TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistมนตร์เสน่ห์ ทะเลทราย

มนตร์เสน่ห์ ทะเลทราย [จอร์แดนซีรีส์]

หลังจากการเปิดประเทศต้อนรับธุรกิจและการท่องเที่ยวของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยของเรา หลาย ๆ คนคงมีแผนออกเดินทางท่องโลก ผ่อนคลายความกดดันของการเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่ในที่มั่นกันมานาน ความต้องการปลดปล่อยตัวตนสู่โลกกว้างของแต่ละคนน่าจะมีอย่างกระตือรือร้น

“จอร์แดน” หรือราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน หนึ่งในดินแดนในฝันของหลาย ๆ คนไม่ว่าท่านหญิงหรือท่านชาย โดยเฉพาะคุณผู้ชมที่เคยดูหนังเรื่อง ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า 3 ตอน ศึกอภินิหารครูเสด (Indiana Jones and the Last Crusade) ของสตีเฟ่น สปีลเบิร์ก ที่มีแฮร์ริสัน ฟอร์ด แสดงนำเมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา (ฉายปี 1989) ขอไปสัมผัส Petra นครสีชมพูสักครั้งในชีวิต

มหานครศิลาสีชมพูแห่งนี้ ได้รับการโหวตให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกใหม่ เมื่อปี 2007 ก่อนหน้านั้น ตั้งแต่ปี 1985 ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก

ไม่เพียงเท่านั้น ในจอร์แดนยังมีมนตร์เสน่ห์ ความลึกลับชวนค้นหา และพาจินตนาการบรรเจิด อย่างทะเลทรายวาดิรัม ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวูดดัง ๆ อีกหลายเรื่อง เช่น Dune (2021) Red Planet (2000) Star Wars: The Rise of Skywalker (2019) The Martian (2015) The Last Day on Mars (2013) Prometheus (2012) 

หรือย้อนไปนานกว่านั้นต้องเป็นระดับตำนานอย่าง Lawrence of Arabia ซึ่งผลิตโดยฮอไรซัน พิกเจอส์ จากสหราชอาณาจักร ออกฉายในโรงภาพยนตร์ในปี 1962 (หลาย ๆ คนยังไม่เกิด ^_^) ก็ถ่ายทำฉากทะเลทรายที่ประเทศแห่งนี้ และถ้าทีมงานไม่พ่ายแพ้แก่อากาศไปเสียก่อน การถ่ายทำยังจะมีทั้งที่อ่าวอะกาบา (Aqaba) และนครเพตรา แต่ก็นั่นแหละนะ ชีวิตจริงไม่มีคำว่าถ้า ฉะนั้น ทั้งสองสถานที่จึงไม่มีอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้

หลายส่วนล้วนเติมเสน่ห์

ใช่เพียงการตามรอยภาพยนตร์สุดโปรด เพราะเสน่ห์ของจอร์แดนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนพระจันทร์เสี้ยวอันอุดม (Fertile Crescent) นั้น สั่งสมมายาวนานนับพันนับหมื่นปี

มนตร์ขลังแห่งอารยธรรมโบราณอันอลังการทอดตัวอยู่ตั้งแต่เหนือจรดใต้ของดินแดนอันเป็นส่วนหนึ่งของคาบสมุทรอาระเบีย (หากนับตามสภาพภูมิศาสตร์) และเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมที่เดินทางจากแชงกรีล่า ผ่านมายังทะเลทรายวาดิรัม

ยังไม่พอ หากเคยเห็นภาพผ่านตา หรือคำร่ำลือถึงทะเล Dead Sea ทะเลสาบน้ำเค็มที่ความเข้มข้นของเกลือมีสูงกว่าทะเลปกติ 4-6 เท่า ชนิดสิ่งมีชีวิตเหลือเพียงแบคทีเรีย และเห็ดราบางชนิดเท่านั้น ดังนั้น ถึงจะว่ายน้ำไม่เป็นก็ลงไปลอยตัวอยู่ในน้ำได้สบายๆ ถ้าอยากลองสร้างเสริมประสบการณ์แบบนี้บ้าง จอร์แดนก็เป็นอีกประเทศที่ต้องไปเยือน เพราะชายฝั่งหนึ่งของทะเลสาบเดดซีอยู่ในเขตประเทศจอร์แดนนั่นเอง

พร้อมเดินทางหรือยัง

หยิบยกไฮไลต์เด่น ๆ มาหลากหลายสถานที่ ทั้งแหล่งธรรมชาติ แหล่งอารยธรรม พร้อมเดินทางไปเยือนดินแดนทะเลทราย ณ ตะวันออกกลางอันอุดมไปด้วยทรัพยากรที่รังสรรค์จากธรรมชาติ และมนุษยชาติ แห่งนี้กันหรือยังเอ่ย

จอร์แดนพร้อมต้อนรับทุกคนแล้ว โดยเริ่มเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ช่วงปลายๆ ปี 2022 (ขอใช้ ค.ศ.ให้สอดคล้องกับข้างบน) หลังจากปิดยาวช่วงสถานการณ์โควิด ซึ่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถือเป็นอีกหนึ่งรายได้หลักของประเทศนี้

ก่อนออกเดินทาง ขอนำข้อมูลทั่วไปของประเทศจอร์แดนมาแนะนำเพื่อเป็นการปูพื้น และเตรียมการคร่าว ๆ ดังนี้

จอร์แดนตั้งอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ทิศเหนือติดกับซีเรีย ทิศตะวันออกติดซาอุดีอาระเบีย ทิศตะวันตกติดกับอิสราเอล และทิศใต้ติดกับทะเลแดง มีพื้นที่ประเทศ 89,206 ตารางกิโลเมตร เมืองหลวงคือ กรุงอัมมาน (Amman) ประชากรส่วนใหญ่มากกว่า 90% นับถือศาสนาอิสลาม นิกายสุหนี่ และมีประมาณ 5% นับถือศาสนาคริสต์

จอร์แดนเป็นประเทศที่ค่อนข้างเปิดกว้างสำหรับนักท่องเที่ยว ผู้หญิงแต่งตัวได้ปกติ ไม่ต้องคลุมหน้า แต่เท่าที่สังเกตไม่ค่อยเห็นผู้หญิงออกมาทำงานข้างนอก แม้แต่งานทำความสะอาดส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ชาย และหลายๆ งานเป็นการจ้างงานชาวต่างชาติเข้าไปทำ เช่น บริกร พนักงานต้อนรับในโรงแรมระดับห้าดาว

นโยบายต่างประเทศของจอร์แดนเป็นลักษณะที่เป็นกลางและเป็นมิตรกับทุกประเทศ ไม่มีความโน้มเอียงไปทางหนึ่งทางใดระหวางกลุ่มตะวันตกกับกลุ่มโลกมุสลิม แต่ให้ความสำคัญต่อการกระชับความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศอาหรับ และการดำเนินความพยายามแสวงหาสันติภาพในภูมิภาค … ข้อมูลนี้น่าจะทำให้ท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจขึ้นมาใช่ไหม

หน่วยเงินตราใช้จอร์แดนดีนาร์ (Jordanian Dinar – JD) อัตราแลกเปลี่ยน 1 จอร์แดนดีนาร์เท่ากับประมาณ 50บาท โดยแนะนำให้แลกดอลลาร์สหรัฐจากไทยไปแลกเป็นเงิน JD ที่จอร์แดน หรือเตรียมเงินดอลลาร์สหรัฐใบย่อยๆ ไปด้วย ก็ใช้ได้เช่นกัน เพราะบางทีซื้อสินค้าด้วยเงิน JD คนขายจะทอนกลับมาเป็นเงิน JD ผสม USD หรือบางสถานที่ใช้บัตรเครดิตได้

ภูมิอากาศโดยทั่วไปค่อนข้างแห้งแล้ง มีปริมาณฝนตกน้อย กลางวันมีแดดจัดและอากาศเย็นในเวลากลางคืน

ข้อมูลจากคุณไกด์ผู้ชำนาญการให้ข้อมูลว่า คนจอร์แดนมักชอบคนไทยที่นิสัย รอยยิ้ม แถมชอบทะเลบ้านเรา ขณะที่จอร์แดนมีทางออกทะเลแห่งเดียวทางตอนใต้ของประเทศที่เมืองท่าอะกาบาคือ ทะเลแดงที่ในอดีตใช้แหล่งน้ำมันไปแลกเปลี่ยนมาทำให้ปัจจุบันเป็นประเทศที่ไม่มีน้ำมันเป็นของตัวเอง แหล่งแร่ในประเทศคือ ฟอสเฟต และโปแตช

ที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์ในจอร์แดน เปิดให้ชาวต่างชาติเป็นเจ้าของเพื่อใช้ในการลงทุนสร้างกิจการ หรือใช้ส่วนบุคคลได้ โดยต้องได้รับอนุญาตจากผู้บริหารระดับสูงของกรมที่ดิน กระทรวงการคลังของประเทศก่อน ทั้งนี้ ผู้ถือครองทรัพย์สินขนาด 150 ตารางเมตรไม่ต้องเสียภาษี

ไปเที่ยวกี่วันดี

เวลาวางแผนการท่องเที่ยวในสถานที่ที่ไม่เคยไป ปัญหาหนึ่งคือ คำถามที่ว่า เราควรใช้เวลากี่วันดี

สำหรับคนที่มีเวลามากหน่อย ต้องการท่องเที่ยวสถานที่สำคัญๆ ในการเดินทางครั้งเดียว ขอแนะนำว่าสัก 7-8 วัน กำลังเหมาะ ใช้เวลาเดินทางตั้งแต่เหนือจรดใต้ทั้งโบราณสถาน สถานที่สำคัญทางศาสนา สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

หรือถ้ามีเวลามากกว่านั้นต้องข้ามไปอิสราเอล และอียิปต์ หรือเริ่มจากอียิปต์แล้วไล่กลับมาจอร์แดน เป้าหมายคือ เก็บเกี่ยวดินแดนศักดิ์สิทธิ์ให้ครบถ้วน อาจต้องใช้เวลา 10 วันหรือครึ่งเดือน …ค่อย ๆ ละเลียดชมไป อารยธรรมพันปีจะแค่ชะโงก หรือจิ้มจุ่มทัวร์ ประเภทถึงแล้ว ๆ ให้เวลาถ่ายรูปตรงนี้ 5 นาทีจากนั้นไปที่อื่นต่อ… ไม่น่าเหมาะมั๊ง

เนื่องจากเป็นดินแดนทะเลทราย ช่วงอากาศร้อนจะร้อนจัด หนาวก็หนาวเหลือเกิน ดังนั้น ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวคือเดือนตุลาคม – เมษายน โดยระวังสักนิดว่า ช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์จะหนาวจัด ส่วนช่วงฤดูร้อน ที่อุณหภูมิทะยานขึ้นไประดับ 50 องศาเซลเซียลอาจไม่เหมาะแก่การท่องเที่ยวนัก …กระซิบนิดว่า ปลายธันวาคมที่ผ่านมา (2022) วันเดียวเจอทั้งหนาว ฝน ลูกเห็บ หิมะ และน้ำหลาก สาสมใจยิ่งนัก ^_^

อาหารอร่อย-ขนมหลากหลาย

ส่วนผู้ที่เป็นห่วงเรื่องอาหารการกินนั้น อาหารที่ประเทศนี้จะเป็นอาหารแบบ Mediterranean และมีสลัดผักมากมายให้เลือกกิน รวมถึงขนมปังพื้นเมือง แผ่นแป้งย่าง ประเภทนาน หรือจาปาตี และจะเน้นไปทางไก่ กับแกะ เป็นหลัก เมื่อพิสูจน์แล้วอยู่ในเกณฑ์รับประทานได้

อาหารคาวใครชอบไก่ ที่นี่จัดว่าเด็ด ไก่ย่าง ไก่หมัก หรือข้าวหมกไก่ ข้าวหมกแกะ ราดด้วยโยเกิร์ตอร่อยมากๆ

แต่ที่ถูกใจมาก ๆ คือ ขนม ทั้งในภัตตาคาร ร้านอาหาร โรงแรม แต่ละแห่งจัดเต็มมาก มีขนมหลากหลายให้เลือก และเมื่อได้ลองแล้วพบว่า อร่อยทุกอย่างที่ชิม ไม่ว่าจะเป็นขนมพื้นเมืองสไตล์อาหรับ หรือเบเกอรี่

ถ้ามีคำถามถึงผลไม้สดก็มีให้กินทุกมื้อ เพียงแต่เห็นว่าอยู่ในเกณฑ์เฉย ๆ ไม่แปลกใหม่ แต่ก็สดจริงจัง เช่น แอปเปิล กล้วย ส้ม ลูกไหน เชอรี่ สตรอเบอรี่ เมลอน ลูกพลับ อะไร ๆ ประเภทนี้

ภาคเหนือสร้างผลิตผลทางการเกษตร

แม้จะเป็นดินแดนทะเลทราย แต่มีพื้นที่เพาะปลูกทำการเกษตร โดยทางภาคเหนือของประเทศ เช่น บริเวณพื้นที่ Shafa ในจังหวัด Ajloun (1 ใน 12 จังหวัดของจอร์แดน) ซึ่งอยู่ห่างไปตอนเหนือของกรุงอัมมาน 70 กิโลเมตร ปลูกผักต่าง ๆ เพราะลักษณะพื้นที่ทางตอนเหนือมีฝนตกบ่อย (ตกช่วง Nov – Feb คือคาบเกี่ยวกับหน้าหนาว) และมีอากาศเย็น ทำให้ปลูกพืชต่าง ๆ ได้พอสมควร เช่น ข้าวสาลี ข้าวบาร์เล่ย์ (แป้งข้าวบาร์เล่ย์ ใช้ทำขนมปังได้) และพืชต่าง ๆ ที่ต้องปลูกในพื้นที่กว้าง เช่น ถั่ว Lentils, ถั่ว Chick Peas (ถั่วลูกไก่) เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ภาคเหนือยังปลูกผลไม้เมืองหนาวได้อีกด้วย เช่น แอปเปิล ลูกแพร์ ลูกพีช ต้นมะกอก ผักร็อกเก็ตที่ใส่ในสลัด สตรอเบอรี่

ส่วนพื้นที่ภาคกลาง เช่น จังหวัดมาดาบา (Madaba) ก็ปลูกผักบางชนิดได้ เช่น แตงกวา มะเขือเทศ มะเขือม่วง แตงเมลอน ต้นมะกอก กะหล่ำปลี องุ่น กะหล่ำดอก

บริเวณ Jordan Valley (พื้นที่บริเวณทะเลสาบ Dead Sea) ปลูกกล้วย ทับทิม กะหล่ำปลี พริกหวาน กะหล่ำดอก กระซิบอีกนิดว่า ที่ Gilgal I ใน Jordan Valley มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเมื่อ 11,400 ปีก่อน พื้นที่แห่งนี้มีการปลูกต้นมะเดื่อจากการค้นพบเมล็ดพันธุ์มะเดื่อ (Fig Seeds) ที่ขยายพันธุ์แบบคัดเลือกในยุคก่อนประวัติศาสตร์

ผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ที่ผลิตได้ในประเทศ ได้แก่ เนื้อไก่ เนื้อแกะ ซึ่งมีฟาร์มเลี้ยงอย่างดี โดยเฉพาะฟาร์มไก่มีประมาณ 2,000 ฟาร์มทั่วประเทศ แต่เนื้อวัว ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้า

สินค้านำเข้าจากไทย

จอร์แดนมีสินค้านำเข้าจากไทย 10 อันดับแรกในหมวดต่าง ๆ คือ รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ น้ำตาลทราย ตู้เย็นตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์ยาง ข้าว และเม็ดพลาสติก

ส่วนไทยนำเข้าปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ เครื่องประดับอัญมณี ผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่น ๆ กล้อง เลนส์ และอุปกรณ์การถ่ายรูป ถ่ายภาพยนตร์

แต่ถ้าไปเที่ยวแล้วต้องการของที่ระลึกของฝาก แนะนำอินทผลัมเกรดพรีเมี่ยม ถั่วชนิดต่าง ๆ ไซส์ใหญ่ยักษ์ และผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ผลิตจากทะเลสาบมรณะ

จัดข้อมูลพื้นฐานที่น่ารู้มาให้แล้ว ส่วนรายละเอียดการท่องเที่ยวโปรดติดตามตอนต่อไป เราจะไปเมาท์เนโบ (Mt.Nebo) จุดหมายยอดนิยมของคริสเตียนและมุสลิม รวมถึงผู้สนใจเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ สถานที่ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของจอร์แดน และมองข้ามฝั่งไปชมทิวทัศน์ดินแดนแห่งพันธะสัญญาในกรุงเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ