TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistBitkub Onlineอยากสร้าง NFT ของตัวเอง ต้องทำอย่างไร มาดูกัน!

อยากสร้าง NFT ของตัวเอง ต้องทำอย่างไร มาดูกัน!

ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาเช่นนี้ หลายคนน่าจะกำลังมองหาช่องทางสร้างรายได้เสริม โดยนอกจากการเทรดหรือการลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาวแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าการสร้าง NFT ของตัวเองเพื่อวางขายให้กับผู้ที่ชื่นชอบก็เป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจไม่น้อย บทความนี้จะมาสอนวิธีทำ NFT เป็นของตัวเองเพื่อที่ผู้อ่านจะสามารถนำ NFT ไปต่อยอดได้

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเริ่มสร้าง NFT

1. ศึกษาข้อมูลแพลตฟอร์มที่สนใจ – ควรดูว่าแพลตฟอร์มที่เราสนใจสร้างขึ้นบนบล็อกเชนเครือข่ายใด และรองรับกระเป๋าดิจิทัลอะไรบ้าง โดยแต่ละแพลตฟอร์มจะมีจุดเด่นแตกต่างกัน เช่น OpenSea ตลาดซื้อขาย NFT ที่มียอดซื้อขายสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก หรือ The Sandbox เกม Metaverse ที่สามารถสร้าง NFT ที่ดินเป็นของตัวเองได้ เป็นต้น

2. กระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet) – กระเป๋าเงินดิจิทัลควรเป็นกระเป๋าที่สามารถรองรับ Web3, Dapp, และ NFT ได้ เช่น MetaMask, SafePal, หรือ Bitkub NEXT และต้องศึกษาให้แน่ใจสามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มที่สนใจในข้อแรกได้ด้วย

3. คริปโทเคอร์เรนซี – ควรเตรียมคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัลของเครือข่ายที่เราสนใจไว้จำนวนหนึ่ง สำหรับจ่ายค่าแก๊ส (Gas fee) เช่น ถ้าแพลตฟอร์มสร้างขึ้นบน Ethereum ก็ควรเตรียมเหรียญ ETH หรือถ้าอยู่บน Bitkub Chain ก็ต้องเตรียม KUB ไว้ เป็นต้น ทั้งนี้ อัตราค่าแก๊สก็จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละเครือข่าย ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความหนาแน่นของเครือข่าย เทคโนโลยีที่เครือข่ายใช้ เป็นต้น

4. สิ่งที่ต้องการทำเป็น NFT – ข้อนี้สามารถเป็นไปได้หลากหลายมาก เช่น ไฟล์ภาพวาด ภาพถ่าย เพลง โมเดล 3 มิติ หรือคลิปวิดีโอ เป็นต้น โดยสิ่งที่นำมาทำเป็น NFT ควรเป็นสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นมาจริง ๆ ไม่ควรเป็นสิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิส่วนบุคคล ไม่เช่นนั้นอาจมีปัญหาทางด้านกฎหมายได้ แต่ถ้าเป็นแพลตฟอร์มที่มีเครื่องมือสำหรับใช้สร้าง NFT ในตัวโดยเฉพาะ อย่างเกม The Sandbox ผู้ใช้ก็อาจไม่จำเป็นต้องเตรียมไฟล์เพื่อนำมาทำเป็น NFT ก็ได้ เพียงแค่มีความคิดสร้างสรรค์และฝีมือในการสร้างผลงานออกมาก็พอ

เริ่มสร้าง NFT ของตัวเองกันเลย!

เมื่อเตรียมสิ่งที่ต้องมีทั้ง 4 อย่างพร้อม อันดับต่อมาเราจะมาดูวิธีสร้าง NFT เป็นของตัวเองกัน แต่ก็อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่ามีแพลตฟอร์ม NFT อยู่มากมาย ดังนั้น เราจะมาดูขั้นตอนบนแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยม เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเห็นภาพรวมและนำไปปรับใช้กับแพลตฟอร์มอื่นได้ง่ายขึ้น

มาเริ่มกันที่ OpenSea ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับซื้อขาย NFT (NFT Marketplace) ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ในปัจจุบัน โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

1.เชื่อมต่อกระเป๋าดิจิทัล

ไปที่เว็บไซต์ opensea.io และสังเกตที่มุมขวาบนจะมีปุ่มรูปกระเป๋า ให้คลิกที่ปุ่มนั้นและเลือกกระเป๋าที่เราใช้ โดยในที่นี้คือ MetaMask จากนั้นระบบจะให้กดอนุญาตการเข้าถึงกระเป๋า MetaMask ให้ทำตามขั้นตอนจนถึงหน้า Signature Request ให้กดปุ่ม Sign เราก็จะเชื่อมต่อกระเป๋าเข้ากับ OpenSea เรียบร้อย

2.สร้างคอลเลกชัน NFT

เมื่อเชื่อมต่อกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว อันดับต่อมาจะเป็นการสร้างคอลเลกชันเพื่อใช้สำหรับจัดเก็บผลงาน NFT ของเราให้เป็นหมวดหมู่ โดยไปที่ Profile และเลือก My Collection จากนั้นกดปุ่ม Create เพื่อสร้างคอลเลกชันใหม่

จะเข้าสู่หน้าการสร้างคอลเลกชัน โดยจะมีให้ตั้งค่า​โลโก้ (Logo) ภาพที่อยากให้แสดงเป็นภาพหลัก (Featured image) และแบนเนอร์ (Banner)

เมื่อเลือกภาพแล้ว ด้านล่างจะมีช่องให้กรอกข้อมูลต่าง ๆ ได้แก่ URL ของคอลเลกชัน คำอธิบาย (Description) หมวดหมู่ (Category) และลิงก์ไปยังช่องทางโซเชียลมีเดียของผู้สร้าง

ต่อมาเว็บไซต์จะให้ตั้งค่ากระเป๋าสำหรับรับเงิน (Payout wallet address) ให้ไปที่ปุ่มกระเป๋าด้านบนและเลือก Your address ระบบจะทำการคัดลอกมาให้โดยอัตโนมัติ จากนั้นจึงไปวางในช่อง

นอกจากนี้ ยังมีช่องให้กรอกค่า Royalties ที่เป็นการให้รางวัลแก่ผู้สร้างทุกครั้งที่มีคนนำผลงานนำไปขายต่อ โดยจะจ่ายให้กับผู้สร้างเป็นรายเดือนตามที่อยู่กระเป๋าที่ตั้งค่าไว้ ซึ่งคุณสามารถกำหนดค่า Royalies ได้สูงสุดที่ 10%

อันดับต่อมา ระบบจะให้เลือกบล็อกเชนที่คุณต้องการใช้จัดเก็บคอลเลกชัน ซึ่ง OpenSea จะรองรับเครือข่าย Ethereum, Polygon, Klatyn, และ Solana (อาจมีอัปเดตเข้ามาเพิ่มในอนาคต) โดยแต่ละเครือข่ายเครือข่ายจะมีอัตราค่าแก๊สแตกต่างกันออกไป เมื่อเลือกเครือข่ายแล้ว ระบบก็จะให้เลือกเหรียญหรือโทเคนสำหรับใช้ซื้อขายภายในคอลเลกชันนี้ ให้เลือกตามที่ต้องการได้เลย

เมื่อสร้างคอลเลกชันเรียบร้อยแล้ว คุณก็พร้อมจะมินท์ผลงานของคุณให้เป็น NFT แล้ว

3. Mint NFT

การมินท์ (Mint) ก็คือการสร้าง NFT นั่นเอง ถ้าพร้อมสร้าง NFT ชิ้นแรกของเราแล้ว อันดับแรกให้ไปที่คอลเลกชันที่สร้างไว้และเลือก Add item ที่มุมขวาบน หรือกดปุ่ม Create ที่อยู่ตรงเมนูด้านขวาบน

ภาพเมนูปุ่ม Create บน OpenSea (ที่มา: https://opensea.io/)

จากนั้นเลือกอัปโหลดไฟล์ผลงานที่ต้องการทำเป็น NFT โดยต้องเป็นไฟล์ที่ OpenSea รองรับและมีขนาดไม่เกิน 100 MB

ต่อมา ให้เลือกคอลเลกชันที่เราต้องการนำ NFT ชิ้นนี้ไปลง และจะมีช่องให้กรอกรายละเอียดต่าง ๆ ของ NFT โดยจะมีตั้งแต่ ชื่อผลงาน ชื่อศิลปิน คำอธิบาย ระดับความหายาก เป็นต้น

เรายังสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะให้ NFT ชิ้นนี้มี Unlockable Content หรือเนื้อหาที่ถูกซ่อนไว้หรือไม่ ซึ่งผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ที่ครอบครองผลงานชิ้นนี้เท่านั้นจึงจะสามารถเข้าถึงเนื้อหาดังกล่าวได้ ยกตัวอย่าง ซ่อนลิงก์สำหรับเข้าร่วมกลุ่มพิเศษที่คนถือ NFT ในคอลเลกชันนี้เท่านั้นจึงจะสามารถเข้าร่วมได้ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของ Explicit & Sentitive Content ที่เราสามารถเลือกได้ โดยเฉพาะถ้าผลงานของเรามีเนื้อหาที่ล่อแหลมหรือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนก็ควรตั้งค่าในส่วนนี้ด้วย

ภาพตัวอย่างการตั้งค่าจำนวนและเลือกเครือข่ายสำหรับการมินท์ NFT (ที่มา: https://opensea.io/)

มาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว เราสามารถเลือกจำนวน (Supply) ที่จะให้ NFT ชิ้นนี้มีอยู่ได้ จากนั้นก็เลือกบล็อกเชนที่จะใช้สร้าง NFT เท่านี้การตั้งค่าก็เสร็จเรียบร้อย และสามารถกดปุ่ม Create เพื่อมินท์ NFT ได้เลย โดยจะมีค่าธรรมเนียมสำหรับการสร้าง NFT อยู่ประมาณหนึ่ง เมื่อชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อย ผลงาน NFT ก็จะไปโผล่อยู่ในคอลเลกชันที่เราเลือก

ภาพตัวอย่างการสร้าง NFT สำเร็จ ภาพตัวอย่างการสร้าง NFT สำเร็จ

วิธีวางขายผลงาน NFT

OpenSea เป็นตลาด NFT แบบ Peer-to-Peer ที่ผู้ใช้สามารถซื้อขาย NFT กันได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง คุณเองก็สามารถนำผลงานของคุณไปวางขายเพื่อเป็นอีกช่องทางการสร้างรายได้ได้เช่นกัน

ถ้าต้องการวางขาย NFT สามารถเริ่มต้นได้โดยไปที่ Profile เราก็จะเห็น NFT ที่มีอยู่ในครอบครอง จากนั้นจึงเลือก NFT ที่ต้องการขาย และกดปุ่ม Sell

ภาพตัวอย่างปุ่ม Sell ที่มุมขวาบน (ที่มา: https://opensea.io/)

จะเข้าสู่หน้าตั้งค่าการขาย โดยจะมีตัวเลือกการขายอยู่ 2 แบบ ได้แก่

  1. กำหนดราคาขาย (Fixed Price) – จะเป็นการกำหนดราคาขายแบบตายตัว โดยผู้ซื้อสามารถจ่ายตามราคาที่กำหนดและได้ NFT ไปครอบครองทันที
  2. ประมูลแบบกำหนดราคา (Time Auction) – จะเป็นการประมูลตามระยะเวลาที่กำหนด โดยผู้ขายสามารถกำหนดระยะเวลาที่ต้องการขายได้ เมื่อถึงเวลาที่กำหนด NFT ก็จะตกเป็นของผู้ที่เสนอราคาให้สูงที่สุด
ภาพตัวอย่างหน้าตั้งค่าการขายบน OpenSea (ที่มา: https://opensea.io/)

เมื่อเลือกรูปแบบการขายที่ต้องการพร้อมกำหนดราคาหรือระยะเวลาที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว สามารถกดปุ่ม Complete Listing ระบบของ Wallet จะให้กดปุ่มยืนยันการขายอีกครั้งก็เป็นอันเรียบร้อย

เนื้อหาที่ยกตัวอย่างมานี้ เป็นขั้นตอนการสร้างและวางขาย NFT ผ่านแพลตฟอร์ม OpenSea ซึ่งแพลตฟอร์มอื่น ๆ อาจมีวิธีทำแตกต่างกันออกไปเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วสิ่งที่ผู้ใช้ต้องเตรียมจะคล้ายกันตามที่ได้ยกตัวอย่างไปก่อนหน้านี้ ได้แก่

  1. ศึกษาข้อมูลแพลตฟอร์มที่สนใจ
  2. กระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet)
  3. เหรียญดิจิทัล
  4. สิ่งที่ต้องการทำเป็น NFT

หากผู้ใช้มีความเข้าใจในพื้นฐานการทำงานของคริปโทเคอร์เรนซี โทเคนดิจิทัล NFT และค่าแก๊ส ผู้ใช้ก็จะสามารถนำความรู้ตรงนี้ไปปรับใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานบน Metaverse และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้อย่างไม่ยากเย็น

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ