เอปสัน ประเทศไทย หวังปีใหม่รักษาอัตราการเติบโต 8% เท่าปีที่ผ่านมา ที่ฝ่ากระแสเศรษฐกิจ-การเมืองร้อนแรง แต่ยังนำธุรกิจโตเกือบยกพอร์ต สวนทางตลาดไอทีขาลง ทั้งเตรียมเปิดศูนย์โซลูชันรวมเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน มี.ค.นี้
ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ตลาดไอทีอยู่ในช่วงขาลง โดยภาพรวมจำนวนยูนิตติดลบ 9% มูลค่าเงินติดลบ 15% และเฉพาะตลาดเครื่องพิมพ์ จำนวนยูนิตติดลบ 7% มูลค่าเงินติดลบ 4% สาเหตุหลักๆ มาจากการฉุดลงของตลาดคอนซูเมอร์ ขณะที่กลุ่มเอ็นเตอร์ไพร้ซยังพอไปได้ ตลาดโทรคมนาคมติดลบ 3% จากในฟากโทรศัพท์มือถือ แม้จะออกรุ่นใหม่ ฟังก์ชันใหม่ ๆ ก็ยังไม่ช่วย
ยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด แจกแจงผลประกอบการ ปี 2566 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ธุรกิจโดยภาพรวมยังคงเติบโตได้ 8% จากกลยุทธ์ที่ปรับสู่ตลาด B2B แทน B2C ประมาณ 7-8 ปีที่ผ่านมา ก่อนโควิด มาถึงพิสูจน์ให้เห็นผลของการไม่ผูกพันกับตลาด B2C มากเกินไป
– ยรรยง มุนีมงคลทร ความท้าทายใหม่ในยุคที่ “เอปสัน” ไม่ใช่แค่พรินเตอร์
สินค้าไฮไลต์ที่เติบโตได้ดีในปีที่ผ่านมา คือ 1. กลุ่มเครื่องพิมพ์หน้ากว้าง เติบโต 37% อานิสงส์จากผู้ใช้เครื่อง Non-Brand ที่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน และการเลือกตั้ง 2. กลุ่มสแกนเนอร์ เติบโต 37% เช่นกัน โดยลูกค้าที่ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้เติบโตคือ หน่วยงานราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่ต้องการเก็บไฟล์ข้อมูล 3. กลุ่มบิสิเนส อิงค์เจ็ต เติบโต 30% 4. กลุ่มโปรเจ็กเตอร์ เติบโต 20% จากความต้องการภาพขึ้นจอขนาดใหญ่ เช่น โรงเรียน
5. กลุ่มมินิแล็บ เติบโต 10% เป็นพรินเตอร์ที่ใช้พิมพ์งานในแล็บ ซึ่งธุรกิจไม่ได้หยุดอยู่เฉพาะร้านถ่ายรูป แต่ขยายเข้าสู่คอนโดมิเนียม บ้าน ที่รับงานพิมพ์ออนไลน์ แล้วส่งไปรษณีย์ให้ลูกค้า โดยมีต้นทุนต่ำลง เกิดธุรกิจใหม่ๆ หรือสตาร์ทอัพมาทำธุรกิจ และการท่องเที่ยวที่กลับมายังช่วยหนุนการเติบโตของกลุ่มนี้
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ยังครองอันดับ 1 ของตลาด แยกตามกลุ่มดังนี้ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ต 57% เครื่องพิมพ์ดอต เมทริกซ์ มากกว่า 90% โปรเจ็กเตอร์ 55% เครื่องพิมพ์หน้ากว้าง Photo Proof 58% เครื่องพิมพ์สื่อโฆษณา Digital Signage 37% เครื่องพิมพ์ใบเสร็จ (Desktop POS) 29%
ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
ขณะที่ตลาดไอทีโดยรวมเป็นขาลง แต่เอปสันยังคงเติบโตได้ตามที่คาดการณ์ เนื่องจากความสามารถในการปรับตัว จากเคยเน้นเครื่องพิมพ์ขนาดเล็ก หันมาสู่เครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และบริษัททำกิจกรรมและวางนโยบายก้าวไปข้างหน้าเหนือกว่าตลาด หรือคู่แข่ง นำนวัตกรรมเสนอแก่ผู้บริโภคตลอดเวลา
เช่น ดิสรัปต์ตลาดอิงค์เจ็ตที่กำลังคึกคักไปเป็นอิงค์แทงก์เป็นรายแรก จนปัจจุบันอิงค์แทงก์กลายเป็นตลาดหลักถึง 75% และนำอิงค์เจ็ตมาทำเป็นเครื่องพิมพ์ความเร็วสูง และคุณภาพดีแซงเครื่องพิมพ์เลเซอร์
ส่วนช่องทางการจำหน่ายเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ เช่น จากร้านค้าทั่วไป สู่โมเดิร์น เทรด ออนไลน์ และอื่น ๆ สร้างความแตกต่างทางมูลค่าแก่ผลิตภัณฑ์ ทำให้ลูกค้ายอมจ่ายมากขึ้นเพื่อให้ได้สินค้าคุณภาพ และบริการ ตลอดจนความพึงพอใจของลูกค้า
งบประมาณรัฐ-ท่องเที่ยวกระตุ้นตลาด
ปี 2567 มองว่า มีความเสี่ยงและโอกาส จากหนี้สินครัวเรือนยังมาก การจับจ่ายใช้สอยยังต้องระวัง กระทบต่อ B2C ทำให้ตลาดส่วนนี้อาจไม่เติบโต สถานการณ์การเมืองทั้งในและต่างประเทศ อาจทำให้ตลาดรวมทรงตัว หรือเติบโตขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม งบประมาณภาครัฐที่ล่าช้าในปีที่ผ่านมา อาจจะเร่งขึ้นในปีนี้ ทำให้กระตุ้นการใช้จ่าย การลงทุน รวมถึงการที่นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา ล้วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
รักษาการเติบโต 8%
ในส่วนของเอปสัน ยังคงรักษาการเติบโตปีนี้ ที่ 8% เท่ากับปีที่ผ่านมา โดยโฟกัสตลาด B2B เช่นเดิม โดยมุ่งลงทุนในจุดแข็ง 5 ด้านเพื่อเพิ่มโอกาสการขยายตัวทางธุรกิจ คือ
S-curve strategy มองหาและสร้าง S-curve ใหม่ ช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสเติบโตก้าวหน้าได้อยู่เสมอ ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด และสร้างความแตกต่างและโดดเด่นจากคู่แข่ง ล่าสุดได้เปิดตัวเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตขาวดำที่ใช้หัวพิมพ์ Heat-Free Technology ทั้งกลุ่ม EcoTank และ WorkForce อย่างละ 2 รุ่น เพื่อแข่งขันกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำ
Sales model พัฒนารูปแบบการขายที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกว่าต้องการเป็นเจ้าของเครื่องพิมพ์เอปสันในรูปแบบใด โดยคำนึงถึงงบประมาณ ประเภทงานพิมพ์และปริมาณการใช้ในแต่ละเดือนที่ลูกค้าเป็นผู้กำหนดได้เอง
Service excellence ให้ความสำคัญกับการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย พัฒนาทีม Pre-sales สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อสนับสนุนการทำโซลูชั่นที่เหมาะกับองค์กรธุรกิจของลูกค้า รวมถึงพัฒนาช่องทางดิจิทัลเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้อย่างง่ายดาย เพิ่มจำนวนศูนย์บริการทั่วประเทศเป็น 182 แห่ง ซึ่ง 140 แห่งให้บริการ onsite ได้
21 มีนาคม เปิดโซลูชันเซ็นเตอร์
Solution center ที่ทุ่มงบประมาณกว่า 30 ล้านบาทสร้าง Solution Center แห่งใหม่บนพื้นที่มากกว่า 600 ตารางเมตร ณ อาคารปัน (PUNN Smart Workspace) กำหนดเปิดตัว 21 มีนาคม 2567 ใช้เป็นที่จัดแสดงและสาธิตการใช้งานผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างประสบการณ์จริงให้ลูกค้าก่อนตัดสินใจซื้อ
ขณะเดียวกันยังใช้เป็นที่อบรมเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่มุ่งสร้างความยั่งยืนแก่ตัวแทนจำหน่าย ด้วยนวัตกรรมและโซลูชั่นที่ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มผลิตผล แต่ยังช่วยสร้างความยั่งยืนอีกด้วย เพื่อสร้างสังคมที่ปล่อยคาร์บอนเป็นลบได้ในที่สุด
– เอปสัน เปิดตัว Epson Demo Car ให้ลูกค้าองค์กรทดลองพิมพ์ฟรีถึงที่
เปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน 100%
Sustainable value จากดีเอ็นเอของไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น ที่ดำเนินธุรกิจบนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมระยะยาว ‘Environmental Vision 2050’ อย่างจริงจัง โดยมีวัตถุประสงค์ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ในปี 2593 และหยุดการใช้พลังงานจากใต้ดิน
ล่าสุด เดือนธันวาคม 2566 บริษัทได้แถลงความสำเร็จของการเป็นบริษัทแรกในอุตสาหกรรมการผลิตของญี่ปุ่นที่สามารถเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนแบบ 100% ทั่วโลกที่ใช้พลังงาน 876 กิกะวัตต์ต่อปี ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 4 แสนตันต่อปี
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
แอปพลิเคชัน เหมียวจด ตัวช่วยจดทุกรายการใช้จ่าย ไว้ในแอปเดียว
ทำความรู้จัก “Xplorer” ยานยนต์สำรวจใต้ทะเลผสานระบบ AI ช่วยตรวจสอบท่อน้ำมัน
