TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyETDA เปิดร่างแผนยุทธศาสตร์ธุรกรรมฯ ชาติ ชู 4 โปรแกรมเน้น Digital ID ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ETDA เปิดร่างแผนยุทธศาสตร์ธุรกรรมฯ ชาติ ชู 4 โปรแกรมเน้น Digital ID ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ETDA โชว์ (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์ธุรกรรมฯ ชาติ ชวนหน่วยงานรัฐ-เอกชน เชื่อมโยงภารกิจกับแผน ขับเคลื่อนการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ ผุด 4 โปรแกรมสำคัญช่วยผลักดัน Digital ID for Economy and Society – Thailand’s digital services & cross digital platform standard – e-Transaction standard promotion – e-Transaction intelligence center พร้อมตั้งเป้า ปี 65 อับดับ Ease of Doing Business ไทยติด TOP 20

สำนักงานพัฒนาธุรรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) จัดประชุมชี้แจงแนวทางความร่วมมือภายใต้แผนปฏิบัติการของ (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2564 – 2465 ชวนผู้แทนจากหน่วยงานรัฐและเอกชน กว่า 70 หน่วยงาน ระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ  เชื่อมโยงภารกิจขององค์กร ให้สอดคล้องกับ (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์ในแต่ละประเด็น ผ่านการประชุมออนไลน์ MS TEAMS และออฟไลน์ โดยคำนึงถึงมาตรการ Social distancing ณ ห้องประชุม Walk the Talk ชั้น 15 ของ ETDA

-สวทช. โชว์ผลงานวิจัยปี 63 ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ พร้อมขยายผลสู่การใช้จริง
-KE Group ชูยุทธศาสตร์ New S-Curve

ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอกนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยภายในงานดังกล่าวว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 43 วรรคสอง ได้กำหนดให้ ETDA จัดทำแผนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเสนอคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (คธอ.) ให้ความเห็นชอบนั้น ช่วงเวลาที่ผ่านมา ETDA ได้ดำเนินการขับเคลื่อน (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2564-2565 (แผนระดับที่ 3) เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดผ่านการพิจารณาเห็นชอบจาก คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (คธอ.) แล้วเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2563 และอยู่ระหว่างการพิจารณากลั่นกรองของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณาเพื่อประกาศใช้ในลำดับต่อไป

จึงเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อน (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์ฯ ของ ETDA เพื่อมาร่วมทำความเข้าใจในเนื้อหาสาระสำคัญร่วมกันกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยมีเป้าหมายหลักคือ World Bank’s Ease of Doing Business ของประเทศเพิ่มขึ้นจากอันดับที่ 21 ในปี 2563 เป็น Top 20 ในปี 2565 และความเชื่อมั่นในการใช้งานอินเทอร์เน็ตของประชาชนเพิ่มสูงขึ้นไม่น้อยกว่า 4% ต่อปี (เป็น 85% ในปี 2565) โดยมี ยุทธศาสตร์หลัก 4 ประเด็น ที่ต้องเร่งผลักดันให้เกิดขึ้นภายในระยะ 2 ปีนี้  ได้แก่

ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 ผลักดันให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่จำเป็น เพื่อรองรับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และส่งเสริมให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม

ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 มุ่งพัฒนามาตรฐานและกฎเกณฑ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้การกำกับดูแลอย่างเหมาะสม

ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 เพื่อยกระดับระบบการบริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของไทยให้ได้มาตรฐาน เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

และประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4 เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความตระหนักรู้พร้อมยกระดับความพร้อมด้านกำลังคน (Manpower) และบริหารจัดการข้อมูลจากการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

พร้อมกันนี้ ภายใต้ประเด็นยุทธศาสตร์ทั้ง 4 นั้น ETDA ได้จัดตั้งคณะทำงานภายใน ETDA ขึ้น 4 โปรแกรมเพื่อร่วมขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2564-2565 โดยเป็นการทำงานร่วมกับหน่วยงานภายนอกทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อผลักดันให้เกิดการทำงานที่เป็นรูปธรรมชัดเจน มี use case ที่สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้า และความสำเร็จที่จะเกิดขึ้น โดยมีตัวชี้วัด และเป้าหมายในการผลักดัน ดังนี้

โปรแกรมที่ 1  Digital ID for Economy and Society มุ่งเน้นประเด็นการยืนยันตัวตนทางออนไลน์ (Digital ID) เป็นเครื่องมือหรือโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในการใช้งานประกอบการทำธุรกรรมฯ ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ คธอ. ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก มีการผลักดันให้เกิดการใช้ Digital ID และมีการเชื่อมโยงทั้งฝั่งภาครัฐและภาคเอกชน โดยกำหนดเป้าหมายในปีนี้ 2564 เพื่อรองรับกฎหมายที่จะมีประกาศ ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (Personal Digital ID) มีมาตรฐานและกฎเกณฑ์เพื่อรองรับการใช้งาน Digital ID ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างรอบด้าน ซึ่งมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการมีศูนย์ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีแนวทาง หรือแนวปฏิบัติระหว่างหน่วยงานกำกับในด้านความร่วมมือ เพื่อผลักดันการใช้งานและเชื่อมโยงมาตรฐาน

ส่วนเป้าหมายในปี 2565 ได้วางแผนในการผลักดันให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานด้านการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลในส่วนของนิติบุคคล (Corporate Digital ID) และ National Authentication Infrastructure มีมาตรฐานและกฎเกณฑ์ในการกำกับดูแลผู้ให้บริการ Digital ID ทั้งในส่วนของ Personal และ Corporate Digital ID และเกิดการเชื่อมโยงระบบบริการด้วย DID ที่จะส่งผลต่อภาพรวมของประเทศต่อไป

โปรแกรมที่ 2 Thailand’s digital services & cross digital platform standard ในโปรแกรมนี้เน้นหนักในด้านมาตรฐาน (แนะนำ, บังคับ) กฎหมาย มาตรการที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงแนวทางการกำกับดูแลธุรกิจบริการ (Digital e-Service) ซึ่งในแผนได้มีการเสนอการเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจ โดยตัวชี้วัด คือ มีแพลตฟอร์มและมาตรฐานแลกเปลี่ยนข้อมูลและเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างหน่วยงานรัฐและเอกชน มีความสำเร็จในการออกมาตรฐานหรือกฎเกณฑ์ มีกระบวนการขอใบอนุญาตตามเกณฑ์ของ Ease of Doing Business ที่มีจำนวนขั้นตอนและระยะเวลาที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการส่งผลต่อมูลค่า e-Commerce
ที่เพิ่มสูงขึ้นไม่น้อยกว่า 4% ต่อปี

โปรแกรมที่ 2 ได้วางเป้าหมายสำคัญในระยะ 2 ปี ไม่ว่าจะเป็น มีแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านมาตรฐานที่สอดคล้องกับนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2566-2570 มี Roadmap ในการกำกับดูแลธุรกิจบริการดิจิทัลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มีมาตรฐานและกฎเกณฑ์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับแพลตฟอร์ม National Services ด้านความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัย (Trust and Security) ผลักดัน e-Transaction Data Exchange โดยการคำนึงถึงประเด็นการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล (Data privacy) และการให้ความยินยอมทางออนไลน์ (e-Consent) รวมไปถึงการพัฒนากำลังคน (Manpower) ในกล่ม Digital Service Provider รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ เพื่อมารองรับการดำเนินงานตามกลยุทธ์การดำเนินงาน

โปรแกรมที่ 3 e-Transaction standard promotion ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมให้เกิดการใช้งานเพื่อส่งเสริมการทำธุรกรรมฯ ให้เพิ่มมากขึ้น ทั้งในเรื่องของมาตรการ เรื่องธุรกิจบริการ เช่น การทำ Digital Service Sandbox ที่เน้นให้เกิดการทดสอบโดยมีเกณฑ์ทั้งในด้านความปลอดภัย, ความเป็นส่วนตัว, ความรับผิดชอบ, ความน่าเชื่อถือ และประสบการณ์ของ อันนี้ถือเป็นตัวอย่างงานของ ETDA ที่ผลักดันให้เกิดมาตรฐานที่นำไปใช้งานได้จริง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมฯ ให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งจะมีการกำหนดมาตรการจูงใจให้ธุรกิจบริการ นำมาตรฐานที่กำหนดไปใช้งานให้มีปริมาณเพิ่มขึ้น ผลักดันธุรกิจบริการให้มีมาตรฐาน รวมทั้งส่งเสริมกลุ่มธุรกิจบริการที่ได้รับรองมาตรฐานด้วย และมีการสร้างมาตรการ หรือเครื่องมือเพื่อสนับสนุนให้ผู้บริโภคมีการใช้ระบบการบริการฯ ที่มีมาตรฐาน

ในโปรแกรมนี้ ได้วางเป้าหมายปี 2564 เช่น ผู้ประกอบการมีศูนย์ให้คำปรึกษาและแนวทางการปฏิบัติตามข้อมาตรฐานและกฎเกณฑ์ และมีมาตรการ หรือเครื่องมือเพื่อสนับสนุนให้ผู้บริโภคมีการใช้ระบบการบริการที่มีมาตรฐานส่วนเป้าหมายในปี 2565 นั้น จะเพิ่มเติมจากปี 2564 คือ มีกรณีตัวอย่าง (use case) ที่มีการใช้ประโยชน์จากมาตรการหรือมาตรฐานต่างๆ ในกลุ่มธุรกิจบริการดิจิทัลได้อย่างประสบความสำเร็จ ตลอดจนมีจำนวนธุรกรรมของการให้บริการเพิ่มสูงขึ้นอีก 20% เป็นต้น

โปรแกรมที่ 4 e-Transaction intelligence center ที่มุ่งเน้นการทำวิจัย การพัฒนาคน และสร้างความตระหนักให้กับภาคประชาชน ซึ่งจะมีทั้งมาตรการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ รวมถึงการหาแนวทางการจัดการข้อมูลด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Transaction data management) ของประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการใช้งานอินเทอร์เน็ตของประชาชนที่เพิ่มสูงขึ้น สำหรับเป้าหมายระยะ 2 ปีของโปรแกรมนี้ คือ มีแนวทาง หรือชุดข้อมูลแพลตฟอร์มที่ได้รับการรับรองด้านมาตรฐานสำหรับเป็นข้อมูลให้ประชาชน มีกลไกการดูแลคุ้มครองผู้บริโภคออนไลน์ที่มีการดำเนินงานที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้จริง

มีศูนย์กลางที่เป็นแหล่งรวบรวมหลักสูตรด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ มีแนวทางในการแลกเปลี่ยนบุคลากรด้านธุรกรรมฯ ภายในประเทศและการให้สิทธิประโยชน์เพื่อจูงใจให้มีการนำเข้าบุคลากรจากต่างประเทศ มีศูนย์รวมข้อมูลและผลการศึกษาวิจัยด้านธุรกรรมฯ มีผลงานวิจัยด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งงานวิจัยเชิงนโยบาย และ
มีข้อมูลที่สะท้อนไปถึงตัวชี้วัดด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สอดคล้องกับตัวชี้วัดระดับสากลเพื่อนำไปสู่การยกระดับการแข่งขันในเวทีต่างประเทศ พร้อม ๆ กับการสื่อสารกับประชาชน และผู้บริโภคเพื่อสร้างความเชื่อมั่นการทำธุรกรรมทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้นทั้งในเชิงปริมาณและมูลค่า

การดำเนินงานก้าวต่อไปทาง ETDA จะมีการประสานการทำงานกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนเพิ่มเติม เพื่อเป็นการต่อยอดจากโครงการหรือกิจกรรมที่แต่ละหน่วยงานได้มีการดำเนินงาน ที่ไม่ใช่เพียงแค่การติดตามความคืบหน้า แต่ยังลงไปถึงการดูประเด็นข้อติดขัด หรืออุปสรรคในการดำเนินงานในแต่ละโปรแกรม เพื่อหาแนวทางการผลักดันการดำเนินงาน โดยจะมีการหารือไปยังคณะอนุกรรมการภายใต้ คธอ. ที่เกี่ยวข้อง และในส่วนที่เป็นประเด็นในเชิงนโยบายจะมีการเร่งหารือกับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องต่อไป

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ