ทรู เปิดยุทธศาสตร์ลงทุนเทคโนโลยี เสริมแกร่งธุรกิจทั้ง “เครือทรู” และ “ซีพี”

ทรูดิจิทัล เปิดยุทธศาสตร์ลงทุนในบริษัทเทคโนโลยี-สตาร์ตอัพ เน้นธุรกิจขยายขีดความสามารถด้านสื่อสารโทรคมนาคมและการเกษตร เสริมแกร่งเครือทรูและซีพี มีประโยชน์ต่อคนทั้งประเทศ ย้ำร่วมมือพันธมิตรด้วยนโยบายเติบโตไปด้วยกัน ไม่มุ่งรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของทรู

ญัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ทรู ดิจิทัล มุ่งนำเทคโนโลยีดิจิทัลล้ำสมัย ผสานความเชี่ยวชาญของทีมงาน พัฒนานวัตกรรมบริการและดิจิทัลโซลูชัน เพื่อเติมเต็มดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของคนไทย พร้อมร่วมผลักดันองค์กรต่าง ๆ ในการทรานสฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัล ตลอดจนเดินหน้าขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันสร้างระบบนิเวศดิจิทัลของไทยให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

“นโยบายความร่วมมือที่เกิดขึ้นเป็นการเติบโตไปด้วยกัน ไม่ทำให้บริษัทที่ทรูเข้าไปร่วมทุนกลายเป็นส่วนหนึ่งของทรู โดยเน้นการลงทุนใหม่ ๆ ด้วยการทำงานร่วมกับสตาร์ตอัพที่ตอบโจทย์เทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ ซึ่งได้เสาะหาเข้าร่วมกับบริษัทด้านเทคโนโลยีที่น่าสนใจโดยตลอด จากในงานด้านสตาร์ตอัพบ้าง หรือ VC (venture capital) ที่มีพอร์ตด้านเทคโนโลยี”

เอื้อประโยชน์ประเทศและกลุ่มทรู-ซีพี

ทั้งนี้ เทคโนโลยีที่น่าลงทุน คือ ด้านมีเดีย บนทีวี, โอทีที, เอไอ, แมชชีน เลิร์นนิ่ง และด้านดิจิทัล โซลูชั่น เช่น ไอโอที, เทเลเมดิซีน, ไซเบอร์ ซิเคียวริตี้, ฟลีต โลจิสติกส์-รถยนต์ 

การจะลงทุนนั้น ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา 2 ประเด็น คือ 1. เป็นธุรกิจที่มีผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ และ 2. ต้องต่อยอดกับธุรกิจของทรู และเครือซีพีได้ ในด้านการเกษตร น้ำ และสื่อสารโทรคมนาคม สามารถทำเป็นธุรกิจที่ดีได้ รวมทั้งเป็นโอกาสที่ดีของกลุ่มทรู ซึ่งเป็นเบอร์ 1 ในการเข้าบริการในบ้านเรือนด้วยระบบสมาชิก (subscription) คือ ไวไฟ-อินเทอร์เน็ตบ้าน อยู่แล้ว

บริการสุขภาพ-การเกษตร

ก่อนหน้านี้ ทรูได้ลงทุนด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Telemedicine) กับบริษัท ชีวี บริรักษ์ จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลให้บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชันรับคำปรึกษาด้านสุขภาพผ่านแอปพลิเคชัน MorDee – หมอดี ที่ครอบคลุมกว่า 20 สาขาเฉพาะทาง ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต ช่วยให้คนไทยสามารถหาแพทย์เฉพาะทางได้สะดวกขึ้น โดยเข้าถือหุ้นสัดส่วน 60.72% ซึ่งเดิมมีแพทย์ให้บริการ 200 คน ปัจจุบันเพิ่มเป็น 600 คน บนแพลตฟอร์ม ‘True HEALTH’

กลุ่มทรูและเครือซีพี ยังผสานความร่วมมือเปิดจุดให้บริการในลักษณะของ Health Corner นำจุดให้บริการสาธารณสุขเข้าไปให้คนไทยได้ใช้งานตามสถานที่ต่าง ๆ โดยติดตั้ง Smart Screen ที่มาพร้อมแอปพลิเคชันหมอดี ในโลตัส และแม็คโคร กว่า 20 แห่งให้ใช้งาน และมีแผนจะขยายจุดให้บริการเพิ่มเติมไปยังคลินิกในชุมชน สถานพยาบาล หรือตามวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้คนไม่มีสมาร์ทโฟนเข้าถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ได้

นอกจากนี้ ยังลงทุนในบริษัท HiveGround ผู้พัฒนาหุ่นยนต์หลายรูปแบบ โดยมีสินค้าหลักคือ โดรนเพื่อการเกษตร ใช้พ่นปุ๋ย พ่นยาในพื้นที่การเกษตร และยังต่อยอดธุรกิจร่วมพัฒนาการทำงานของโดรนผ่านเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G สำหรับการขนส่ง ที่ย่นระยะเวลาได้มากโดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน หรือพื้นที่ที่มีอุปสรรคหรือเส้นทางไม่สะดวก เช่น พื้นที่ทุรกันดาร ป่า หรือภูเขา ซึ่งการนำ 5G มาเชื่อมต่อกับการทำงานของโดรน พัฒนาการใช้งานโดรนแบบไม่มีข้อจำกัด

ความร่วมมือดังกล่าว เป็นการพัฒนาการบินโดรนเพื่อการพาณิชย์ครั้งแรกในไทย เชื่อมต่อรับส่งข้อมูล สั่งการ ควบคุมและตรวจสอบการบินโดรนขนส่งได้แบบเรียลไทม์ผ่านเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G ตลอดเส้นทางการบิน ทั้งยังเชื่อมโยงจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ นำไปวิเคราะห์และประมวลผลด้วยเทคโนโลยีเอไอ เพื่อพัฒนาการบินโดรนขนส่งที่รวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยผสานการทำงานร่วมกับระบบ Unmanned Aircraft System Traffic Management (UTM) ซึ่งเป็นศูนย์กลางบริหารจัดการการบินโดรนแบบครบวงจร ดูแลและควบคุมการบินโดรนบนเส้นทางการบินอย่างถูกกฎหมาย ปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล

ผนึกซีคสเตอร์ตอบโจทย์ชีวิตดิจิทัล

ล่าสุด ทรู ดิจิทัล พลิกโฉมการจัดการบ้านยุคใหม่ ด้วยบริการบ้านอัจฉริยะครบวงจรบนแอป LivingTECH เชื่อมโยงเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยแบบไร้รอยต่อ โดยสานต่อความตั้งใจส่งเสริมและสนับสนุนสตาร์ทอัพให้ต่อยอดขยายธุรกิจและเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดผ่านการลงทุนในสตาร์ตอัพ ลงทุนในซีควัน โฮลดิ้ง ผู้ถือหุ้นซีคสเตอร์ 68% เป็นเงิน 88 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวบริการใหม่ “โฮม เซอร์วิส” (Home Services) 

ชัชนาท จรัญวัฒนากิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซีคสเตอร์ กล่าวว่า ซีคสเตอร์ เป็นแพลตฟอร์มบริการแม่บ้านมืออาชีพและสารพัดช่างผู้เชี่ยวชาญ ช่วยปลดล็อกการใช้บริการแม่บ้านและช่างแบบเดิม ๆ โดยรวบรวมแม่บ้านและช่างมืออาชีพ พร้อมจัดสรรให้เหมาะสมกับลักษณะงาน ช่วงเวลา และพื้นที่ โดยบุคลากรมีประสบการณ์และผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดี รวมถึงผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากร จึงมั่นใจและไว้วางใจได้ในความปลอดภัย พร้อมมีประกันความเสียหายจากการให้บริการ 

“การร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจกับทรู ดิจิทัล ช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้ซีคสเตอร์สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ได้มากขึ้น อีกทั้งซีคสเตอร์ยังได้รับการสนับสนุนในการพัฒนาระบบการจ่ายงานให้แก่แม่บ้านและช่าง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับมาตรฐานบริการให้ดียิ่งขึ้น พร้อมๆ กับเติมเต็มศักยภาพในการขยายงานบริการ โดยจะมีกลุ่มช่างในระบบนิเวศของทรู ดิจิทัล เพิ่มอีกกว่า 4,000 คน จากซีคสเตอร์มีแม่บ้านและช่างอยู่ 2,000 คน (แม่บ้าน 90% ช่างแอร์ 10%) สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในตลาดงานบริการได้ทันที ”

เอกราช ปัญจวีณิน กรรมการผู้จัดการกลุ่ม ธุรกิจดิจิทัลโซลูชัน บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ทรู ดิจิทัล พัฒนาบริการเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยอัจฉริยะ (True LivingTECH) มุ่งสู่บริการจัดการบ้านยุคใหม่แบบครบวงจร ซึ่งเป็นพัฒนาการสำคัญของการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาให้เกิดประโยชน์ต่อคนไทย เพื่อเพิ่มความสะดวก ปลอดภัย ตลอดจนการดูแลสุขอนามัยของคนในบ้าน ยกระดับการใช้ชีวิต ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในยุคดิจิทัลที่ผู้บริโภคต้องการความรวดเร็วและความคล่องตัวในการบริการจัดการบ้านและที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ หรือผู้สูงอายุ

บริการ True LivingTECH ช่วยเปลี่ยนบ้านธรรมดาให้เป็น “บ้านอัจฉริยะ” ด้วยหลากหลายอุปกรณ์ Smart Home & Appliance ที่ติดตั้งเองได้ง่ายๆ สามารถใช้งานระบบต่าง ๆ ได้เลย  โดยไม่ต้องเรียนรู้วิธีการสั่งการที่ยุ่งยาก ครอบคลุมทุกมิติการใช้ชีวิต เสมือนมีผู้ช่วยดิจิทัลประจำบ้าน เชื่อมโยงการทำงานบนแอปพลิเคชัน LivingTECH ให้อุปกรณ์ทำงานร่วมกันแบบอัตโนมัติ พร้อมปรับแต่งและตั้งค่าได้ตามไลฟ์สไตล์ของสมาชิกแต่ละคนในบ้านอย่างไม่จำกัด (Ultra Personalization) มีระบบการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

แพลตฟอร์ม TrueLivingTECH เอื้อต่อการขยายบริการผ่านแอป LivingTECH ให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ในเรื่องของประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้บริโภค อาทิ การเชื่อมโยงกับแอปพลิเคชัน MorDee ให้พบแพทย์ออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลาพร้อมส่งยาถึงบ้าน และบริการใหม่ล่าสุด คือ “โฮม เซอร์วิส” จะเปิดให้บริการเดือนพฤศจิกายน 2565 และทรู ดิจิทัล จะขยายบริการ True LivingTECH ให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคดิจิทัลของผู้บริโภคในทุกไลฟ์สไตล์และทุกช่วงอายุได้ครอบคลุมมากที่สุด

“ปัจจุบันอุปกรณ์ไอโอที ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสมาร์ทโฮมคือ ซีซีทีวี ที่เชื่อมต่อไวไฟ ดึงข้อมูลเก็บไว้บนคลาวด์ 100% ขจัดปัญหาเมโมรี่เต็ม ผู้ใช้งานมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 99 บาท แม้จะออกแบบมาให้ติดตั้งง่าย แต่ถ้าผู้ใช้ติดตั้งเองไม่ได้ บริษัทบริการติดตั้งให้ ค่าบริการ 299 บาท ซึ่งบริการจ่ายหลังใช้นี้ เป็นตัวกระตุ้นการเติบโตของตลาดไอโอทีที่ดี” ณัฐวุฒิ กล่าว