ทีมเยาวชนไทย 15 คน จาก 7 ทีม จากการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ ครั้งที่ 24 และจากค่ายนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์แห่งชาติ ประจำปี 2564 คว้ารางวัลโครงงานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ระดับนานาชาติ Regeneron International Science and Engineering Fair (Regeneron ISEF) 2022 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 13 พฤษภาคม 2565 ณ เมืองแอตแลนตา มลรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 7 – 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ และวิจัยนวัตกรรม โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) นำทีมเยาวชนไทย เข้าร่วมการประกวดและคว้ารางวัล โครงงานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ระดับนานาชาติ Regeneron International Science and Engineering Fair (Regeneron ISEF) 2022 ณ เมืองแอตแลนตา มลรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา โดยในปีนี้มีโครงงานเข้าร่วมประกวด 1,410 ผลงาน จากนักเรียน 1,750 คน จาก 63 ประเทศ และมลรัฐต่าง ๆ ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา
ในรอบการประกวดรางวัลพิเศษ (Special Award) มีทีมเยาวชนไทยคว้า 2 รางวัลพิเศษ (Special Award) ประกอบด้วย
- รางวัลจาก Sigma Xi, The Scientific Research Honor Society สมาคมการวิจัยวิทยาศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก จากผลงาน “โครงงานการพัฒนานวัตกรรมซ่อมแซมแนวป่าชายเลนด้านในด้วยวัสดุปลูกลอยน้ำเลียนแบบลักษณะโครงสร้างของผลจิกทะเล” ผู้พัฒนาได้แก่ จิรพนธ์ เส็งหนองเเบน และฐิติพงศ์ หลานเดช จากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี โดยมีขุนทอง คล้ายทอง เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ได้รับรางวัลชนะเลิศในสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ จากผลงานการวิจัยที่มีการบูรณาการวิทยาการจากหลากหลายสาขายอดเยี่ยม
- รางวัลพิเศษ (Special Award) ได้แก่ “โครงงานการพัฒนาต้นแบบชุดทดสอบเชิงสีชนิดใหม่สำหรับไวรัสทั้งชนิด DNA และ RNA เพื่อรับมือกับโรคอุบัติใหม่ในอนาคตอย่างครอบคลุม (Sawasdee-AMP)” ผู้พัฒนาได้แก่ กุลพัชร ชนานำ, ปกิตตา เกรียงเกษม และคุณัชญ์ คงทอง จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ โดยมี ดร.เกียรติภูมิ รอดพันธ์ ครูสาขาวิชาเคมี โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จังหวัดนครปฐม และ ดร.วันเสด็จ เจริญรัมย์ จากไบโอเทค สวทช. เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานดังกล่าวได้รับรางวัลที่ 1 สาขาการพัฒนาสุขภาพระดับโลก จาก USAID หรือ องค์การพัฒนาเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา
นวัตกรรมวัสดุปลูกลอยน้ำ เลียนแบบลักษณะโครงสร้างของผลจิกทะเล
จิรพนธ์ เส็งหนองเเบน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หัวหน้าทีม จากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี กล่าวว่า สำหรับผลงานนวัตกรรมวัสดุปลูกลอยน้ำเลียนแบบลักษณะโครงสร้างของผลจิกทะเล สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการลดลงของป่าชายเลนซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในหลาย ๆ ด้าน
เนื่องจากป่าชายเลนเป็นแหล่งพลังงาน อาหาร ที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์ตามธรรมชาติ รวมถึงเป็นแนวชายป้องกันฝั่งทะเลจากการกัดเซาะพังทลาย กำบังคลื่น ลม กระแสน้ำและพายุ อีกทั้งยังเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของมนุษย์จากการทำประมง การเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ การศึกษา และการท่องเที่ยว หรือแม้แต่การซื้อขายคาร์บอนเครดิต
นวัตกรรมชิ้นนี้ จะช่วยสร้างความสะดวกสบายในการซ่อมแซมป่าชายเลนในบริเวณที่คนเข้าไปซ่อมแซมไม่ถึง ด้วยการใช้วิธีลอยวัสุดปลูกผ่านรากของพืชที่มีความหนาแน่นโดยอาศัยปัจจัยทางธรรมชาติ เช่น แรงของคลื่น ลม และน้ำขึ้นน้ำลง ซึ่งการใช้นวัตกรรมชิ้นนี้ในการฟื้นฟูป่าชายเลนจะสามารถช่วยในการฟื้นฟูได้ในปริมาณที่มากกว่าวิธีการปลูกแบบทั่วไปในระยะเวลาที่เท่ากัน อีกทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหาทางสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เล็กหรือใหญ่ เช่น พืชในป่าชายเลนสามารถลดทอนแรงของคลื่นได้ ส่งผลให้ลดการกัดเซาะชายฝั่งของคลื่น หรือแม้แต่แสมขาวที่เป็นพืชตัวอย่างที่เราเลือกมาใช้ในการศึกษา ยังมีประสิทธิภาพในการดูดซับสารเคมีตกค้างในป่าชายเลนได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยฟื้นฟูแหล่งรายได้ที่สำคัญของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นจากการฟื้นฟูแหล่งทำประมง การเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ การศึกษา และการท่องเที่ยว ทำให้เกิดความยั่งยืน โดยชุมชนสามารถเข้าถึงนวัตกรรมชิ้นนี้ได้ง่าย เนื่องจากนวัตกรรมดังกล่าวผลิตจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่หาได้ง่าย ทำให้มีราคาถูก และสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อนำไปใช้งานจริงได้
นวัตกรรมต้นแบบชุดตรวจโรคเชิงสีสำหรับการตรวจโรคที่เกิดจากทั้งไวรัส แบคทีเรีย พาราไซต์
ด้าน กุลพัชร ชนานำ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หัวหน้าทีม Sawasdee-AMP โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า พวกเราได้พัฒนานวัตกรรมต้นแบบชุดตรวจโรคเชิงสีสำหรับการตรวจโรคที่เกิดจากทั้งไวรัส แบคทีเรีย พาราไซต์ โดยการรวม pH-sensitive dye เพื่อให้ใช้งานได้โดยง่าย ได้รับแรงบันดาลใจจากการอุบัติขึ้นของโรคโควิด-19 เพื่อให้การตรวจโรคเข้าถึงง่ายสำหรับทุกคน ในราคาที่ไม่แพง แต่ยังคงมีประสิทธิภาพสูงเทียบเท่าวิธีมาตรฐานที่ใช้กันในห้องปฏิบัติการ ซึ่งการที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายนี้ ก็จะทำให้การตรวจโรค เฝ้าระวังการแพร่กระจายของโรคทำได้เร็วและครอบคลุมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ต้นแบบชุดตรวจของพวกเราก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการตรวจโรคอื่น ๆ ได้ด้วยการเปลี่ยนองค์ประกอบเพียงแค่ 1 ชนิด ทำให้ง่ายต่อการตรวจโรคที่อาจอุบัติใหม่ในอนาคต
ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา เวลา 20.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) คณะเยาวชนไทยได้เข้าร่วมฟังการประกาศผลโครงงานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ระดับนานาชาติเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน เพื่อฟังการประกาศผลรางวัลสำคัญของเวที ISEF2022 คือ รางวัล Grand Awards Ceremony โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านช่องยูทูปและเฟซบุ๊กให้ชมพร้อมกันทั่วโลกผ่านเพจการศึกษาของ“Society for Science” ผลปรากฏว่ามีทีมเยาวชนไทยจากโครงการ YSC สวทช. คว้า 5 รางวัล Grand Awards ประกอบด้วย
- อันดับที่ 1 (Computational Biology and Bioinformatics) จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ โครงงานเรื่อง “การทำนายความไวต่อยาด้วยเทคนิคผสมผสาน Graph Attention Networks เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการรักษาโรคมะเร็งด้วยการแพทย์แบบแม่นยำ โดยใช้โครงสร้างโมเลกุลยาร่วมกับข้อมูลทางเภสัชพันธุศาสตร์” สาขา Computational Biology and Bioinformatics ผู้พัฒนาได้แก่ ภาวิต แก้วนุรัชดาสร, ณัฐวินทร์ แย้มประเสริฐ และวุฒิพงศ์ จงเจริญสันติ (น้องสุกี้) และอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ดร.สาโรจน์ บุญเส็ง โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ และนายบัณฑิต บุญยฤทธิ์ สถาบันวิทยสิริเมธี
- อันดับที่ 2 (Earth and Environmental Sciences) จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ “โครงงานการพัฒนานวัตกรรมซ่อมแซมแนวป่าชายเลนด้านในด้วยวัสดุปลูกลอยน้ำเลียนแบบลักษณะโครงสร้างของผลจิกทะเล” ผู้พัฒนาได้แก่ จิรพนธ์ เส็งหนองเเบน และฐิติพงศ์ หลานเดช จากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี โดยมีขุนทอง คล้ายทอง เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
- และอันดับที่ 4 จำนวน 3 รางวัล ได้แก่
- “โครงงานการพัฒนาต้นแบบชุดทดสอบเชิงสีชนิดใหม่สำหรับไวรัสทั้งชนิด DNA และ RNA เพื่อรับมือกับโรคอุบัติใหม่ในอนาคตอย่างครอบคลุม (Sawasdee-AMP)” สาขา Biomedical Engineering ผู้พัฒนาได้แก่ กุลพัชร ชนานำ, ปกิตตา เกรียงเกษม และคุณัชญ์ คงทอง จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ โดยมี ดร.เกียรติภูมิ รอดพันธ์ ครูสาขาวิชาเคมี โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จังหวัดนครปฐม และ ดร.วันเสด็จ เจริญรัมย์ จากไบโอเทค สวทช. เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
- “โครงงานการแกว่งของลูกตุ้มที่มีกระแสลมรบกวน” สาขา Physics and Astronomy ผู้พัฒนาได้แก่ วิชยุตม์ นาคะศูนย์ และอาจารย์ที่ปรึกษา ซัลวาณีย์ เจ๊ะมะหมัด จากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ และรศ. ดร.กฤษณะเดช เจริญสุธาสินี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
- โครงงานการพัฒนาเข็มระดับไมโครเพื่อการตรวจวัดแบบ non-invasive ของสารครีเอตินินในของเหลวระหว่างเซลล์สู่นวัตกรรมการประเมินโรคไตแบบพกพา” สาขา Biomedical and Health Sciences ผู้พัฒนาได้แก่ พีรทัตต์ ลาภณรงค์ชัย และธนพัฒน์ รีชีวะ และอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ดร.เกียรติภูมิ รอดพันธ์ จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จังหวัดนครปฐม และ ดร.ธิติกร บุญคุ้ม นาโนเทค สวทช.
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ส่องนิสัยการทำความสะอาดคนไทย Dyson เผยคนไทยกว่า 40% จะทำความสะอาดบ้านแค่ตอนเห็นฝุ่น