บริษัท พาวเวอร์ชอต จำกัด ประกาศความสำเร็จหลังพิชิตยอดขายรวมกว่า 1,500 ล้านบาทในปี 2563 ล่าสุดประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในชื่อแบรนด์ “LION QUEEN” ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “Queen of Energy” ในรูปแบบ “Healthy Energy Drink” หรือ “เครื่องดื่มบำรุงกำลังเพื่อสุขภาพชนิดผง” ที่จะเดินหน้าเจาะตลาดผู้หญิง คนรักสุขภาพ และคนรุ่นใหม่ ที่ไม่เพียงมองหาเครื่องดื่มให้พลังงาน แต่ยังต้องดีต่อสุขภาพ หวังปั้นเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เรือธงช่วยดันยอดขายบริษัททะลุ 6,000 ล้านในปี 2564
-สตาร์บัคส์ เปิดฟีเจอร์ ซื้อเครื่องดื่มและขนมผ่านแอปฯ ไม่ต้องรอคิว
-THAIFEX 2020 ฟื้นฟูอุตสาหกรรมอาหาร/เครื่องดื่ม สร้างมูลค่าการซื้อขายกว่า 7.9 พันลบ.
กาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ ประธานกรรมการ บริษัท พาวเวอร์ชอต จำกัด เปิดเผยว่า หลังประสบความสำเร็จจากการทำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินเพื่อสุขภาพที่ผลิตจากสารสกัดจากธรรมชาติ ในเครือหลายแบรนด์ อาทิ HiPowershot, Power Protein, Cele Fooz, Cele Neu และ Botera จนสร้างปรากฏการณ์ทั้งยอดขายและการบอกต่อในโลกออนไลน์ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ล่าสุดได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบผลิตภัณฑ์ “Healthy Energy Drink” หรือ “เครื่องดื่มบำรุงกำลังเพื่อสุขภาพชนิดผงครั้งแรกในเมืองไทย” ภายใต้ชื่อแบรนด์ “LION QUEEN” ซึ่งเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับตลาดที่นอกจากจะช่วยบูสท์พลังงานให้ร่างกายในระหว่างวันแล้ว ยังดีต่อสุขภาพ เพราะมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติถึง 15 ชนิด ถือเป็นครั้งแรกของเมืองไทยที่มีเครื่องดื่มในรูปแบบนี้
“LION QUEEN” มีจุดเด่นที่แตกต่างจากเครื่องดื่มบำรุงกำลังทั่วไปที่วางอยู่ในตลาดเมืองไทย ด้วยจุดเด่นของการเป็น “เครื่องดื่มบำรุงกำลังเพื่อสุขภาพชนิดผง” ที่นำเอาสารสกัดเข้มข้นจากธรรมชาติถึง 15 ชนิดมารวมไว้ในซองเดียว ให้รสชาติดี ทานง่าย สะดวกในการรับประทานทั้งในรูปแบบซองที่สามารถฉีกชงดื่ม หรือฉีกซองรับประทานในแบบผงก็ทำได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งตอบโจทย์ผู้ควบคุมน้ำหนักด้วยพลังงานเพียงซองละ 10 แคลอรี
“LION QUEEN” คือหนึ่งในผลิตภัณฑ์กลยุทธ์ที่พาวเวอร์ชอตจะใช้ในการบุกตลาดที่กว้างขึ้น โดยเน้นตลาดพรีเมียม โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้หญิง คนรักสุขภาพ คนทำงาน นักเรียนนักศึกษา ซึ่งพบว่าคนกลุ่มนี้มีความต้องการตัวช่วยในรูปแบบผลิตภัณฑ์บำรุงกำลังเพื่อรีบูทร่างกายและสมอง โดยมุ่งแก้ Pain Point และตอบโจทย์ความต้องการของคนยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์สุดเหวี่ยงแบบ Work Hard, Play Hard แต่ยังคงมองหาผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลลัพธ์ได้ดี และไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพด้านความงามเข้าไปด้วย ในขณะเดียวกันต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับภาพลักษณ์ในรูปแบบ Lifestyle Product ที่สามารถพกพาได้สะดวก ง่ายต่อการหยิบขึ้นมาทานได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่ง “LION QUEEN” มาในรูปแบบซองขนาดเล็ก พกพาได้อย่างง่ายดาย สามารถรับประทานได้ทั้งในรูปแบบชงกับน้ำ หรือฉีกซองรับประทานในรูปแบบผงได้ทันที นี่จึงถือเป็นปรากฏการณ์และนวัตกรรมใหม่ของผลิตภัณฑ์บำรุงกำลังที่จะฉีกกฏและรูปแบบเดิม ๆ ที่ทุกคนคุ้นเคย” พัชรศรี กล่าวเพิ่มเติม
โดยกลยุทธ์ในการทำตลาดของ “LION QUEEN” นั้น จะเน้นการทำการตลาดครบวงจร ทั้ง Online และ Offline Marketing โดย Online Marketing จะทำการตลาดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียและช่องทางขายบนออนไลน์ที่ครบวงจร และนอกจากนี้ยังเตรียมงบการตลาดแบบจัดเต็มเพื่อโปรโมทแบรนด์ “LION QUEEN” ให้เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วผ่านกิจกรรมการตลาดมากมาย ทั้งการใช้สื่อ Out-of-Home, การทำภาพยนตร์โฆษณา, การจัดทรูปแนะนำสินค้า เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ทดลองใช้สินค้าด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจซื้อ
“จุดแข็งของ “พาวเวอร์ชอต” ที่นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์แล้ว ก็คือ ความเข้าใจในการทำการตลาดออนไลน์ครบวงจร ที่ได้สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ซื้อด้วยช่องทางการขายที่หลากหลายทั้งบนโซเชียลมีเดีย แอปพลิเคชั่น คอลเซ็นเตอร์ และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชชั้นนำ รวมถึงการออกแบบประสบการณ์ในขั้นตอนการซื้อบนออนไลน์ที่สะดวกและรวดเร็ว จัดส่งฟรีทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นมากมายที่ดึงดูดความสนใจให้กับกลุ่มผู้ซื้อและลูกค้าประจำ และอีกหนึ่งกุญแจความสำเร็จ คือ การขายและการโปรโมทในรูปแบบ Live Streaming ที่ใช้ตัวตนของ “กาละแมร์” ผู้ก่อตั้งแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ด้านการดูแลสุขภาพและไลฟสไตล์ที่โดดเด่นในการบอกเล่าจุดเด่นผลิตภัณฑ์และการแบ่งปันเคล็ดลับสุขภาพและการใช้ชีวิต ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์หลักในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา จนสามารถสร้างความสำเร็จให้กับแบรนด์และยอดขายในปีนี้แล้วกว่า 1,500 ล้านบาท”
พัชรศรี ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงแผนธุรกิจของ พาวเวอร์ชอต ว่า จากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้พาวเวอร์ชอตวางแผนเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องและเต็มกำลัง โดยตั้งเป้ายอดขายในปี 2564 ไว้ที่ 6,000 ล้านบาท โดยมีแผนที่จะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายไปสู่โมเดิร์นเทรดที่จากเดิมขายแต่เฉพาะทางออนไลน์ รวมถึงแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 5 แบรนด์เพื่อเจาะตลาดโมเดิร์นเทรดโดยเฉพาะ ซึ่งจะเริ่มทยอยเปิดตัวภายในต้นปี 2564 โดยจะยังคงเน้นที่ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องของสุขภาพและความงามที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
