TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessHonda เปิดตัว ฮอนด้าเอชอาร์-วีเจเนอเรชันที่ 2 ภายใต้ชื่อ “ฮอนด้าเอชอาร์-วีอี:เอชอีวีใหม่”

Honda เปิดตัว ฮอนด้าเอชอาร์-วีเจเนอเรชันที่ 2 ภายใต้ชื่อ “ฮอนด้าเอชอาร์-วีอี:เอชอีวีใหม่”

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว ฮอนด้าเอชอาร์-วีอี:เอชอีวีใหม่ เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย 

โนริยุกิ ทาคาคุร ะประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฮอนด้าเอชอาร์-วี ถือเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญที่ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าทั่วโลก เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปี 2557 ซึ่งถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้กับตลาดรถยนต์ในประเทศไทยโดยเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่เข้ามาเปิดเซกเมนต์เอสยูวีขนาดกลาง และเติมเต็มความต้องการของลูกค้าในกลุ่มรถเอสยูวีให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ฮอนด้า เอชอาร์-วี เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเอสยูวีที่ขับเคลื่อนการเติบโตของเซกเมนต์นี้ ด้วยยอดขายสะสมรวมกว่า 100,000 คัน

“จากความสำเร็จดังกล่าว ประเทศไทยจึงเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียที่จะได้เปิดตัวฮอนด้าเอชอาร์-วีเจเนอเรชันที่ 2 ภายใต้ชื่อฮอนด้าเอชอาร์-วีอี:เอชอีวีใหม่และยังเป็นประเทศแรกในโลกที่ได้เปิดตัวรุ่น RS ที่มาพร้อมดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟ โดยนับเป็นก้าวสำคัญที่ ฮอนด้าเอชอาร์-วีใหม่จะมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นอีกครั้งด้วยการผสานทั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะฮอนด้าเซนส์ซิ่งในทุกรุ่นย่อยพร้อมเป็นยนต์กรรมเอสยูวีสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง”

พลังจากดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมอันโดดเด่นสร้างตัวตนที่แตกต่าง

  • Utility Mode: เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮอนด้า ที่เบาะผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับลงแนวราบได้เรียบช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย
  • Long Mode: เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
  • Tall Mode: เอกลักษณ์ความอเนกประสงค์ที่โดดเด่นของ ฮอนด้า ที่สามารถพับเบาะด้านหลังขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง ซึ่งมีเพียง ฮอนด้าเอชอาร์วีอี:เอชอีวีใหม่รุ่นเดียวในเซกเมนต์ที่สามารถพับเบาะในโหมดนี้ได้

นอกจากนี้ ทุกรุ่นย่อยยังมาพร้อมกับสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการ ซึ่งมีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ 

  • ECON Mode: โหมดการขับขี่แบบประหยัดพร้อมปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการ
    ขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ตามรูปแบบการขับขี่
  • Normal Mode: โหมดการขับขี่แบบปกติสำหรับการขับขี่ใช้งานโดยทั่วไป
  • Sport Mode: โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต ที่ช่วยปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้พร้อมตอบสนอง
    การเร่งได้ดียิ่งขึ้น เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ

ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) 
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) 
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) 
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) 
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) 

พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีด้านการขับขี่ที่ครบครัน*อาทิครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยกับระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้าพร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง (Front and Rear Passenger Seat Belt Reminder) 
ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) เป็นต้น

ฮอนด้าเอชอาร์วีอี:เอชอีวีใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด รุ่นย่อย ได้แก่

  • รุ่น e:HEV RS ราคาประมาณการต่ำกว่า  1,200,000 บาท
  • รุ่น e:HEV EL ราคาประมาณการต่ำกว่า  1,100,000 บาท
  • รุ่น e:HEV E   ราคาประมาณการต่ำกว่า    990,000 บาท

สีภายนอก มีให้เลือกทั้งหมด 5 สีได้แก่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) พร้อมด้วย สีใหม่สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุกและสีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) รวมทั้งสีขาวแพลทินัม (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก) ในทุกรุ่นย่อย

เสริมความมั่นใจในการขับขี่ยนตรกรรมระดับพรีเมียม โดย ฮอนด้าเอชอาร์วีอี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อม
การรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปีและรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง** พร้อมบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานจากโชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้า 229 แห่งทั่วประเทศ 

พิเศษ ลูกค้าสามารถลงทะเบียนจองสิทธิ์ฮอนด้าเอชอาร์วีอี:เอชอีวีใหม่ ระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 11.00 . – วันที่ 18 พฤศจิกายน2564 เวลา 19.00 . จากนั้นทำการจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 
19 พฤศจิกายน 2564 – 31 ธันวาคม 2564** รับฟรีชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Utility Package ประกอบด้วยกระบะใส่ของท้ายรถ มูลค่า 1,100 บาท และแผ่นกันรอยเบาะพนักพิงหลัง มูลค่า 1,700 บาท รวมมูลค่า 2,800 บาท

เตรียมพบกับการประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ ฮอนด้าเอชอาร์วีอี:เอชอีวีใหม่ ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 นี้ ผ่านทาง LIVEถ่ายทอดสดออนไลน์ทาง Facebook Fanpage และ YouTube Channel: Honda Thailandตั้งแต่เวลา 10.00 เป็นต้นไปพร้อมทั้งเตรียมสัมผัสกับฮอนด้าเอชอาร์วีอี

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ