TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessสลิงชอท กรุ๊ป เดินเกมขยายตลาดเชิงรุก ลุยเจาะลูกค้าตั้งแต่ระดับองค์กรลงลึกถึงคนทำงาน

สลิงชอท กรุ๊ป เดินเกมขยายตลาดเชิงรุก ลุยเจาะลูกค้าตั้งแต่ระดับองค์กรลงลึกถึงคนทำงาน

HIGHLIGHT

  • สลิงชอท กรุ๊ป บริษัทที่ปรึกษาด้านการพัฒนาผู้นำระดับกลางถึงระดับสูง เผยผลประกอบการปี 2564 รายได้เพิ่มขึ้น 33% แม้เจอมาตรการล็อกดาวน์
  • มองหลังโลกเผชิญ COVID-19 เร่งให้เห็นความสำคัญของการพัฒนาทักษะผู้นำและบุคลากรในองค์กรมากขึ้น ธุรกิจต้องปรับวิธีคิดใหม่และโมเดลธุรกิจใหม่ เน้นสร้างความเป็นผู้นำของระบบนิเวศ (Ecosystem Leadership)
  • เปิดแผนงาน 3 ปี ตั้งเป้าสร้างผลงานเติบโต 3 เท่า รุกปรับโครงสร้างขยายธุรกิจเชิงรุกในแนวดิ่ง แตกไลน์ออกเป็น 3 ธุรกิจ

ดร. สุทธิโสพรรณ ช่วยวงศ์ญาติ หุ้นส่วนและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มสลิงชอท ​เปิดเผยว่า ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ตั้งแต่ปี 2563 และ 2564 ส่งผลให้มีมาตรการล็อกดาวน์ ไม่สามารถจัดกิจกรรมประชุม อบรม สัมมนาแบบตัวได้ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ แต่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ ปรับตัว รวมถึงพัฒนาธุรกิจและบริการให้สอดรับกับวิถีการทำงานแบบใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับโมเดลธุรกิจ ที่มุ่งเน้นการสร้างความเป็นผู้นำของระบบนิเวศ (Ecosystem Leadership)

“สถานการณ์โควิดเป็นตัวเร่งที่ทำให้เห็นได้ชัดว่า การพัฒนาทักษะผู้นำและบุคลากรในองค์กรยิ่งทวีความสำคัญ แต่วิธีการต้องเปลี่ยนไป โดยเปลี่ยนจากมุ่งเน้นที่การพัฒนาผู้นำและบุคลากรให้กับองค์กรใดองค์กรหนึ่ง มาเป็นการช่วยให้ผู้นำองค์กรปล่อยความคิดและการกระทำแบบเก่าทิ้งไป และชวนให้พวกเขาก้าวข้ามโลกทัศน์ที่เป็นเอกเทศไปสู่พื้นที่ที่ ช่วยให้เขาเข้าใจสิ่งที่จำเป็นต่อการอยู่ร่วมกันมากขึ้น ไม่ใช่เพียงองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ชุมชนใดชุมชนหนึ่ง ประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เป็นโลกของเรา ซึ่งภายใน 2 ปีที่ผ่านมา มีผู้นำองค์กรกว่า 200 องค์กรที่เข้ามาอยู่ใน Ecosystem Leadership นี้ ผ่านโครงการ LeadershipACT”

ปรับโครงสร้างธุรกิจ มุ่งสู่ธุรกิจ “สร้างคนไทยไปสู่ระดับโลก”

โอกาสในการสร้าง Ecosystem Leadership ให้เกิดขึ้นจริงในเมืองไทยเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ นั่นจึงเป็นที่มาของการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญของ บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป ที่เป็น “บริษัทฝึกอบรม” มุ่งสู่กลุ่มธุรกิจที่ “สร้างคนไทยไปสู่ระดับโลก”

ดร. สุทธิโสพรรณกล่าวต่อว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) ของบริษัท มีมติเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เห็นชอบให้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่เป็น 3 ธุรกิจ ภายใต้บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป ตามแผนงาน 3 ปี (2565-2567) ตั้งเป้าผลักดันการเติบโตของผลการดำเนินงานได้เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า โดยมีคนไทยอยู่ใน Ecosystem Leadership หนึ่งล้านคน ทั้งนี้ 3 ธุรกิจดังกล่าว ได้แก่  

  1. บริษัท จูปิเตอร์ (Jupiter) จะมาดูแลบริการในภาพใหญ่ทั้งโครงสร้าง ระบบบริหารจัดการ และกระบวนการทำงานให้กับองค์กร ภายใต้การนำของ พฤทธ์ อึงคนึงเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จูปิเตอร์
  2. บริษัท สลิงชอท ลีดเดอร์ชิพ (Slingshot Leadership) เป็นธุรกิจในปัจจุบัน จะดูแลการพัฒนากลุ่มผู้นำองค์กร ภายใต้การนำของมัณฑนา รักษาชัด หุ้นส่วนและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สลิงชอท ลีดเดอร์ชิพ
  3. บริษัท วีวัน (V-One) ดูแลบริการในกลุ่มคนทำงาน ภายใต้การนำของ สุกฤษฎิ์ ปัญจพันธ์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีวัน

ทุ่ม 30 ล้าน ตั้งทีมวิจัย

นอกจากนี้ ยังเพิ่มขีดความสามารถของกลุ่ม ด้วยการลงทุนกว่า 30 ล้านบาท ในการตั้งทีมวิจัย เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อสร้างหลักสูตรและสภาพแวดล้อมที่เร็วทันต่อการตอบโจทย์ Ecosystem Leadership แบบที่ออกแบบพิเศษให้ตอบโจทย์เฉพาะสำหรับคนไทย

มัณฑนา รักษาชัด  หุ้นส่วนและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สลิงชอท ลีดเดอร์ชีพ กล่าวว่า “ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ธุรกิจด้านการพัฒนาผู้นำองค์กรกลับเติบโต ทั้งนี้เกิดจากการที่หลายองค์กรต่างตระหนักว่ากุญแจสำคัญที่จะพาธุรกิจให้รอดหรือร่วงคือผู้นำองค์กร จึงใช้โอกาสนี้เร่งพัฒนาทักษะผู้นำ

“ในช่วงเวลาเพียง 2 เดือนที่ผ่านมา แม้จะเป็นช่วงที่เราตื่นตัวกับโอไมครอน แต่กลับมีผู้นำองค์กรกว่า 100 คน ที่เข้าสู่กระบวนการพัฒนาทักษะอย่างจริงจัง นอกจากนี้ ไม่เพียงการปรับตัวในระดับองค์กร ในระดับประเทศก็คึกคักไม่แพ้กัน ในปีที่ผ่านมา เรามีโอกาสพัฒนาทักษะให้ข้าราชการและบุคลากรในหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจกว่า 60 หน่วยงาน เพื่อเร่งการยกระดับมาตรฐานบุคลากรของประเทศไปสู่ระดับสากล นี่คือการตอบย้ำทิศทางของ สลิงชอท กรุ๊ป ในการยกระดับศักยภาพบุคลากรในองค์กรในทุกภาคส่วนของประเทศไทย เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนในอนาคต”

พัฒนาจุดแข็งเดิมให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

พฤทธ์ อึงคนึงเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จูปิเตอร์ กล่าวว่า “ผลจากการสำรวจเกี่ยวกับสิ่งที่ธุรกิจจะดำเนินการในอนาคตข้างหน้าจากผู้บริหารในรายงานของต่างประเทศ สอดคล้องกับผลสำรวจผู้บริหารคนไทยหลายท่าน โดยพบว่า ผู้บริหาร 45% หวังว่าปี​ 2565 นี้ธุรกิจจะเติบโตดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว และมองว่าธุรกิจต้องมีการปรับตัว (Transformation) และปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจในหลายด้านมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ที่เน้นเรื่องการลดค่าใช้จ่าย และลดต้นทุนเป็นหลัก บริษัทเรายังมีหลักการสำคัญคือ เน้นการมีส่วนร่วมกับลูกค้าในการบรรลุผลลัพธ์ร่วมกัน (Outcome Focus) และมองว่าองค์กร และอุตสาหกรรมในประเทศไทยไม่ว่าประเภทใดก็ตาม มีศักยภาพมากพอที่จะยกระดับไปสู่สากลได้ ดังนั้น เราจึงนำเสนอบริการให้คำปรึกษา โดยพัฒนาต่อยอดจากจุดแข็งเดิมที่องค์กรมีอยู่ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และเพื่อให้เหมาะสมกับองค์กรและความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า”

ทั้งนี้ บริษัทฯได้แบ่งการให้บริการออกเป็น 3 กลุ่มเพื่อช่วยให้ลูกค้าทำการปฏิรูปได้ครบทุกมิติ ดังนี้

  1. Configure: ออกแบบและปรับโครงสร้าง ระบบการบริหารจัดการต่าง ๆ เพื่อให้รูปแบบองค์กรมีความเหมาะสมต่อทิศทางที่ธุรกิจจะมุ่งไปในอนาคต
  2. Perform: ออกแบบและปรับปรุงกระบวนการทำงาน การจัดการองค์ความรู้ การเปลี่ยนแปลง และอื่น ๆ เพื่อเพิ่มผลผลิต (Productivity) 
  3. Develop: พัฒนาเส้นทางอาชีพของกลุ่มคนรุ่นใหม่ และผู้สืบทอดตำแหน่งเพื่อให้องค์กรเกิด Career Mobility และ Leadership Bench  นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีคู่ค้าทางธุรกิจที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยเสริมการให้บริการต่าง ๆ ข้างต้น อีกทั้งยังมีการบริการในรูปแบบอื่น ๆ ที่กำลังคิดค้นและพัฒนาเพื่อมอบบริการและคำแนะนำที่เหมาะสมและดีที่สุดให้กับลูกค้าต่อไปในอนาคต

ดร. สุทธิโสพรรณ กล่าวทิ้งท้ายว่า “เราถือว่าการ Transform ในครั้งนี้ เป็นการปลดล็อกไม่เฉพาะตัวเรา แต่ช่วยลูกค้าปลดล็อกด้วย เพราะทุกจิ๊กซอว์ ไม่ว่าจะองค์กร ผู้นำ และคนทำงาน ทุกส่วนต่างเป็นจิ๊กซอว์ที่สำคัญ จะขาดตัวใดตัวหนึ่งไม่ได้ ซึ่งเราสามารถช่วยลูกค้า คนไทย และประเทศไทยของเราให้ก้าวไปสู่การเติบโตในโลกยุคใหม่ในระดับโลกได้อย่างไร้ข้อกังขา”

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ไทยเวียตเจ็ท ตั้งเป้าผู้นำสายการบิน low-cost เดินหน้าฟื้นการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ

เซ็น กรุ๊ป ดึง “คิง มารีน ฟู้ดส์” และ “เซ็น แอนด์ โกสุม อินเตอร์ฟู้ดส์” เสริมทัพ เตรียมก้าวสู่ผู้นำ Food Service

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ