโดยผู้ผลิตที่เอื้อประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม

ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บอกว่า ในฐานะผู้ผลิตจะต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ที่จะผลิตสินค้าที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มใช้กับบ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ บ้านแฝด

ทั้งนี้ บริษัทร่วมมือกับพันธมิตรผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด คือ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด และบริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือกลุ่มบางกอกเคเบิ้ลติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป ให้บ้านระดับกลางบน ราคา 4-30 ล้านบาท ไม่ติดตั้งให้บ้านราคาต่ำกว่านี้เพื่อประโยชน์ด้านการยื่นกู้

บริษัทตั้งเป้าติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป 15,000 หลัง ภายในปี 2571 รวมสำนักงานขาย และบ้านตัวอย่าง สโมสรส่วนกลาง โครงการที่อยู่อาศัยของศุภาลัยทั่วประเทศ จากเป้าหมายดังกล่าวจะมียอดผลิตกระแสไฟฟ้ารวม 82,300 เมกะวัตต์ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 49,300 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เสมือนการปลูกต้นไม้ทดแทน 3.2 ล้านต้น

Supalai-x-Huawei-ion-energy-00

ปัจจุบันดำเนินการติดตั้งไปแล้วกว่า 30% ครอบคลุม 29 จังหวัด โดยการติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป มี 2 ขนาด คือ 3 kwp และ 5 kwp ทำให้ลูกบ้านประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 20,000 และ 30,000 บาทต่อปีตามลำดับ

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนอนาคตจะพัฒนาเพิ่มช่องทางการ Tracking ติดตามพร้อมควบคุมการผลิตกระแสไฟฟ้าผ่าน Application : SABAI ให้ใช้งานได้ครบวงจรมากขึ้น

ไตรเตชะ ระบุว่า ภาคธุรกิจอสังหาฯ มีส่วนในการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทตระหนักถึงผลกระทบดังกล่าว จึงวางกลยุทธ์ สร้างพันธกิจเพื่อผลักดันให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ได้มีส่วนร่วมดำเนินกิจกรรมที่ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นในระยะยาว สู่การเป็นองค์กรที่มุ่งสู่ความยั่งยืน

อีกทั้งยังตั้งเป้าหมายระยะกลาง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% ภายในปี 2573 ด้วยแผนงานที่ทำได้จริง หนึ่งในนั้นคือ การผลักดันการใช้พลังงานสะอาดสำหรับที่อยู่อาศัย เพื่อให้องค์กรบรรลุพันธกิจและเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม อย่างเห็นผลในระดับมหภาค และหนุนลูกบ้านศุภาลัยอยู่อาศัยในบ้านประหยัดพลังงานได้จริง

กิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บอกว่า เกินครึ่งของชีวิต คนจะอาศัยอยู่ในบ้าน ฉะนั้น บ้านที่อยู่อาศัยจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการรักษ์โลก หรือทำร้ายโลกได้ ดังนั้น จึงต้องใช้เทคโนโลยีมาส่งมอบบ้านที่ดีกว่าเดิม

ทั้งนี้ บริษัทได้คิดค้นนวัตกรรมด้านการก่อสร้าง การออกแบบ รวมถึงการพัฒนาวัสดุก่อสร้างร่วมกับคู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น SCG TOA DOS CPAC เพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้า ที่อยู่อาศัยของศุภาลัยในทุกประเภทเป็น “บ้านรักษ์โลก” ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ ของคนรุ่นใหม่ผ่าน 5 แกนหลัก คือ 1. นวัตกรรมเพื่อการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สร้างอาคารเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การออกแบบที่ลดเศษวัสดุเหลือใช้ ลดมลพิษทางอากาศ 2. การเป็นบ้านประหยัดพลังงาน 3. การออกแบบเพื่อคนทุกวัย (Universal Design) 4. การปฏิวัติใช้พลังงานสะอาด ติดตั้งโซลาร์เซลล์ และ EV Charger ให้ลูกบ้าน และ 5. จัดกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ไอออนเล็งลูกค้าบ้านเก่าติดตั้งโซลาร์เซลล์

พงศภัค นครศรี กรรมการบริหาร บริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ION) ผู้จัดหาโซลูชั่นพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ครบวงจร ให้ข้อมูลว่า อัตราการใช้ไฟฟ้ามีเพิ่มขึ้น 3.5% ทุกปี และค่าไฟปรับตัวขึ้นมาก ดังนั้น การหันมาหาพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์เซลล์ จึงเป็นปัจจัยที่น่าสนใจที่คนรุ่นใหม่ใส่ใจความยั่งยืน พลังงานสะอาด และความคุ้มค่า

ทั้งนี้ บริษัทให้ความสนใจต่อการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในบ้านเก่าจำนวน 8 แสนหลังคาเรือน และมองว่า อนาคตของ Green Home อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม เนื่องจากปัจจุบันบ้านเก่ายังติดตั้งโซลาร์เซลล์ไม่ถึง 1% ขณะที่ แผงโซลาร์ปรับตัวลง 10% ต่อปี เพียง 5-7 ปีหลังติดตั้งจะถึงจุดคุ้มทุนแล้ว

ส่วนบ้านใหม่ในโครงการศุภาลัย บริษัท ร่วมกับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ออกแบบและติดตั้ง Solar Roof โดยใช้เซ็ตมาตรฐานการติดตั้งด้วยอุปกรณ์แผงโซลาร์เซลล์ระดับ Tier 1 คู่กับ Huawei Inverter และสายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล (BCC)

หัวเว่ยร่วมมือซีไอเอ็มบี ผ่อนโซลาเซลล์

ด้าน โลแกน ยู ประธานกรรมการกลุ่มธุรกิจดิจิทัลพาวเวอร์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด บอกว่า ตลาดโซลาร์เซลล์เติบโตขึ้นทุกปี จากความใส่ใจเรื่องความประหยัดไฟ โดยหัวเว่ย มีอุปกรณ์ใหม่ ๆ เกี่ยวกับบ้านที่ช่วยทำให้การประหยัดไฟมีประสิทธิภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายให้ความสำคัญด้านการจัดเก็บพลังงาน การนำไปใช้งานและความปลอดภัยในการใช้งานพลังงานแสงอาทิตย์ ส่งเสริมให้ทั้งภาคองค์กรและครัวเรือนร่วมติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อเพิ่มการใช้พลังงานทดแทน โดยมีเป้าหมาย 3 ปี สนับสนุน 30,000 โครงการ ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยลดก๊าซคาร์บอนได้ 265,000 ตัน

ล่าสุด หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ ยังเปิดตัวโซลูชันระบบกักเก็บพลังงานอัจฉริยะ (Smart String Energy Storage System หรือ ESS) ในชื่อ LUNA รุ่น S1 ช่วยให้เจ้าของบ้านใช้งานประสิทธิภาพพลังงานแสงอาทิตย์และแบตเตอรี่ได้สูงสุด โดยมีอายุการใช้งานนานขึ้น รองรับช่วงอุณหภูมิระหว่างการทำงานได้กว้างขึ้น พร้อมระบบป้องกันความปลอดภัยในระดับที่สูง มีตัวเลือกผลิตภัณฑ์ 3 ขนาด ได้แก่ 6.9 กิโลวัตต์-ชั่วโมง 13.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง และ 20.7 กิโลวัตต์-ชั่วโมง

นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับธนาคารซีไอเอ็มบี ที่นำแผนการผ่อนรถยนต์ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยคงที่มาใช้กับการผ่อนโซลาร์เซลล์ สำหรับผู้ต้องการติดตั้งโซลาร์เซลล์ โดยต้องมีเงินเดือนประจำ 30,000 บาทขึ้นไป เพื่อส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์เซลล์เพิ่มขึ้น

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

‘ไทยยูเนี่ยน’ ปล่อยน้ำทิ้งเป็นศูนย์ แห่งแรกในอุตสาหกรรมอาหารโลก พร้อมเปิดศูนย์เรียนรู้จากโรงงานต้นแบบ

AIS ชี้ถึงเวลาสตาร์ตอัพไทย อัปสกิลการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน จับมือ SET และ NIA ส่งมอบองค์ความรู้

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ