TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyสรุปไฮไลท์ที่น่าสนใจจาก CES 2022: Metaverse-EV คึกคัก

สรุปไฮไลท์ที่น่าสนใจจาก CES 2022: Metaverse-EV คึกคัก

จบไปแล้วกับงาน CES 2022 ที่ลาสเวกัส ที่จริงงานครั้งนี้เป็นที่เฝ้ารอคอยของแบรนด์ต่าง ๆ เสียดายที่สถานการณ์โควิด-19 ย่ำแย่ช่วงปลายปี ทำให้ท้ายสุดหลายแบรนด์ปรับการเปิดตัวเป็นแบบเวอร์ชวลหรือแม้แต่ถอนตัวออกจากงานไปในที่สุด ดีที่ว่างานครั้งนี้เป็นแบบไฮบริด เข้าชมได้สองช่องทาง จึงไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก โดยรวมแล้วมีผู้เข้าชมราว 40,000 คน (จากเดิมเมื่อปี 2019 ที่ 180,000 คน) และมีผู้ร่วมออกงานกว่า 2,300 ราย 

Metaverse มาแน่! ขบวนสินค้า AR และ VR แน่น

ถ้าเทียบกับยุคเมื่อ 20 ปีที่แล้ว กระแส VR ในยุคจักรวาลนฤมิตรรอบนี้นับว่าแรงกว่าและจับต้องได้มากขึ้น ปีนี้น่าจะได้เห็นขบวนทัพสินค้า VR มากมายทั้งจาก Meta, Sony และ Apple ยังไม่รวม Microsoft, HTC, Qualcomm, Valve, Google และ Samsung 

ไฮไลท์งานนี้อยู่ที่ PlayStation VR 2 ที่ใช้ร่วมกับ PlayStation 5 (ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ยังเป็นของหายาก) โดยมาพร้อมคุณสมบัติติดตามดวงตา ซึ่งน่าจะทำให้การเล่นเกมตอบสนองได้ดีขึ้น มีกล้องภายนอก 4 ตัวเอาไว้ติดตามตำแหน่ง และมีระบบสั่นในเฮดเซ็ตเพื่อเพิ่มอรรถรส พร้อมมุมมองรวม 110 องศา 

นอกนั้นก็มีสารพัดค่ายเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะแนว AR กันหลายรุ่น และมีแนวโน้มว่าในอนาคตจะมีแว่นที่ผสานคุณสมบัติ VR และ AR เข้าด้วยกันแบบที่ Shiftall จากฝั่ง Panasonic นำมาสาธิตในงานนี้ ส่วนใครที่รำคาญปุ่มควบคุมบนแว่น แนวคิดการย้ายการควบคุมมาไว้ที่ข้อมือแบบ Vive Wrist Tracker ของ HTC ก็น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว

ที่ชัดเจนแต่ไม่ชัดเจนที่สุดคือ นิยาม Metaverse ซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงและแต่ละแบรนด์ก็มองต่างออกไป เรียกว่าเป็นปีที่นักข่าวจับทิศทางไม่ค่อยถูกว่านิยามของคำนี้คืออะไร รู้แค่ว่าทุกคนวิ่งเข้าหา ภายใต้ข้อสงสัยของคนอีกกลุ่มว่าจักรวาลดังกล่าวเป็นของจริงหรือแค่อีกหนึ่งคำโว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเหล่าบรรดาผลิตภัณฑ์ VR และ AR ส่วนใหญ่ยังเป็นเพียงต้นแบบ

โน้ตบุ๊ก มอนิเตอร์ ทีวี และแกดเจ็ตยังคึกคัก มือถือใหม่ไม่เด่น

ฟากทีวีในงานนี้ก็เปิดตัวกันค่อนข้างครบทุกค่าย ส่วนใหญ่ก็เน้นชัดขึ้น ใหญ่ขึ้นตามสเต็ป อย่างเช่น OLED รุ่นใหญ่ที่สุดของ LG ขนาด 97 นิ้ว ส่วนชิ้นเล็ก ๆ ที่ถูกใจคนรักสิ่งแวดล้อมก็คือ Eco Remote รีโมตทีวีของ Samsung ที่นอกจากจะรับพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้แล้ว รุ่นนี้ยังดึงพลังงานจากคลื่นวิทยุรอบตัวได้ด้วย เช่น คลื่นไว-ไฟ ถือว่าเป็นรีโมตรักษ์โลกก็ว่าได้

เช่นเดียวกับฝั่งคอมพิวเตอร์ที่เน้นคาราวานโน้ตบุ๊กและจอภาพเกมมิง อาทิ Dell XPS 13 Plus ซึ่งโดดเด่นเรื่องคีย์บอร์ดและทัชบาร์ หรือ Asus Zenbook 17 Fold ขนาด 17.3 นิ้วที่พับได้ หรือ ThinkBook Plus Gen 2 ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊กแบบ 2 หน้าจอ หนึ่งจอใหญ่และหนึ่งจอเล็กขนาด 8 นิ้วข้างคีย์บอร์ด และมีสไตลัสมาให้พร้อมใช้ในตัว

ส่วนฟากเกมมิงปีนี้น่าจะได้เห็นจอภาพหลายตัวที่น่าสนใจ อย่างเช่นจอภาพรุ่นใหม่จาก Samsung อย่าง Samsung Odyssey Ark จอโค้งขนาด 55 นิ้ว ที่ใหญ่สะใจและพลิกเป็นแนวตั้งให้อารมณ์แบบอยู่ในห้องนักบิน และยังมีจอภาพจาก Alienware ขนาด 34 นิ้วรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี QD-OLED นอกจากนี้ก็ยังมี Razer Project Sophia ที่แม้จะเป็นแค่คอนเซ็ปต์ แต่ก็ไฮเทคไม่น้อย โดยจับรวมโต๊ะ พีซี และความบันเทิงเข้าด้วยกัน อีกชิ้นที่เกมเมอร์และสายขุดบิตคอยน์คงไม่อยากพลาดก็คือ GeForce RTX 3090 Ti GPU ตัวใหม่ที่แรงสุดสำหรับกลุ่มชิปเดสก์ท็อป แต่ยังต้องรอรายละเอียดที่จะเปิดเผยในอนาคตต่อไป

แกดเจ็ตที่น่าสนใจในปีนี้ก็เช่น Movano Ring ซึ่งถือเป็นมิติใหม่แห่งอุปกรณ์ตรวจจับความฟิตของร่างกาย ซึ่งเดิมมาในรูปแบบสวมใส่ข้อมือเป็นส่วนใหญ่ แต่อนาคตจะมีทางเลือกเพิ่มขึ้นเพราะจะเป็นแหวนที่ติดตามได้ทั้งกิจกรรม การนอนหลับ อัตราการเต้นของหัวใจ อุณหภูมิ การหายใจ ออกซิเจน ฯลฯ

อีกชิ้นที่ไม่ควรพลาดก็คือ คอนแทคเลนส์อัจฉริยะจากค่าย Mojo Vision ที่ฝังหน้าจอพิเศษลงไปในตัวพร้อมด้วยระบบติดตามหลายรูปแบบ และอาจกลายเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญแทนที่อุปกรณ์สวมใส่ศีรษะที่เทอะทะแบบในปัจจุบัน

ที่ไม่เกี่ยวข้องเสียทีเดียวแต่ขอจัดไว้ในกลุ่มนี้ก็คือ Ameca หุ่นยนต์หน้าตาคล้ายกับหลุดออกมาจากหนังเรื่อง I, Robot ที่อาศัย AI เข้ามาช่วยในการทำให้ฮิวแมนนอยด์ตัวนี้แสดงสีหน้าท่าทางได้คล้ายกับมนุษย์จริง ดีอย่างเดียวคือ ณ ตอนนี้ยังเดินไม่ได้และน่าจะอีกนาน ไม่งั้นหลายคนน่าจะผวาไม่น้อยทีเดียว

แต่ที่ไม่หวือหวาก็น่าจะเป็นเรื่องมือถือ เพราะเป็นที่ทราบกันว่างาน CES ไม่มีชื่อของ Apple มาหลายปีแล้ว ส่วน Samsung เองก็เลือกที่จะเปิดตัว Galaxy S21 Fan Edition ถึง 2 คืนก่อนวันงาน ดังนั้นโดยรวมจึงถือว่าค่อนข้างเงียบเหงา ยกเว้นแฟนคลับ Nokia ที่ได้เห็น Nokia 2760 ฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง และแฟนคลับ OnePlus ที่ได้เห็นเรือธงปี 2022 อย่าง OnePlus 10 Pro 

ครึกครื้นสุดคือ EV หวือหวาสุดต้อง BMW

หลายคนถึงกับเอ่ยปากว่านี่คือมอเตอร์โชว์ที่ดีที่สุดในโลก เพราะปกติจะมีแต่คอนเซ็ปต์และแนวคิด แต่ปีนี้เราได้เห็นค่ายเทคโนโลยีลุยตลาดรถ และค่ายรถก็ลุยด้านเทคโนโลยีอย่างเข้มข้นเช่นกัน เรียกว่าต่างฝ่ายต่างหาที่ยืนของตัวเองในตลาดที่มาแรงแต่ก็ยังคลุมเครือในอีกหลายเรื่อง

ปีนี้ไม่ได้มีอะไรหวือหวามากจากฝั่ง Android Automotive และ Android Auto เช่น อะแดปเตอร์ Motorola MA1 ที่ทำให้รถรุ่นเก่ารองรับ Android Auto หรือกุญแจรถแบบดิจิทัลที่เดิมเคยใช้ได้เฉพาะกับมือถือรุ่น Google Pixel 6, Pixel 6 Pro และ Samsung Galaxy S21 ก็จะรองรับอุปกรณ์มากขึ้นในปีนี้ รวมถึงการประกาศว่าค่ายรถยนต์จะสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ด้าน Google Home ทำให้การสั่งงานผ่าน Google Assistant ทำงานได้ครบเครื่องยิ่งขึ้น

เมื่อพูดถึง “สีสัน” ต้องยกให้กับ BMW Digital Art Mode ซึ่งค่ายนี้มักทำอะไรที่แตกต่างจากคนอื่นอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โหมดที่ว่าจะช่วยแปลงห้องโดยสารให้เป็นงานศิลปะชั้นเลิศ และจะได้ยลโฉมจริงกันภายในปีนี้ 

แต่ถ้าแค่นี้ยังไม่น่าตื่นเต้นพอ พบกับ “รถยนต์เปลี่ยนสีได้” ด้วยปุ่มเดียว ที่อาศัยเทคโนโลยี E Ink ซึ่งเป็นที่รู้จักในฝั่งเทคโนโลยีมานาน โดยรถ SUV รุ่นตัวอย่างคันดังกล่าวใช้เทคนิคการเคลือบสีพิเศษเอาไว้ในรูปแบบต่าง ๆ และอาศัยการกระตุ้นทางไฟฟ้าเพื่อให้เปลี่ยนเป็นสีแบบที่ต้องการ แนวคิดที่ว่าถือเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญของการปรับแต่งรถ หน้าร้อนเปลี่ยนเป็นสีขาวเพื่อไม่ให้ซับความร้อน ส่วนหน้าหนาวก็เปลี่ยนเป็นสีดำเพื่อคงความน่ามองชวนค้นหา เป็นต้น คงต้องจับตาดูกันว่าโปรเจ็กต์ BMW iX Flow ที่ว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน ที่แน่ ๆ ในอนาคตคุณตำรวจอาจต้องปวดหัวพอสมควรเลยทีเดียว

คอนเซ็ปต์คาร์ที่น่าสนใจประจำปีนี้ก็เช่น Plug and Drive (PnD) จาก Huundai ที่ผสานการเดินทางรูปแบบใหม่เข้ากับเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ใช้ขนได้ตั้งแต่คนไปจนถึงสิ่งของ ซึ่งการเข้าซื้อกิจการ Boston Dyanmics เมื่อปีที่แล้ว ทำให้ค่ายนี้เป็นที่น่าจับตาขึ้นมาทันที พร้อมประกาศด้วยว่าจะนำหุ่นยนต์เข้ามาทำให้ระยะทางและเวลากลายเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญอีกต่อไป เสมือนมีตัวคุณอีกคนในแบบดิจิทัลที่เป็นหูเป็นตาแทน ขณะที่ตัวจริงอาจกำลังนอนชิลล์อยู่ริมหาด

ด้าน Sony ก็ใช้เวทีงานนี้ย้ำชัดว่า จริงจังกับเรื่องรถยนต์ โดยได้เผยโฉม Vision-S 02 ที่แม้จะยังเป็นคอนเซ็ปต์ แต่น่าสนใจเพราะอย่างน้อยทาง Sony ก็เริ่มทดสอบรุ่น Vision-S 01 บนถนนจริงไปแล้วเมื่อปีก่อน โดยดีไซน์รุ่นนี้คล้ายคลึงกับ Tesla Model Y และมีกำลังราว 268 แรงม้า

ส่วน Chrysler ประกาศชัดว่าจะก้าวสู่รถยนต์ไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ในปี 2028 และเปิดตัว Airflow Concept ที่ยังมีรายละเอียดไม่มากนัก นอกจากข้อความที่ระบุว่านี่คือทิศทางในอนาคตของแบรนด์นี้ อีกคอนเซ็ปต์คาร์ที่น่าสนใจก็คือ InnerSpace จาก Cadillac ที่มาในแนวรถยนต์แห่งอนาคตตัวจริง เสมือนหนึ่งเลาจน์หรูที่มีสี่ล้อและเคลื่อนที่ได้

และหนึ่งในรถรุ่นใหม่ซึ่งจับต้องได้หลายรุ่นก็คือ Chevy Silverado EV ที่วิ่งได้เกือบ 650 กม. ต่อการชาร์จแต่ละครั้ง ปลดล็อกปัญหาเรื่องการชาร์จที่เป็นหนึ่งในอุปสรรคของหลายคน เรียกว่ามองเห็นอนาคตได้ชัดเจนขึ้น และย้ำชัดขึ้นไปอีกด้วยคอนเซ็ปต์คาร์อย่าง Mercedes Vision EQXX ที่ชาร์จครั้งเดียวแต่วิ่งได้ 1,000 กม. 

ใครที่สนใจเรื่องการขับขี่อัตโนมัติ ปีนี้มีค่าย GM ที่พูดถึง Ultra Cruise ซึ่งอาจทำให้สามารถขับขี่รถยนต์ในเมืองได้โดยไม่ต้องใช้มือบังคับอีกต่อไป (95% ของการขับขี่) และจะได้ยลโฉมกันครั้งแรกในปี 2023 กับ Cadillac Celestiq เรียกว่าไม่นานเกินรอ

และทั้งหมดนี้คือไฮไลท์ที่น่าสนใจจากงาน CES 2022 ที่จัดขึ้นในช่วงที่การระบาดรอบใหม่กำลังเกิดขึ้น และทำให้เราเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่างานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีในปีนี้น่าจะจัดขึ้นเป็นปกติ แต่มาในรูปแบบใหม่ที่ทุกคนล้วนต้องปรับตัว ทั้งผู้จัดงาน ผู้ร่วมแสดงงาน และผู้เข้าชมงาน

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ