TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessทีดี ตะวันแดง จับมือ Google Cloud ยกระดับร้านค้าโชว์ห่วย ด้วยแพลตฟอร์ม Retail-as-a-Service

ทีดี ตะวันแดง จับมือ Google Cloud ยกระดับร้านค้าโชว์ห่วย ด้วยแพลตฟอร์ม Retail-as-a-Service

ทีดี ตะวันแดง จำกัด (“TD”) บริษัทเทคโนโลยีค้าปลีกชั้นนำประสานความร่วมมือ Google Cloud ช่วยร้านค้าขนาดเล็กแบบดั้งเดิมที่ดำเนินธุรกิจโดยครอบครัว เปลี่ยนการดำเนินธุรกิจให้ขายดีและมีกำไรท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดของวงการค้าปลีก

ปัจจุบัน ร้านค้าขนาดเล็กในชนบทที่ดำเนินธุรกิจโดยครอบครัวหรือ “ร้านโชห่วย” ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกในชุมชนท้องถิ่นที่ขายของชำและของใช้อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันในราคาย่อมเยาได้รับความนิยมน้อยลง เนื่องจากเครือร้านสะดวกซื้อที่ขยาย ตัวอย่างรวดเร็วซึ่งขายสินค้าในราคาที่ต่ำกว่าเพราะได้เปรียบในแง่ของขนาดของธุรกิจ นอกจากนี้ ร้านโชห่วยยังได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้ 61.6% ของกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก และขนาดย่อม (MSMEs) ในท้องถิ่นมีรายได้ลดลง สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจให้กับภาคครัวเรือนเป็นอย่างมาก

เพิ่มความสะดวกให้เจ้าของร้าน

TD นำเสนอรูปแบบโมเดลธุรกิจร้านสะดวกซื้อชุมชน (ถูกดี มีมาตรฐาน) แบบแบ่งปันผลกำไร เปลี่ยนโฉมร้านค้า และเปิดโอกาสให้ใช้งานแพลตฟอร์มค้าปลีกของบริษัท เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าของร้านในเรื่องการบริหารจัดการร้านค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและยกระดับความสามารถในการแข่งขัน โดยแพลตฟอร์มดังกล่าว สร้างขึ้นด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและรองรับการปรับขนาด ข้อมูลวิเคราะห์ขั้นสูง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิง (ML) ของ Google Cloud โดยร้านค้าแต่ละแห่งที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จะมีโลโก้ “ถูกดี” ข้างชื่อร้านเดิม

TD ทำให้การเติมสต็อกและการทำบัญชีการเงินในนามของร้านค้าเป็นไปโดยอัตโนมัติผ่านแพลตฟอร์มที่มีแอปพลิเคชันจุดขายอัจฉริยะ (POS) ซึ่งเชื่อมต่อกับเครือข่ายการจัดจำหน่ายสำหรับการค้าปลีกเต็มรูปแบบ เจ้าของร้านค้าสามารถใช้เวลาไปกับงานอื่น ๆ เช่น รับสินค้า พิมพ์ป้ายราคาและข้อความโปรโมตจาก POS เติมสินค้าในชั้นวาง และสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าได้โดยไม่ต้องปิดร้านค้าเพื่อไปหาผู้ค้าส่งและบันทึกธุรกรรมการขายด้วยตนเอง

ยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยเทคโนโลยี

เทียนธรรม เศรษฐสิทธิ์ กรรมการบริหาร บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด กล่าวว่า ร้านโชห่วย ถือเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของหมู่บ้านและชุมชนเพราะเป็นธุรกิจที่ดำเนินการโดยคนในชุมชน ทำให้มีความเข้าใจและความผูกพันกับชุมชนเป็นอย่างมาก แต่ในช่วงที่ผ่านมาร้านค้าในหลายพื้นที่กลับประสบปัญหามีรายรับที่ไม่เพียงพอที่จะทำธุรกิจต่อ รวมถึงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้หลายกิจการต้องปิดตัวลง ตลอดจนจากวิกฤติการเลิกจ้างพนักงานในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้คนหนุ่มสาวที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพมหานครเดินทางกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิดจำนวนมาก

TD จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่ง รวมถึงช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในทุกพื้นที่ จึงได้มีการพัฒนารูปแบบโมเดลธุรกิจรวมถึงพัฒนาระบบเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ร้านค้าพาร์ตเนอร์ขายดี มีกำไร เป็นรายได้หลักของครอบครัวได้ ซึ่งการที่เราจะสามารถทำได้เช่นนั้น เราจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีโดยในระดับแนวหน้าเข้ามาช่วยเหลือ ทาง TD จึงได้ร่วมมือกับ Google Cloud ในการออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์มของร้าน ถูกดี มีมาตรฐาน ขึ้น ผลจากความร่วมมือครั้งนี้ทำให้ร้านค้าพาร์ทเนอร์ของเราสามารถเพิ่มยอดขายและทำกำไรได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งได้รับความไว้วางใจจากร้านค้าใหม่ ๆ เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับทางถูกดีเพิ่มขึ้นกว่า 100 ร้านค้าต่อสัปดาห์

ลดความสิ้นเปลือง

ความท้าทายสำคัญที่ร้านโชห่วยต้องเผชิญก็คือ ความยากในการหาซื้อสินค้ามาขายและการเลือกสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทำให้บ่อยครั้งร้านค้าต้องเสียโอกาสทางการขายและมีสินค้าค้างสต็อกจำนวนมากที่หมดอายุ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนและรายได้ที่ร้านค้าจะต้องแบกรับ

การใช้ Dataplex ของ Google Cloud ในการรับส่งข้อมูลระหว่างเครื่องคิดเงินอัจฉริยะ (POS) กับระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) ในระบบคลาวด์จากส่วนกลาง จะช่วยให้ TD และร้านค้าพาร์ตเนอร์สามารถบริหารจัดการร้านค้าได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โดยระบบจะทำการรวบรวมข้อมูลการซื้อ-ขายสินค้าภายในร้านและเชื่อมต่อกับเครือข่ายการจัดการสินค้าและคลังสินค้าให้โดยอัตโนมัติผ่าน Dataplex ของ Google Cloud ในการจัดส่งข้อมูลไปยังระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) ในระบบคลาวด์ของส่วนกลางแบบ Real-Time จากนั้นนำข้อมูลที่ได้ทำการวิเคราะห์ผ่านเครื่องมือต่าง ๆ อาทิ การสร้างแบบจำลองเชิงคาดการณ์, Vertex AI, Business Intelligence และเครื่องมือแสดงภาพข้อมูลของ Google Cloud ในการคำนวนและบริหารจัดการส่งสินค้าที่ต้องการไปยังร้านค้าพาร์ตเนอร์ได้อย่างทันท่วงที ช่วยเพิ่มความสะดวก ลดค่าใช้จ่าย ลดขั้นตอนการดำเนินงาน เพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันให้ร้านค้าสามารถอยู่รอด แข่งขันได้ และขายดีมีกำไรตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้าน

ใช้งานเสถียร แม้อยู่ในพื้นที่ห่างไกล

สำหรับร้านค้าที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลซึ่งมีข้อจำกัดในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ไม่เสถียร ก็สามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถของ Google Cloud ในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย การประมวลผลแบบ Serverless และพื้นที่เก็บข้อมูลและการดึงข้อมูลที่มีเวลาในการตอบสนองต่ำช่วยให้ TD สามารถมอบประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ราบรื่นและเสถียรให้แก่เจ้าของร้านได้จากแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ ซึ่งรวมถึงซอฟต์แวร์ POS ในเครื่องชำระเงินที่ร้านค้าและบริการติดต่อสื่อสารในอุปกรณ์พกพา นอกจากนี้ ความสามารถเหล่านี้ยังช่วยให้แอปพลิเคชันทำงานแบบออฟไลน์ได้เพื่อลดการหยุดชะงักของการดำเนินการในร้านค้า ขณะที่ข้อมูลที่สร้างขึ้นใหม่จะซิงค์กับระบบโดยอัตโนมัติเมื่อกลับมาเชื่อมต่ออีกครั้ง

รุจ อัครพณิชสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด กล่าวว่า เทคโนโลยีภายในร้านถูกดีที่พาร์ตเนอร์ใช้งานอยู่นั้นจะเป็นตัวจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ภายในร้าน ซึ่งถือเป็นข้อมูลที่มีจำนวนมากที่ต้องได้รับการนำเข้าระบบและถูกจัดระเบียบให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อที่จะได้นำข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้มาวิเคราะห์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทางพาร์ตเนอร์ ซึ่งระบบ Google Kubernetes Engine และ Anthos Service Mesh ก็ได้ช่วยให้การเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว มีความปลอดภัย และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาธุรกิจของเราได้เป็นอย่างดี”

พลิกโฉมโชห่วย “ไฮเปอร์มาร์ทเสมือนจริง”

TD เร่งมือพัฒนานวัตกรรมได้ด้วยการใช้โครงสร้างระบบที่มั่นคงและแข็งแรง โดยมีเครื่องคีออสก์บริการตนเองแบบใหม่เข้ามาพลิกโฉมร้านโชห่วยให้กลายเป็น “ไฮเปอร์มาร์ทเสมือนจริง” ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงแคตตาล็อกสินค้าอุปโภคบริโภคของ TD ได้มากขึ้น รวมถึงสามารถสั่งซื้อสินค้าที่ไม่มีภายในร้าน (Pre-Order) ชำระเงินล่วงหน้า และมารับสินค้าได้เมื่อสินค้ามาถึง 

เปิดตัว มินิแอปใน LINE

โดยทาง TD ได้เปิดตัว มินิแอปใน LINE ช่องทางในการแจ้งสถานะการจัดส่งสินค้าให้แก่ทางลูกค้าได้รับทราบ นอกจากนี้ยังมีการให้บริการในส่วนของ Membership ใน LINE MINI APP เพื่อให้ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีเพื่อเป็นสมาชิกของถูกดี ในการสะสมแต้มและแลกคะแนนรวมถึงรับข้อมูลข่าวสารและโปรโมชั่นต่าง ๆ อีกช่องทาง ที่นอกจากจะอำนวยความสะดวกและให้ประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าแล้ว ยังเป็นการช่วยพาร์ทเนอร์สร้างฐานลูกค้าประจำของแต่ละร้านได้อีกด้วย

“ข้อมูลที่ได้จาก LINE MINI APP จะถูกนำไปรวบรวมเอาไว้ในแพลตฟอร์มที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อประมวลผลให้ได้ข้อมูลเชิงลึกของพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถจัดสรรสินค้าให้เหมาะสมกับผู้บริโภคได้ ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายและสร้างรายได้ให้แก่พาร์ทเนอร์ได้เป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังสามารถนำข้อมูลวิเคราะห์ที่ได้มาประกอบการตัดสินใจในการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย รวมทั้งเป็นข้อมูลให้ทางซัพพลายเออร์ได้พิจารณาจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษให้แก่บริษัท และในอนาคตข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจในการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ของบริษัทอีกด้วย” รุจ กล่าวเสริม

ตอบสนองความต้องการตามฤดูกาลของผู้บริโภค

TD กำลังสำรวจการรวบรวมข้อมูลจากเซ็นเซอร์ที่วัดอุณหภูมิและความชื้นในอากาศภายนอกร้านค้าแต่ละร้าน หรือเซ็นเซอร์ที่คอยติดตามการเคลื่อนไหวในบริเวณต่าง ๆ ของร้านค้า โดยเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานร่วมกับ Google Cloud ในเฟสต่อไป สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้แพลตฟอร์มค้าปลีกของ TD ตอบสนองต่อรูปแบบสภาพอากาศและความต้องการตามฤดูกาลของผู้บริโภคได้ ในขณะที่การนำเสนอผลิตภัณฑ์และเลย์เอาต์ของร้านค้าก็สามารถปรับให้เหมาะสมเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าและทำให้ลูกค้าเห็นสินค้าได้มากขึ้น

เอพริล ศรีวิกรม์ Country Manager, Google Cloud ประจำประเทศไทย กล่าวว่า TD ไม่ได้แค่ช่วยให้ร้านค้าขนาดเล็กที่ดำเนินธุรกิจโดยครอบครัวอยู่รอดและเติบโตต่อไปได้เท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสทางธุรกิจให้กับแบรนด์อาหารสำเร็จรูปอิสระในท้องถิ่น รวมถึงโอกาสสร้างอาชีพให้กับชุมชนรากหญ้าด้วย เนื่องจากประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกประจำปีนี้ และเป็นผู้นำในการสนทนาเกี่ยวกับการฟื้นตัวของผู้ประกอบการ MSME ทั่วภูมิภาคนี้ TD จึงถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของการนำระบบคลาวด์ ข้อมูลวิเคราะห์ และเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อส่งเสริมกลุ่มที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจแต่ยังเป็นมือใหม่สำหรับเทคโนโลยีเหล่านี้ เราภูมิใจที่ได้มีส่วนสนับสนุนวิสัยทัศน์ของ TD ในการเติบโตรอบด้าน และพร้อมที่จะสนับสนุนการขยายการดำเนินงานด้านการค้าปลีกและนวัตกรรมของบริษัทไปยังตลาดอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

แกร็บ รุกตลาด B2B ส่ง “GrabForBusiness” เจาะลูกค้าองค์กร

ADA เผย 6 เทรนด์ผู้บริโภคปี 2022 ให้ความสำคัญกับสุขภาพ และมีระบบดูแลสุขภาพที่ปลอดภัย แนะใช้ Martech รับการเติบโต

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ