Vivo เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุด Vivo X50 Pro 5G อย่างเป็นทางการในประเทศไทย มาพร้อมเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหว (Gimbal) โหมดกลางคืน การซูม และถ่ายภาพบุคคล รวมถึงการพัฒนาเครือข่าย 5G อย่างรวดเร็วในประเทศไทยที่พร้อมใช้งานในอนาคตอันใกล้นี้ ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จาก 5G มากขึ้น
-สมาร์ทโฟนงบไม่เกิน 4,000 บาท ต้องสเปกแบบไหน
-อุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน กับการขับเคลื่อนไปสู่ Next Normal ของซัมซุง
สมาร์ทโฟน Vivo X50 Pro 5G ผสานรวมเทคโนโลยีการถ่ายภาพ กล้องหลักของ X50 Pro 5G มาพร้อมกับระบบกล้อง Gimbal ชั้นนำของอุตสาหกรรมเพื่อลดการสั่นไหว ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพและวิดีโอที่ชัดขึ้นขณะกำลังเคลื่อนไหวหรือแม้ในเวลากลางคืน โมดูล Gimbal ขนาดเล็กในตัวของ X50 Pro 5G ถอดแบบมาจากเทคโนโลยี Gimbal ขนาดเต็มสำหรับมืออาชีพ โดยจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับการสั่นไหวเพื่อทำให้กล้องหลักเสถียรยิ่งขึ้น
ระบบนี้ยังขยายองศาของการหมุนและพื้นที่ป้องกันการสั่นให้กว้างขึ้นเมื่อเทียบกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบอื่นที่เป็นที่นิยม ทำให้ได้ภาพที่คมชัดเป็นพิเศษ ฟีเจอร์ Gimbal Radar จะแสดงลูกบอลเคลื่อนไหวบนหน้าจอเพื่อบ่งบอกการเคลื่อนไหวของ Gimbal ช่วยให้ผู้ใช้ดูได้ว่าเฟรมภาพเสถียรแล้วหรือไม่ อัลกอริทึมของ Vivo จะช่วยลดภาพเบลอที่เกิดจากการเคลื่อนไหว พร้อมด้วยเซ็นเซอร์เฉพาะตัว และการโฟกัสติดตามแบบต่อเนื่อง ที่จะเพิ่มความคมชัดของภาพและวิดีโอขึ้นอีก
X50 Pro 5G มาพร้อมกล้องหน้า 32MP หนึ่งตัวและกล้องหลังสี่ตัว (กล้องหลัก 48MP, กล้องซูเปอร์ไวด์ 8MP, กล้องถ่ายภาพบุคคลระดับมืออาชีพ 13MP, และกล้องเทเลสโคปิค 5 เท่า 8MP) เลนส์เทเลสโคปิค 5 เท่าใน X50 Pro 5G ยังรองรับไฮเปอร์ซูม 60 เท่า
Vivo X50 Pro 5G ยังมาพร้อมซูเปอร์ไนท์โหมดและโหมดถ่ายภาพดวงดาว ทั้งสองโหมดนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพยามค่ำคืนได้ ส่วนมุมภาพซูเปอร์ไวด์ 120 องศา (108 องศาหลังจากปรับแก้ป้องกันภาพผิดเพี้ยน) และฟังก์ชันซูเปอร์มาโครจะช่วยเสริมการถ่ายภาพระดับมืออาชีพได้ในหลากหลายสถานการณ์ และโหมดถ่ายภาพบุคคลของ Vivo ซึ่งขับเคลื่อนด้วยอัลกอริทึมการมาสก์ 4 ชั้น จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถแยกวัตถุออกจากพื้นหลังและใช้เอฟเฟกต์แยกกันเพื่อผลลัพธ์ที่ละเอียดยิ่งขึ้น
ขับเคลื่อนโดยโปรเซสเซอร์ Qualcomm Snapdragon 765G เพื่อการประมวลผลที่รวดเร็วและทำงานหลากหลายพร้อมกันได้ อัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงถึง 90Hz เพื่อภาพที่คมชัด ไม่ว่าจะชมภาพยนตร์หรือเล่นเกม
นวัตกรรมเทคโนโลยี HDR 10+ จะแสดงผลที่สว่างสดใส กระจกแบบด้าน AG จะมอบสัมผัสนุ่มนวลละเอียดอ่อนในการใช้งาน และระบบกล้อง Gimbal ยังได้ออกแบบให้เป็นรูปดวงตา เพื่อเป็นองค์ประกอบของดีไซน์ด้านหลังอันเป็นเอกลักษณ์ของ Vivo X50 Pro 5G
สมาร์ทโฟน Vivo X50 Pro 5G จะวางจำหน่ายวันที่ 8 กันยายน 2563 ในสีอัลฟาเกรย์ (Alpha Gray) ในราคา 24,999 บาท
หูฟัง TWS Neo
Vivo ยังได้เปิดตัวหูฟัง TWS Neo เพื่อมอบประสบการณ์เสียงคุณภาพสูงและตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงในทุก ๆ วัน หูฟังไร้สาย TWS Neo มีคอยล์เคลื่อนไหว 14.2 มม. ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ
หูฟัง TWS Neo ออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้ และมีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนด้วย AI เพื่อการสนทนาทางโทรศัพท์ที่ชัดเจนขึ้น พร้อมด้วยการควบคุมอัจฉริยะที่สั่งงานผ่านเสียงได้หลายรูปแบบ หูฟังขับเคลื่อนด้วย QCC3046 แพลตฟอร์ม TWS รุ่นที่ 4 จาก Qualcomm ซึ่งให้ความหน่วงต่ำ ความแม่นยำสูง และประสบการณ์การฟังที่เสถียร ตลอดจนเทคโนโลยี Bluetooth 5.2 ล่าสุดที่รับส่งได้ไกลสูงสุดถึง 10 เมตร คุณสมบัติขั้นสูงของหูฟัง TWS Neo พร้อมด้วยดีไซน์คลาสสิกและขนาดที่กะทัดรัดถือเป็นผลลัพธ์ของความทุ่มเทลงทุนด้านอุปกรณ์ไอโอทีของ Vivo ทั้งสมาร์ทโฟน X50 Pro 5G และหูฟัง TWS Neo แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Vivo ในการสร้างสรรค์อุปกรณ์ที่เน้นการออกแบบเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้
หูฟัง TWS Neo วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีทั้งหมด 2 สีคือ สีขาว Moonlight White และสีดำน้ำเงิน Starry Blue ให้ผู้ใช้งานได้เลือกตามสไตล์ของตน ในราคาเพียง 2,999 บาท
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
-แบรนด์ในไทยหันใช้ไลฟ์กู้คืนยอดขาย
-กสทช. ประกาศผู้ครอบครองโดรนใหม่ หลังวันที่ 23 ก.ย. 63 ต้องขึ้นทะเบียนใน 30 วัน
-GUNKUL SPECTRUM ต่อยอดสู่ Energy Solution ขยายธุรกิจสู่ลูกค้าทั่วไป
-อินเทลเปิดตัว Core เจนเนอเรชั่น 11 พร้อม Intel Evo
