TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistBook Reviewปาฏิหารย์ แมวลายส้ม

ปาฏิหารย์ แมวลายส้ม

ปาฏิหารย์ แมวลายส้ม ผู้พิทักษ์หนังสือ (The Cat Who Loved to Protect Books) ของนักเขียนชาวญี่ปุ่น นัตสึคาวะ โชสุเกะ แปลเป็นไทยโดย ฉัตรชัย อดิศัย เป็นหนังสือที่เหมาะมากกับทั้งคนที่รักและไม่รักการอ่าน

เรื่องราวของหนุ่มน้อยรินทาโร่ที่ต้องมาเสียคุณปู่เจ้าของร้านหนังสือมือสองให้กับโรคชรา ในวันที่รินทาโร่ไม่มีใคร ทั้งพ่อและแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว หรือเพื่อนที่โรงเรียนเพราะรินทาโร่เป็นคนเงียบ ๆ วัน ๆ จะขลุกอยู่กับหนังสือที่ร้าน

ในวันที่คุณปู่จากไป ป้าได้ยื่นมือเข้ามาขออุปการะ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องปิดร้านและรินทาโร่จะต้องย้ายเมืองไปอยู่กับป้า

ในช่วงเวลาที่เศร้า รินทาโร่พบแมวลายส้มตัวนั้นในร้านหนังสือ ที่แปลกคือ แมวตัวนั้นพูดได้ และมันขอให้รินทาโร่ทำอะไรแปลก ๆ – นั่นคือช่วยปกป้องหนังสือ เขาจะทำได้ยังไง เพราะขนาดเขาเองยังดูแลตัวเองไม่ได้ แม้จะงง ๆ แต่รินทาโร่ก็ลองทำ

และในวันที่แมวพารินทาโร่เดินทะลุมิติหลังร้านหนังสือ ชีวิตเขาก็เปลี่ยนไป

เขาพบว่ากำแพงอิฐด้านหลังไม่ได้ตัน มันเปิดออกสู่เส้นทางที่ทอดยาวไปสู่จุดหมายที่แมวจะพาไป ที่แรก คือ คฤหาสน์ที่คุมขังหนังสือมากมายที่รินทาโร่ต้องไปปลดปล่อย เจ้าของล็อกกุญแจตู้ที่มีหนังสือกว่าห้าหมื่นเล่มที่เขาอ่านไปแล้ว เขาบอกว่าคนอ่านหนังสือเยอะๆจะฉลาดกว่าคนไม่ได้อ่าน เขาอ่านเสร็จก็เก็บเพราะเขารักหนังสือ รินทาโร่นึกถึงคำปู่ที่เคยบอกเขาตอนเขาบ้าอ่านหนังสือในร้านเพื่อให้ลืมความเศร้าที่พ่อแม่จากไป ‘ถึงจะอ่านหนังสือเป็นบ้าเป็นหลัง โลกที่เรามองเห็นก็ไม่ได้กว้างขึ้นตามไปด้วยหรอก ต่อให้หลานหาความรู้ใส่ตัวมากแค่ไหน แต่ถ้าหลานไม่คิดด้วยสมองตัวเองและเดินด้วยขาตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นเพียงของที่หยิบยืมคนอื่นมา’ เขาบอกเจ้าของคฤหาสน์ว่าถ้ารักหนังสือจริงก็ไม่ต้องกักขัง เพราะแค่อ่านมันก็คือรักมันแล้ว ได้ผล ภารกิจเขาบรรลุ จุดหมายที่ 2 คือ ตึกที่มีคนสะสมหนังสือมาไว้เพื่อตัด เขาเชื่อว่าคนทั้งโลกไม่มีเวลาอ่านหนังสือ เลยต้องตัดย่อให้คนอ่าน ในเวลาเท่าเดิมจะได้อ่านได้หลายๆเล่ม แต่รินทาโร่คิดว่าการอ่านเร็วหรืออ่านเฉพาะเรื่องย่อทำให้หนังสือสูญเสียพลัง ในระหว่างที่ตัดเขาฟังซิมโฟนีอยู่ รินทาโร่จึงกดสปีดเครื่องเล่นจนซิมโฟนีไม่ไพเราะเหมือนเดิม ผู้ชายคนนั้นจึงเข้าใจและเลิกตัดหนังสือ จุดหมายที่ 3 คือสำนักพิมพ์ที่เป้าหมายคือพิมพ์หนังสือที่สังคมต้องการให้ได้มากที่สุด ให้ขายให้ได้เยอะที่สุด เพื่อจะได้พิมพ์เพิ่มต่อไป เพราะสังคมตอนนี้ไม่สนใจสัจธรรม ศีลธรรม หรือปรัชญา ‘คุณทำกับหนังสือเหมือนเศษกระดาษ ถ้าคนผลิตหนังสือมีทัศนคติแบบนั้น ก็สื่อสารกับผู้อ่านไม่ได้หรอก ปกติคนก็อ่านหนังสือน้อยอยู่แล้ว หากคนในฐานะอย่างคุณคิดอย่างนี้ ผู้คนจะเอาใจออกห่างจากหนังสือมากขึ้น และคนอ่านหนังสือก็จะยิ่งน้อยลง’ การเดินทางไปกับแมวลายส้ม ทำให้รินทาโร่รู้ว่าคนที่เขาไปพบทั้ง 3 คนรักหนังสือ อยากให้คนอ่านหนังสือมากขึ้น เพียงแต่พวกเขาใช้วิธีที่แตกต่างกันไป สำหรับตัวเขาเอง เขารู้ตัวว่ารักหนังสือมาก รู้ถึงพลังของหนังสือเพราะหนังสือให้ความรู้และทำให้เขารู้สึกถึงความรักของปู่ จนเปลี่ยนใจบอกป้าว่าจะทำร้านต่อ ไม่ย้ายเมือง ในโลกที่คนใช้เวลากับโทรศัพท์มากกว่าหนังสือ คิดว่าหนังสือคือเรื่องเสียเงินและเสียเวลา คุณเป็นอย่างนั้นรึเปล่า

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ