TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnist‘เจ้ามือ’ ในตลาดหุ้นที่แท้ทรูของชาว VI

‘เจ้ามือ’ ในตลาดหุ้นที่แท้ทรูของชาว VI

ถ้าคุณอยู่ในตลาดหุ้นมาสักระยะ น่าจะเคยได้ยินคำว่า ‘เจ้ามือ’ กันมาบ้าง เพราะเป็นที่เชื่อกันว่า ถ้าคุณลงทุนดักหน้า ‘เจ้ามือ’ ได้ คุณจะทำกำไรได้มหาศาล เปลี่ยนฐานะเป็นคนร่ำรวยได้ในเวลาสั้น ๆ

แต่ถ้าเป็นนักลงทุนสาย VI ที่เน้นลงทุนระยะยาวแล้ว แนวคิดของคุณอาจเป็นอีกอย่างนึงก็ได้ ลองดูราคาหุ้น  Meta Platforms บริษัทแม่ของ Facebook เป็นตัวอย่างครับ

เมื่อไม่กี่วันมานี้ มีข่าวราคาหุ้น Meta ร่วงเกือบ -25% ในวันเดียว ถ้าคุณได้มีโอกาสติดตามข่าว ก็คงรู้ว่าที่ราคาร่วงหนักขนาดนี้ เป็นเพราะกำไรสุทธิของ Meta ลดลงมาเกิน -50% เมื่อเทียบไตรมาส 3 ของปีก่อน

ถือเป็นข่าวที่ทำเอานักลงทุนสาย Growth Stock ต้องกุมขมับไปตามๆ กัน แล้วยังต้องมานั่งหวาดระแวง อีกว่ากำไรของหุ้นเติบโตตัวอื่น ๆ จะออกมาเลวร้ายเหมือนกันไหม

ในวันนี้ เราจะไม่ขอพูดถึงสาเหตุว่าทำไมกำไรของ Meta ถึงตกเยอะขนาดนั้น เพราะน่าจะมีคนอธิบาย ไว้เยอะแล้ว

แต่เราจะมาถอดบทเรียนจากการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ รอบที่ผ่านมากันแบบสั้นๆ ครับ เพราะมีประเด็นที่น่าเรียนรู้มากๆ

‘กำไร’ คือเจ้ามือที่แท้จริง

หากมาดูราคาหุ้น Meta ก่อนที่บริษัทจะประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ของปี 2565 ในวันที่ 26 ตุลาคม ราคาหุ้นยังทรงตัวอยู่ที่ 129.87 ดอลลาร์สหรัฐ

แต่พอบริษัทแจ้งผลประกอบการว่ารายได้ลดลง -4.47%yoy และกำไรสุทธิลดลง -52.2%yoy เท่านั้นแหละครับ ราคาหุ้นร่วงทันทีเกือบ -25% ในเวลาไม่กี่นาที ก่อนจะปิดตลาดที่ราคา 98.21 ดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 27 ตุลาคม

แค่ช่วงข้ามวัน มูลค่าตลาดของบริษัทลดลงไป 1 ใน 4 ในวันเดียว

ตลอดช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ราคาหุ้น Meta ลดลงมา -15.21% แต่พอมาวันที่ 27 ตุลาคมวันเดียว ราคาหุ้นตกลงมากถึง -24.38%

สำหรับนักลงทุนสาย VI ถ้าจะมีอะไรสักอย่างมาเป็นเจ้ามือคอยคุมราคาหุ้น ก็ต้องเป็น ‘กำไร’ ของบริษัทนี่แหละครับ

ไม่ว่าระหว่างไตรมาส ราคาหุ้นจะเหวี่ยงขึ้นลงอย่างไร บริษัทจะมี Story การเติบโตที่สวยหรูแค่ไหน แต่พอมาถึงวันเปิดสมุดพกรายงานผลประกอบการ ตลาดหุ้นก็ให้ความสำคัญกับ ‘กำไร’ อยู่ดี

ข้อคิดเมื่อกว่า 70 ปีก่อน ยังคงเป็นจริง

เมื่อ 73 ปีที่แล้ว หนังสือ The Intelligent Investor ที่เขียนโดยปรมาจารย์สายการลงทุนแบบเน้นคุณค่าอย่าง Benjamin Graham ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2492 เป็นหนังสืออมตะของชาว VI เล่มนึงเลย

ในหนังสือเล่มนี้มีวลีที่เป็นตัวแทนแนวคิดของ Graham และถูกตอกย้ำด้วยการประกาศผลประกอบการ ของบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเลยครับ ซึ่งวลีนั้นก็คือ

“In the short run the market is a voting machine, but in the long run it is a weighing machine”

“ในระยะสั้นตลาดหุ้นคือเครื่องโหวต แต่ในระยะยาวตลาดหุ้นคือเครื่องชั่งน้ำหนัก”

ความหมายที่ Graham ต้องการสื่อก็คือ ตลาดหุ้นจะผันผวนตามอารมณ์ของนักลงทุนส่วนใหญ่ในระยะสั้น เปรียบเสมือนการ ‘โหวต’ ว่าหุ้นตัวไหนจะราคาขึ้นหรือลงใน ‘การประกวดหุ้นสวยงาม’ ประจำวัน

แต่ในระยะยาวแล้ว ตลาดหุ้นจะให้ราคากับกิจการที่มีพื้นฐานหรือกำไรเติบโตดี เปรียบเสมือนเครื่องชั่ง น้ำหนักที่จะระบุมูลค่าที่แท้จริงของกิจการได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน

อ่านถึงตรงนี้ คุณคงเข้าใจกลยุทธ์การลงทุนและการปฏิบัติตัวในแต่ละวันของนักลงทุนสาย VI มากขึ้นแล้วใช่ไหมครับ

แต่แน่นอนว่า…นักลงทุนหลายคนบอกว่าตัวเองเป็นนักลงทุนสาย VI แต่ใจก็ยังแอบอยากรู้ว่าวันนี้ ‘เจ้ามือ’ จะลากหุ้นตัวไหนขึ้นหรือเปล่า?

ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ ที่คุณจะยังสับสนในหลักการลงทุนของตัวเอง ขอเพียงหมั่นทบทวน หลักการลงทุนที่คุณสนใจ สุดท้ายกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะกับคุณจะปรากฏเด่นชัดขึ้นมาเอง

เหมือนอย่างนักลงทุนหลายคนที่ประสบความสำเร็จ ก็มีทั้งสายลงทุนระยะยาวแบบ VI และสาย Day Trader ที่เน้นทำกำไรระยะสั้น หรือจะเป็นผู้คิดค้นแนวทางใหม่ขึ้นมาด้วยตัวเองอย่าง Ray Dalio ก็ได้

แต่ถ้าใจยังไปสาย VI คุณก็ต้องเชื่อว่าสุดท้ายแล้ว ‘กำไร’ คือเจ้ามือตัวจริงในตลาดหุ้น

ขอให้คุณยึดมั่นแนวทางนี้ให้แข็งแกร่ง และมีความสุขกับการลงทุนระยะยาวครับ

โดย ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจของผู้เขียน

จาก ‘วิดีโอเกม’ สู่ ‘อีสปอร์ต’ เมกะเทรนด์ที่ไม่เคยหายไปจากโลก

‘จีน’ มหาอำนาจรายใหม่ เตรียมชิงชัยเป็นเบอร์ 1 ของโลก

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ