TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessสิงห์ เอสเตท เตรียมเปิด 'S Oasis' ชู Workplace Strategy สู่การเป็นอาคารสำนักงานเพื่อคนรุ่นใหม่ ตอบโจทย์การทำงานแบบไฮบริด

สิงห์ เอสเตท เตรียมเปิด ‘S Oasis’ ชู Workplace Strategy สู่การเป็นอาคารสำนักงานเพื่อคนรุ่นใหม่ ตอบโจทย์การทำงานแบบไฮบริด

เมื่อคนทำงานยุคใหม่ต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและสภาพแวดล้อมการทำงานเป็นแบบ Work from Home สลับกับการเข้าออฟฟิศเป็นเวลากว่า 2 ปี ทำให้มุมมองเกี่ยวกับพื้นที่ทำงานของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไป และด้วยเทคโนโลยีมากมายที่เข้ามาตอบโจทย์การทำงานแห่งอนาคต ทำให้การทำงานระหว่างบ้านกับที่ทำงานเป็นไปได้อย่างไร้รอยต่อ บริษัทต่าง ๆ เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการทำงานแบบ Hybrid Working Model และมองหาพื้นที่ในการทำงานที่ตอบสนองต่อรูปแบบการทำงานดังกล่าว เพื่อให้สามารถใช้พื้นที่ในการทำงานได้อย่างคุ้มค่า สร้างสรรค์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้สูงสุด

“S Oasis” อาคารสำนักงานแห่งใหม่จาก สิงห์ เอสเตท ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น Hybrid Workplace โดยเฉพาะ ตอบโจทย์วัฒนธรรมการทำงานยุคใหม่ มีการทำงานร่วมกับพันธมิตร ให้บริการวางแผนกลยุทธ์ในการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในสำนักงาน
(Workplace Strategy) ช่วยให้ลูกค้าสามารถออกแบบออฟฟิศที่ตอบรับกับวิถีการทำงานแห่งอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อรณีย์ พูลขวัญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและการพาณิชย์ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เผยว่า กว่า 2 ปีที่ผ่านมา วิถีชีวิตคนทำงานเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง บทบาทของบ้านและที่ทำงานกลับมีความสัมพันธ์ที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ ทำให้การออกแบบพื้นที่การทำงานในปัจจุบันควรคำนึงถึงความยืดหยุ่น และความสะดวกสบายของพื้นที่ใช้สอย รองรับด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ส่งเสริมประสิทธิภาพของการทำงาน และความเป็นอยู่ที่ดี

สิงห์ เอสเตท และพันธมิตรจึงสร้างสรรค์บริการ Workplace Strategy ขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อวิถีการทำงานแห่งอนาคตสู่รูปแบบ Hybrid Work Model แบบไร้รอยต่อ

ความยืดหยุ่นและความสะดวกสบายของพื้นที่ใช้สอย 

สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่การใช้งานได้ตามความต้องการที่หลากหลาย และเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เช่น การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เคลื่อนย้ายได้ง่าย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ทุกตารางเมตรได้อย่างเหมาะสม คุ้มค่า และสะดวกสบาย เหมือนกับการทำงานในบ้านของตนเอง

นอกจากนี้ พื้นที่ทำงานยุคใหม่แม้จะมีการแบ่งสัดส่วนชัดเจน แต่ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้กลายเป็น Co-working Space ได้ เพื่อให้ผู้คนมีอิสระในการใช้พื้นที่ทำงาน ส่งเสริมให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ และยังส่งเสริมให้เกิดปฏิสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างพนักงาน

มีความพร้อมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การทำงานแบบไฮบริด 

“S Oasis” ออกแบบมาเพื่อตอบรับกับอุปกรณ์และเทคโนโลยีทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นการนำระบบ IoT (Internet of Things) มาใช้ เพื่อให้เจ้าของพื้นที่สามารถควบคุมระบบ Smart Devices ได้ง่าย ๆ ด้วยปลายนิ้วสัมผัส พร้อมระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เชื่อมโลกการทำงานเข้ากับชีวิตประจำวัน รองรับรูปแบบการทำงานแบบ Onsite และ Offsite 

ยกระดับความใส่ใจด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี 

ความใส่ใจด้านสุขอนามัย รวมถึงความเป็นอยู่ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพนักงานในยุค Next Normal  “S Oasis” ให้ความสำคัญในรายละเอียดเหล่านี้ จึงได้ออกแบบระบบมาตรฐานความปลอดภัยในการคัดกรองโควิด และระบบ Touchless Environment เพื่อลดการสัมผัส

นอกจากให้คำปรึกษาด้านการออกแบบ และบริหารจัดการพื้นที่สำนักงานที่เหมาะสมกับรูปแบบการทำงาน และจำนวนพนักงานแล้ว ทีมงานด้าน Workplace Strategy ยังสามารถช่วยให้คำปรึกษาด้านอุปกรณ์การทำงานที่สนับสนุนให้คนมีสุขภาพดี เช่น โต๊ะและเก้าอี้ปรับระดับได้ เก้าอี้นวด และการคำนึงถึงความเป็นส่วนตัว เช่น การติดตั้ง Phone Booth และ Private Zone เป็นต้น

“S Oasis” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต ใกล้กับสถานี BTS หมอชิต สถานี MRT จตุจักร บนพื้นที่โครงการ 6 ไร่ 3 งาน 24 ตารางวา สูง 35 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดิน 1 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 54,000 ตร.ม. พื้นที่ค้าปลีก 1,700 ตารางเมตร ที่จอดรถยนต์จำนวน 870 คัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อร่วมสนับสนุนทุกการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังมีอาคารจอดรถโดยรอบที่สามารถรองรับได้กว่า 1,400 คัน

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

บิทคับ ร่วมเป็นพันธมิตรด้านการสื่อสารอย่างเป็นทางการ ของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค

เซ็นทรัล รีเทล กางแผน 5 ปี ปูพรม “โรบินสันไลฟ์สไตล์” ทุ่ม 17,000 ลบ. ปรับโฉม-ขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ