TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistครบรอบ 1 ปีกระแส Metaverse ได้ไปต่อ หรือจบแค่นี้??

ครบรอบ 1 ปีกระแส Metaverse ได้ไปต่อ หรือจบแค่นี้??

ช่วงกลางเดือนตุลาคมปี 2021 เริ่มเกิดกระแสว่า Facebook สื่อสังคมออนไลน์อันดับหนึ่งของโลกมีแผนที่จะเปลี่ยนชื่อบริษัทและธุรกิจหลักหันมามุ่งเน้นที่เทคโนโลยี Metaverse จนทำให้คำ ๆ นี้กลายเป็น Buzz Word อย่างรวดเร็ว ถึงขั้นประเทศไทยต้องบัญญัติศัพท์คำนี้ในเวอร์ชั่นภาษาไทยว่า “จักรวาลนฤมิตร” 

ตั้งแต่วันนั้น Metaverse อยู่ในกระแส Hive อย่างที่สุด ราคาเหรียญ SAND และ MANA ของแพลตฟอร์ม The Sandbox และ Decentraland พุ่งหลายร้อยเปอร์เซ็นต์และราคา Land ที่ซื้อขายกันราคาพุ่งไปอย่างรวดเร็วและเกิดโปรเจกต์ด้าน Metaverse ขึ้นมากมายทั้งของไทยและต่างประเทศ

อย่างไรก็ตามภาวะตลาดคริปโทที่เป็นขาลงประกอบกับยังไม่เห็นพัฒนาการที่เป็นรูปธรรมจาก Meta ในธุรกิจ Metaverse โดยมีเพียงแค่แพลตฟอร์ม Horizon World ที่เปิดให้เข้ามาใช้งานได้ในบางประเทศและการเปิดตัว Headset VR ใหม่เมื่อไม่นานมานี้ โดยรวมแล้วหนึ่งปีที่ผ่านมายังมองไม่เห็นว่า Metaverse จะก้าวเข้ามาอยุ่ในกระแสหลักได้

ประกอบกับราคาหุ้น META ที่ร่วงลงนับตั้งแต่วันแถลงเปิดตัวชื่อใหม่ของบริษัทฯที่ลดลงมากว่า 60% ผลประกอบการที่แย่ลงจากการทุ่มงบลงทุนมหาศาลไปกับเทคโนโลยี Metaverse ทำให้ความมั่งคั่งของ Mark Zuckerberg ลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับมหาเศรษฐีเทคโนโลยีในระดับเดียวกัน

ขณะที่เกิดกระแสดราม่าเรื่องจำนวน user รายวัน (DAU) ของแพลตฟอร์มเมตาเวิร์สชื่อดังอย่าง Decentraland และ The Sandbox ที่ถูกเปิดเผยว่ามีจำนวนเพียงแค่หลักไม่ถึงร้อยคนต่อวัน ทั้งๆที่มีมูลค่าธุรกิจกว่าพันล้านดอลลาร์

ต่อมาทาง Decentraland ได้ออกมาชี้แจงถึงวิธีการวัดจำนวนผู้ใช้งานรายวันที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง รวมถึงเปิดเผยจำนวนผู้ใช้งานรายวันอยู่ที่ประมาณ 8,600 คน และ เฉลี่ยต่อเดือน 56,700 คน ถึงอย่างไรก็ยังเป็นจำนวนที่น้อยอยู่ดี

การที่ Mark Zuckerbrerg ประกาศเปิดตัว Metaverse เมื่อปีที่แล้วอาจจะเป็นดาบสองคมก็ได้ ข้อดีคือเป็นการชิงพื้นที่สื่อและภาพจำของการเป็น First Mover ในเทคโนโลยีนี้ แต่ข้อเสียคือเป็นการทำให้ผู้คนคาดหวังในเทคโนโลยีนี้มากเกินไป ทั้งที่อยู่ในจุดกำลังเริ่มต้นเท่านั้น ทำให้ผลตอบสนองออกมาในเชิงลบ 

แต่ในมุมของผู้ประกอบธุรกิจนี้ต่างมีมุมมองว่าช่วงเวลาที่ตลาดไม่ได้คึกคักมากนักกลับเป็นช่วงเวลาที่จะได้โฟกัสกับการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างเต็มที่เพราะแท้จริงแล้ว Metaverse ยังอยู่ในช่วงแรกของการพัฒนาเท่านั้น ถ้าเปรียบเป็นการวิ่ง 400 เมตรยังไม่ผ่านโค้งแรกด้วยซ้ำ

ถ้าโฟกัสแต่ราคาเหรียญและที่ดินใน Metaverse อาจจะมองได้ว่ามันตายไปแล้ว แต่ในความเป็นจริง Metaverse มีหลายรูปแบบทั้งที่ไม่ได้อิงกับตลาดคริปโทก็มี มีทั้งใช้งานเฉพาะภายในองค์กรก็มี จึงไม่อาจตัดสินได้จากราคาเหรียญและราคาที่ดินเพียงอย่างเดียว

ขณะที่การเปิดเมืองทั่วโลกหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดชะลอตัวลงจนเกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจแบบปกติมากขึ้นก็ไม่ได้ทำให้เทคโนโลยี Metaverse หมดความจำเป็นไปแต่อย่างไร แต่จะเข้ามาหนุนกิจกรรมแบบ Offline ได้อย่างเช่นการชมห้องตัวอย่างก่อนที่จะไปเข้าพักจริง ตลอดจนการนำเทคโนโลยีไปใช้เฉพาะทาง

บทวิเคราะห์จาก Mckensy ระบุว่าแม้เกมส์และสันทนาการจะเป็นสัดส่วนกิจกรรมหลักของ Metaverse แต่อุตสาหกรรมที่จะมีบทบาทใน Metaverse มากขึ้นในอนาคตก็คือการศึกษาทางไกลและอีคอมเมิร์ซซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับ Metaverse 

สุดท้าย Metaverse จะเข้าสู่ Mass Adoption ได้ต้องรอเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมารองรับไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ที่ราคาต้องถูกลง ความเร็วอินเทอร์เนตที่มากขึ้น อุปกรณ์เชื่อมต่อที่ต้องมีราคาเข้าถึงได้และคอนเทนท์ที่โดนใจ เมื่อนั้นผู้คนก็จะแบ่งเวลาบางส่วนเข้ามาใน Metaverse เอง

ผู้เขียน: นเรศ เหล่าพรรณราย กรรมการ สมาคมเมตาเวิร์สไทย

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ