TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessการ์มิน เดินหน้าขยายฐานลูกค้า Wearable Device ในไทย ตั้งเป้าโต 10%

การ์มิน เดินหน้าขยายฐานลูกค้า Wearable Device ในไทย ตั้งเป้าโต 10%

หลังจากร่วมมือกับบริษัท GIS มากว่า 20 ปี และร่วมมือกับ CMG มาระยะหนึ่ง การ์มิน คอร์ปอเรชั่น ได้ตัดสินใจเข้ามาเปิดสำนักงานในไทยอย่างเป็นทางการ มุ่งเป้าเพิ่มการลงทุนทั้ง R&D บริการ การตลาด รวมถึงการเปิด Garmin Store ในประเทศไทย

การ์มิน ถือว่าเป็นแบรนด์ระดับโลก ด้านเทคโนโลยี GPS ตั้งแต่อุตสาหกรรมการบิน ยานยนต์ การเดินทะเล ฟิตเนส และกิจกรรมกลางแจ้ง เทคโนโลยีของการ์มินในปัจจุบันที่เป็นจุดเด่น เช่น ระบบช่วยการออกกำลังกายทั้งการ วิ่ง ฟิตเนส ว่ายน้ำ อุปกรณ์เฉพาะนักปั่นจักรยาน ที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้ อุปกรณ์ช่วยนักกอล์ฟ ทั้ง แผนที่สนาม กล้องส่องระยะทาง รวมถึงนาฬิกาสำหรับนักกอล์ฟ มีนาฬิกาสำหรับนักดำน้ำ รวมถึงการตรวจจับสุขภาพทั่วไปของผู้สวมใส่ด้วย และในบางรุ่นนั้นมีระบบโซลาร์ สามารถชาร์จพลังงานเมื่อผู้สวมใส่อยู่กลางแจ้งได้

ปี 2563 ที่ผ่านมา การ์มิน มีรายได้ทั่วโลกกว่า 125,700 ล้านบาท โตขึ้น 11% จากปีก่อนหน้า ถึงแม้จะเกิดวิกฤติโควิด-19 ด้านประเทศไทยการ์มินเติบโตขึ้น 7% มียอดการจัดส่งสินค้าสูงถึง 970,000 ชิ้น โดยสินค้ากลุ่มสินค้าสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬาดำน้ำ เติบโตกว่า 80% กลุ่มสินค้าซีรีส์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟ โตขึ้น 170% กลุ่มสินค้าซีรีส์สำหรับผู้ที่รักในการปั่นจักรยาน โตขึ้น 60% กลุ่มสินค้าซีรีส์ VENU เพิ่มขึ้น 20%

-การ์มินเปิดตัว Lily สมาร์ทวอทช์ไซส์เล็ก เจาะกลุ่มผู้หญิง
-การ์มินประกาศตั้งสำนักงานใหม่ในประเทศไทย

“จากวิสัยทัศน์ของเราที่ต้องการเป็นผู้นำระดับโลกในทุกตลาดที่เราให้บริการ และความพร้อมของการ์มินในทุกมิติ เราจึงขยายธุรกิจและเข้ามาตั้งสำนักงานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการขยายธุรกิจมายังประเทศไทยครั้งนี้จะทำให้การ์มินสามารถส่งมอบบริการที่ดีและสร้างความสะดวกสบายอย่างสูงสุดให้กับลูกค้าของเรา” มิสซี่ ยาง ผู้จัดการฝ่ายวางแผนการตลาด ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การ์มิน คอร์ปอเรชั่น กล่าว

สกาย เชน ผู้อำนวยการ การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า จากกระแสของผู้บริโภคชาวไทยที่โฟกัสกับการใช้ชีวิตแอ็กทีฟและใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ประกอบกับจำนวนครั้งในการทำกิจกรรมบนแพลตฟอร์ม Garmin Connect เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยกิจกรรมในร่ม เพิ่มสูงกว่า 55% ซึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยม ได้แก่ คาร์ดิโอในที่ร่ม และโยคะ ในขณะที่กิจกรรมกลางแจ้ง เพิ่มสูงกว่า 25% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มกีฬากอล์ฟ และจักรยาน

“การ์มินมองเห็นศักยภาพการเติบโตของอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ (Wearable Devices) ในประเทศไทย และความต้องการในสมาร์ทวอทช์ที่ทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นและสร้างแรงบันดาลใจในการออกกำลังกาย หรือทุ่มเทกับการเล่นกีฬาและทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยสามารถวัดผลลัพธ์และมอนิเตอร์ตนเองได้อย่างแม่นยำ” สกาย เชน กล่าว

การเข้ามาตั้งสำนักงานในประเทศไทยของการ์มินนั้น มีเป้าหมายหลักคือ เพิ่มจำนวนผู้ใช้อุปกรณ์ Wearable จากข้อมูลที่การ์มินทำการสำรวจมา พบว่า 54% ของคนไทยยังไม่มีอุปกรณ์ Wearable เป็นของตัวเอง อย่างไรก็ดีปัจจุบันการ์มินถือว่าเป็นหนึ่งในเจ้าตลาดในประเทศไทย ข้อมูลจากงานวิ่ง บางแสน42 และ บางแสน21 ที่การ์มินเป็นสปอนเซอร์ พบว่ามีผู้ใช้การ์มิน มากกว่า 70% ในงานวิ่ง

อีกส่วนหนึ่งที่การ์มินเลือกเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพราะว่า คนไทยชอบสิ่งใหม่ ๆ เร็วกว่าหลายประเทศ และได้รับผลตอบรับที่ดีในไทยมาตลอด การ์มินเตรียมขยายตลาดสมาร์ทวอทช์เจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์ และ กลุ่มผู้หญิงมากขึ้น นอกจากนี้ยังวางแผนจะให้ความรู้การใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ มากมาย ที่คนยังไม่รู้จัก ให้รู้มากขึ้น โดยวางแผนรุกตลาดไทยปี 64 ด้วย 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

VERTICAL INTEGRATION ที่เกิดจากกระบวนการควบคุมคุณภาพทั้งสายการผลิตโดยบุคลากรของการ์มิน ตั้งแต่กระบวนการผลิต การทำการตลาด และการให้บริการ

EXPAND BRAND PRESENCE IN EACH MARKET พัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 กลุ่มให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า นำเสนอสินค้าที่ตอบความต้องการที่เฉพาะเจาะจง ผ่านการทำให้การ์มินเป็นที่รู้จักทั้งในการทำตลาดแบบ B2C และ B2B

USER EXPERIENCE ENHANCEMENT สร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภคด้วยกิจกรรมรูปแบบใหม่ ๆ จากการ์มินตลอดทั้งปี อาทิ GARMIN RUN CLUB คอมมูนิตี้สำหรับนักวิ่ง สามารถออกกำลังกายกับกูรูชื่อดังทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์

SEAMLESS SERVICE EXPERIENCES แผนการให้บริการที่ครอบคลุมลูกค้าทุกภูมิภาค ได้แก่ บริการ Drop-off points 300 จุด ทีม Call Center และ บริการ Door-to-door

“แนวทางของเรา คือ ต้องการจะเป็นผู้นำในทุกสิ่งที่ได้คิดค้นขึ้นมา ปัจจุบันเป็นผู้นำในด้านการวิ่ง ในอนาคตก็ตั้งเป้าจะเป็นผู้นำของกีฬาอื่น ๆ เช่น กอล์ฟ ดำน้ำ การเข้ามาตั้งสำนักงานในไทย เพราะต้องการลงทุนมากขึ้น เข้ามาให้บริการที่ดีขึ้น และอยากจะเข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น เราคาดหวังว่าปีนี้จะโตได้ 10% และคาดหวังว่าอยากจะให้อุปกรณ์ Wearable ไปอยู่ในมือของผู้คนมากถึง 90%” สกาย เชน กล่าวสรุป

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ