TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyเอไอเอส ผนึกพันธมิตรข้ามอุตสาหกรรม ชูกลยุทธ์ 7S หนุนธุรกิจเอสเอ็มอีเติบโต

เอไอเอส ผนึกพันธมิตรข้ามอุตสาหกรรม ชูกลยุทธ์ 7S หนุนธุรกิจเอสเอ็มอีเติบโต

เอสเอ็มอี หนึ่งในฟันเฟืองหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แม้ในวิกฤติโควิดที่ผ่านมา จะมีบางรายล้มหายตายจาก แต่ก็มีรายใหม่ที่เห็นช่องทางธุรกิจใหม่ ๆ เกิดขึ้น 4,000-5,000 รายต่อเดือน ซึ่งยอดเอสเอ็มอีรวมมีกว่า 3.18 ล้านรายในปัจจุบัน อ้างอิงตัวเลขสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) 

ในส่วนของ AIS Business ซึ่งประกาศแผนและเป้าหมายการดำเนินงานปี 2023 มุ่งเน้นการส่งมอบบริการดิจิทัลและไอซีทีโซลูชันที่สร้างความปลอดภัย มั่นใจ ตอบโจทย์การเติบโตของลูกค้าอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน” ให้แก่ลูกค้าองค์กรในการทำดิจิทัล ทรานฟอร์เมชัน ล่าสุดเดินหน้านำศักยภาพความแข็งแกร่งมาติดปีกแก่เอสเอ็มอีเช่นกัน

ธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS กล่าวว่า เอสเอ็มอี หรือกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม เป็นหนึ่งในเซ็กเตอร์ของภาคธุรกิจที่มีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของประเทศ เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ มีส่วนร่วมการสร้างจีดีพีประเทศถึง 34.2% และเกิดการจ้างงาน 12.61 ล้านคน โดย 3 อุตสาหกรรมหลักคือ การค้า 33% โรงงานอุตสาหกรรม 13% และบริการ 53%

จากช่วงโควิดที่ผ่านมาจะเห็นว่า หากมองธุรกิจแบบเก่า ไม่ปรับตัวจะอยู่ยาก เอสเอ็มอีรายใหม่ที่เข้าตลาดเป็นผู้เห็นโอกาสใหม่ๆ ขณะที่ตลาดมีความท้าทายคือ ลูกค้ามีความต้องการใหม่ๆ เกิดขึ้น แต่การใช้จ่ายจะไปในทางคอนเซอร์เวทีฟขึ้น ฉะนั้น การมีเครื่องมือช่วยเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เครื่องมือทางการตลาด บริการด้านไอที โซลูชันบนโครงข่ายอัจฉริยะ

ตลอดจนการจับมือพันธมิตรข้ามอุตสาหกรรมเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตของเอสเอ็มอี นำไปสู่การสร้างการเติบโตแก่เศรษฐกิจแบบร่วมกัน (ECOSYSTEM ECONOMY) ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลอัจฉริยะ (Digital Intelligence Infrastructure) เชื่อมต่อธุรกิจข้ามอุตสาหกรรม (Cross Industry Collaboration) รวมถึงการสร้างความยั่งยืนแก่การดำเนินธุรกิจ

“เชื่อว่าวันนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและจะเป็นกำลังสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการมีอาวุธดิจิทัลและเทคโนโลยีจะยิ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพของการทำงานให้ก้าวไปอีกขั้น”

ส่งกลยุทธ์ 7S เสริมแกร่งเอสเอ็มอี

ดังนั้นการเพิ่มขีดความสามารถให้การดำเนินธุรกิจผ่านการทำดิจิทัล ทรานฟอร์เมชันยังเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เอสเอ็มอีมีอาวุธใหม่ๆ ในการสร้างโอกาสและการเติบโตในอนาคตได้อย่างยั่งยืน

จากข้อมูล พบว่า เอสเอ็มอีส่วนใหญ่ต้องการเครื่องมือหรือแพลตฟอร์มด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์มค้าขายออนไลน์ หรืออี-คอมเมิร์ซเพื่อเสริมศักยภาพ การเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน การลดต้นทุน การขยายช่องทางการขาย รวมถึงการขยายฐานลูกค้าและการเข้าถึงตลาดใหม่ๆ 

เอไอเอสจึงส่ง ‘กลยุทธ์ 7S’ เพื่อเป็นหนึ่งในฟันเฟืองช่วยผลักดันและสนับสนุนการเติบโตดังกล่าว ประกอบด้วย 

  • AIS SME Mobile Services บริการโทรศัพท์เพื่อการสื่อสาร
  • AIS SME Internet Services บริการอินเทอร์เน็ต
  • AIS SME Digital Marketing Services เครื่องมือด้านการตลาดออนไลน์
  • AIS SME IT & Digital Solutions พัฒนาระบบไอทีหลังบ้าน
  • AIS SME Full e-Services งานบริการแบบ E-Service ที่อำนวยความสะดวกให้แก่นิติบุคคล
  • AIS SME Special Privileges สิทธิพิเศษที่ทำให้การทำธุรกิจง่ายขึ้นด้วย AIS SME BIZ UP
  • AIS SME Strategic Partnership การผนึกกำลังกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ

จัดแพ็คเกจหนุน 4 อุตสาหกรรม

ขณะเดียวกัน AIS Business เน้นการสนับสนุน 4 อุตสาหกรรมหลักเอสเอ็มอี คือ การค้า, การผลิต, บริการ, ดิจิทัล/เทคโนโลยี โดย AIS SME ได้จัดทำแพ็คเกจต่างๆ ได้แก่

‘SME 5G Tung-Ngern’ ค่าบริการรายเดือน 399 บาท สำหรับผู้ค้าเอสเอ็มอี ออนไลน์ ให้ใช้แอปถุงเงินฟรีไม่มีค่าเน็ต ซึ่งก่อนหน้านี้ เอไอเอสได้เปิดทางให้ลูกค้านำ AIS Points ไปแลกรับส่วนลดกับร้านค้าถุงเงินกว่า 1.8 ล้านแห่งทั่วประเทศ 

แอป TikTok ในราคาประหยัด ด้วยแพ็คเกจ SME 5G TikTok Seller ค่าบริการรายเดือน 699- 1,199 บาท แถมใช้งานโปรแกรมบัญชี FlowAccount ฟรี 2-12 เดือนขึ้นอยู่กับแพ็คเกจ

รวมถึงแพ็คเกจ AIS Fibre พร้อมระบบกล้องวงจรปิด ราคาเริ่มต้น 2,190 บาท เป็นต้น

เปิดบริการYellow B2B2C e-marketplace

พร้อมเปิดตัวบริการใหม่ล่าสุด“Yellow B2B2C e-marketplace” ซึ่งพัฒนามาจากฐานข้อมูลสมุดหน้าเหลือง ของบริษัท เทเลอินโฟมีเดีย จำกัด หนึ่งในบริษัทลูกของเอไอเอส และประกาศความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมระหว่างเอไอเอส และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI)

แพลตฟอร์ม B2B2C e-marketplace จะเป็นตัวเร่งส่งเสริมเอสเอ็มอีให้ต่อยอดธุรกิจทั้ง B2B และ B2C แบบครบวงจร เพิ่มช่องทางการพบผู้ซื้อทั้งรายใหญ่และรายเล็กได้ง่ายยิ่งขึ้นผ่าน www.yellow.co.th 

ทั้งนี้ ผู้ซื้อสามารถค้นหาสินค้าและบริการได้ง่ายๆ หรือโพสต์สร้างความต้องการสินค้า หรือบริการ (RFQ Marketplace) เพื่อให้ผู้ขายติดต่อเสนอราคาได้ทันที ส่วนผู้ขายสามารถเจรจาธุรกิจไปจนถึงปิดการขายได้ผ่านช่องแชท และมีเครื่องมืออำนวยความสะดวกต่างๆ ช่วยให้ผู้ประกอบการทำธุรกิจได้ทุกที่ทุกเวลา

จากความร่วมมือครั้งนี้ เปิดให้สมาชิก FTI ใช้บริการด้วยข้อเสนอพิเศษ คือ Free platform transaction fee, Free post product 15 SKUs, Free get RFQ subscription 10 categories และ Free quote 30 RFQ/month

ส่วนเอสเอ็มอีทั่วไปที่สนใจใช้แพลตฟอร์ม จะได้ Free platform transaction fee, Free post product 10 SKUs, Free get RFQ subscription 3 categories, Free quote 10 RFQ/month

สิทธิพิเศษตอบโจทย์เอสเอ็มอี

นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษเพื่อลูกค้าเอสเอ็มอี จาก AIS Serenade และ AIS Points ถือเป็นรายแรกและรายเดียวในไทยที่มอบสิทธิพิเศษแบบจัดเต็มให้แก่ลูกค้าเอสเอ็มอีเช่นเดียวกับลูกค้าทั่วไป 

พร้อมกันนี้ ยังมีโปรแกรม AIS SME BIZ UP ที่มาพร้อมความพิเศษ ได้แก่ การอัปเดตความรู้ เทรนด์ใหม่ๆ ให้ธุรกิจแบบเอ็กคลูซีฟ ส่วนลดค่าสินค้าและบริการจากพันธมิตร ร้านค้าดัง เช่น บริการจากสตาร์ทอัพในกลุ่ม AIS The StartUp ที่ส่งมอบบริการให้เอสเอ็มอีในราคาพิเศษ ประกอบด้วย

บริการขนส่งออนไลน์ SHIPPOP แพลตฟอร์มด้านการขนส่ง ช่วยเอสเอ็มอีบริหารจัดการขนส่งสินค้า หรือการจัดการเอกสารต่างๆ ให้เหมาะสมกับรูปแบบและระยะเวลาที่ต้องการ ให้ส่วนลดสูงสุด 20%

แพลตฟอร์มบริหารจัดการระบบในร้านอาหารจาก FoodStory ราคาพิเศษ ให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมร้านอาหารเชื่อมต่อข้อมูลของทั้งหน้าร้าน การจัดการสต๊อก รวมถึงระบบซีอาร์เอ็มบริหารจัดการสมาชิกได้ผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ