TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessกรุงเทพประกันชีวิตลุยตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ กางแผนกลยุทธ์ 3 ปี มุ่งเน้นเติบโตอย่างยั่งยืน

กรุงเทพประกันชีวิตลุยตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ กางแผนกลยุทธ์ 3 ปี มุ่งเน้นเติบโตอย่างยั่งยืน

กรุงเทพประกันชีวิตปรับทัพรับปี 2565 มุ่งขยายช่องทางออนไลน์เพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันที่หลากหลาย ตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่กำลังแสวงหลักประกันความมั่นคงที่แน่นอนในชีวิต เชื่อตลาดประกันภัยยังมีแนวโน้มขยายตัวเติบโตได้ดี โดยเฉพาะประกันสุขภาพ ภายใต้แผนกลยุทธ์ 3 ปีข้างหน้า (2565-2567) เสริมแกร่งความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตอย่างยั่งยืนเพื่อเป็นผู้นำด้านการบริการสุขภาพเป็นเลิศและการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรมชัดเจน

โชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA เปิดเผยว่า ทิศทางการเติบโตของธุรกิจประกันในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2564 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นแนวโน้มการขยายตัวของอุตสาหกรรมประกันที่ค่อนข้างอยู่ในระดับที่ดี แม้ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาจะทำให้กำลังซื้อลดลง แต่ภาพรวมรายรับของเบี้ยประกันชีวิตทั้งระบบอ้างอิงจากข้อมูลสมาคมประกันชีวิตไทย สามารถเติบโตได้ 2.56% มาอยู่ที่ 545,039 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงปี 2563 ก่อนหน้า เนื่องจากวิกฤติการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้คนไทยส่วนใหญ่อยากได้หลักประกันทางสุขภาพ เพื่อเข้าถึงความสะดวกสบาย บวกกับหาทางออกที่คุ้มค่าเพื่อสอดรับกับแนวโน้มค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และความกังวลเกี่ยวกับโรคร้ายแรงต่าง ๆ ดังนั้น หนึ่งในเป้าหมายหลักของกรุงเทพประกันชีวิตคือการพัฒนาให้ประกันเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทั้งในแง่ของความหลากหลาย เงื่อนไขความคุ้มครองและเบี้ยประกัน

ทั้งนี้ โชนระบุว่า ความพยายามส่วนหนึ่งที่ทำให้ประกันเข้าถึงได้ง่ายขึ้นก็คือการตั้งเป้าให้ทุกกระบวนการรับประกันของกรุงเทพประกันชีวิตจะอยู่ในรูปแบบอิเลกทรอนิกส์ภายใน 5 ปี ทำให้การทำธุรกรรมบนช่องทางออนไลน์สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา การซื้อประกันจึงไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อน โดยผู้บริโภคสามารถทำความเข้าใจและตัดสินใจซื้อได้ด้วยตนเอง เหมาะสมกับวิถีชีวิตของผู้คนในยุคนิวนอร์มัลอย่างแท้จริง

ในส่วนของผลการดำเนินงานของกรุงเทพประกันชีวิต โชนกล่าวว่า บริษัทสามารถเติบโตได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวม โดยประเภทของประกันที่มีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดเจนก็คือ การเติบโตของกรมธรรม์ประกันสุขภาพ (Health Insurance) และประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-Linked) แบบชำระเบี้ยครั้งเดียว (Single premium)

สำหรับในปี 2565 กรุงเทพประกันชีวิตมองเห็นโอกาสของธุรกิจประกันชีวิต เป็นผลจากความต้องการประกันสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ด้วยแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้มีความต้องการประกันสะสมทรัพย์และประกันชีวิตควบการลงทุนมีแนวโน้มขยายตัวเติบโตได้ดีเช่นเดียวกัน อีกทั้งการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ยังจะมีส่วนสำคัญในการช่วยสนับสนุนให้คนไทยมีความจำเป็นในการวางแผนการเงินเพื่อช่วงชีวิตในวัยเกษียณมากขึ้นด้วย

“ประกันชีวิตแบบมีปันผลค่อนข้างตอบโจทย์ความต้องการของคนหมู่มาก เพราะเบี้ยประกันคงที่ ความคุ้มครองคงที่ และเงินต้นไม่หาย ส่วนยูนิตลิงก์ (Unit link) จะตอบโจทย์คนที่สนใจลงทุนในกองทุนรวมซึ่งเน้นการลงทุนในระยะยาว นอกจากบุคคลทั่วไปแล้ว กรุงเทพประกันชีวิตยังหันมาขายประกันชีวิตของธุรกิจประเภทอื่น ๆ ที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ ทำให้เกิดช่องทางการขายใหม่ ๆ ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดี อาทิ ธุรกิจด้านโทรคมนาคม ธุรกิจออนไลน์ และธุรกิจอื่น ๆ ที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ หรือสถาบันการเงินด้านอื่น ๆ ที่ต้องการผลิตภัณฑ์การเงินแบบครบวงจร การลงทุน การออม และประกันภัยประกันชีวิต” โชน กล่าว

นอกจากนี้ เพื่อให้กรุงเทพประกันชีวิตสามารถเติบโตอยู่ในแนวหน้าของธุรกิจประกันของไทย โชนกล่าวว่าแผนกลยุทธ์ในปี 3 ปีข้างหน้าภายใต้ธีม “การเดินทางสู่อนาคตที่ยั่งยืน” (A journey towards sustainable future) ซึ่งจะมุ่งเน้นใน 5 เรื่องด้วยกันคือ 1) สุขภาพ 2) ความมั่งคั่ง 3) การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล 4) การเพิ่มช่องทางการขาย และ 5) ความรับผิดชอบต่อสังคม

สำหรับสุขภาพ (Health) คือการให้บริการด้านสุขภาพที่เป็นเลิศ (Excellent Health Services) ด้วยการมุ่งพัฒนาสินค้าใหม่ เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคน โดยปัจจุบันกรุงเทพประกันชีวิตมีแผนความคุ้มครองสุขภาพ ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย ขณะเดียวกันก็มีการพัฒนาระบบนิเวศด้านสุขภาพ (Health Ecosystem) อย่าง BLA Health Services ที่มอบความอุ่นใจด้วยบริการสุขภาพครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น BLA Health Partner, BLA Every Care และ E-Services

“บริการเหล่านี้ ช่วยให้เราสามารถรับรู้ความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าได้ดี ยืนยันได้จากผลสำรวจความพึงพอใจลูกค้า (Net Promoter Score: NPS) ในปี 2564 อยู่ที่ 44% ปรับตัวเพิ่่มขึ้น 4% จากปี 2563” โชนกล่าว ก่อนยกตัวอย่างโครงการ ที่กรุงเทพประกันชีวิตจัดทำในช่วงที่ผ่านมา อย่าง โครงการ Care@Home ที่มอบสิ่งของจำเป็นให้แก่ลูกค้าที่ต้องกักตัวอยู่ในบ้านจากโควิด-19 เฟสที่ 1 เริ่มในเดือนสิงหาคม ปี 2564 และกำลังเริ่มโครงการดังกล่าวในเฟสที่ 2 ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 เป็นต้นไป

ส่วนความมั่งคั่ง (Wealth) คือผลิตภัณฑ์ที่เน้นเป็นหลักประกันด้านสินทรัพย์ ความมั่นคั่งและความมั่นคงในชีวิต เช่น ประกันชีวิตชนิดมีเงินปันผล (Participating policy) ประกันชีวิตควบการลงทุน ซึ่งมีที่ปรึกษาทางการเงินและระบบทำงานเพื่อการวางแผนการเงินที่ตอบเป้าหมายชัดเจน

ชลลดา โสภณพนิช ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายการลงทุน กล่าวเสริมว่า การคัดเลือกและจัดสรรสัดส่วนพอร์ตการลงทุนจะดำเนินการโดยนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนของกรุงเทพประกันชีวิต เพื่อให้สอดคล้องกับการลงทุนและเป้าหมายแผนการทางการเงินของลูกค้า  สามารถปรับลดสัดส่วนความคุ้มครองและการลงทุนได้อย่างยืดหยุ่น สร้างความเชื่อมั่นได้ว่าเงินของลูกค้าจะได้รับการดูแลและงอกเงยเป็นอย่างดี

ด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Insurance) คือการปรับให้ทุกกระบวนการรับประกันขึ้นมาอยู่บนแพลตฟอร์มดิจิทัล ภายใน 5 ปีนับจากนี้ โดยไล่เรียงตั้งแต่กระบวนการขาย การออกกรมธรรม์ การบริการกรมธรรม์ และการต่ออายุกรมธรรม์ รวมไปถึงส่งเสริมการใช้งานดิจิทัลสำหรับผู้ถือกรมธรรม์ โดยมีแอปพลิเคชันสำหรับลูกค้า BLA Happy Life App และ Bangkok Life GMC App

ขณะที่การเพิ่มช่องทางการขาย (Channel) หมายถึงการเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้ผลิตภัณฑ์ของกรุงเทพประกันชีวิตครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมยกระดับคุณภาพทั้งในแง่ของตัวผลิตภัณฑ์ และตัวช่องทางผ่านทางตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งสำหรับคุณภาพของผลิตภัณฑ์จะสร้างความแข็งแกร่งด้วยการผนึกกำลังกับธนาคารและพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การพัฒนาคุณภาพบุคลากรจะมีการเปิดพื้นที่ให้ตัวแทนและที่ปรึกษาได้ยกระดับทักษะสู่การเป็นผู้บริหารมืออาชีพ ผ่านโครงการ Smart Agent, Smart FA และ Smart Leader โดยมีโครงสร้างแผนรายได้และเครื่องมือสนับสนุนการทำงาน เพื่อให้ทีมขายมุ่งสู่เส้นทางการเติบโตยั่งยืน

“เรามีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นผู้นำช่องทางขายประกันออนไลน์ แบบประกันหลากหลายประเภท เช่น ประกันเพื่อการออมทรัพย์, การเกษียณ และสุขภาพ โดยข้อมูลปี 2564 ที่ผ่านมา กรุงเทพประกันชีวิตมีสัดส่วนเบี้ยประกันรับรายใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์ เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งในปี 2565 นับจากนี้ เราจะเดินหน้ามุ่งสู่ช่องทางออนไลน์มากขึ้น” โชนกล่าว

ส่วนทิศทางกลยุทธ์สุดท้ายคือ ความรับผิดชอบต่อสังคม (Social Responsibility) ที่โชนกล่าวว่ากรุงเทพประกันชีวิตมีเป้าหมายสู่การเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาลด้วยการขยายบทบาทและหน้าที่ต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางการเงินเพื่อวางแผนชีวิตให้มั่นคง ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ความต้องการสังคม ให้การสนับสนุนจิตสำนึกการดูแลสิ่งแวดล้อมแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย บริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน ซึ่งจะนำพาบริษัทให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอุตสาหกรรมประกันของไทยจะมีแนวโน้มเป็นไปในทางบวก แต่ก็ยังมีปัจจัยท้าทายที่ต้องคำนึงถึง ซึ่งโชนกล่าวว่า ในปี 2565 นี้ ปัจจัยแรกสุดที่ต้องจับตามองก็คือการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่มีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และความสามารถในการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19

“แต่สำหรับความท้าทายภายในของกรุงเทพประกันภัย ประกอบด้วยการรักษาความเชื่อมั่นในแง่ของความมั่นคงทางการเงินของบริษัท หลังจากมีกรณีอื้อฉาวเกี่ยวกับการปิดตัวของบริษัทประกันภัยไป ส่วนข้อที่สองก็คือชื่อเสียงในการดูแลเอาใจใส่ลูกค้าอย่างจริงใจและสม่ำเสมอ และการพิจารณาสินไหมทดแทนที่เท่าเทียมและเป็นธรรม ทั้งสำหรับตัวลูกค้าและสำหรับตัวธุรกิจประกัน” โชนกล่าว

ทั้งนี้ บริษัทกรุงเทพประกันชีวิต เป็น 1 ใน 146 บริษัทในรายชื่อหุ้นยั่งยืน ประจำปี 2564 และได้รับรางวัลบริษัทประกันชีวิตที่มีการบริหารดีเด่น ปี 2564 อันดับ 2 จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และรางวัลสุดยอดองค์กรครองใจผู้บริโภค “Most Admired Company Award” จาก Business+ และองค์กรชั้นนำระดับภูมิภาคเอเชีย “Asia’s Best Employer Brand Awards 2021” และ HR Excellence Awards 2021 Thailand : Leadership Development ระดับ Bronze

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Bluebik ประกาศปิดดีล เข้าถือหุ้นใหญ่ GMVPI ผู้เชี่ยวชาญระบบ SAP

BMW ร่วมกับ EVme มอบประสบการณ์เช่ารถยนต์ไฟฟ้า MINI cooper SE และ BMW iX3 แบบครบวงจร

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ