YouTube ประเทศไทย ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอที่ผู้คนสามารถสร้างและแบ่งปันความคิดเห็น เพื่อเชื่อมต่อกับผู้คนทั่วโลกและสามารถสร้างรายได้จากผลงานวิดีโอ รวมทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ครีเอเตอร์ด้าน Creative Freedom หรืออิสระในการสร้างสรรค์ผลงานโดยไม่มีข้อจำกัด ทั้งในด้านรูปแบบที่หลากหลายบน YouTube ตั้งแต่ Shorts แนวตั้งความยาวไม่เกิน 60 วินาที ไปจนถึงวิดีโอและสตรีมแบบสดความยาวหลายชั่วโมง รวมถึงเนื้อหาคอนเทนต์ที่หลากหลาย ตั้งแต่เนื้อหาที่ให้ความบันเทิง ความสนุก สาระ ไปจนถึงสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน และรูปแบบการสร้างรายได้ที่หลากหลาย
มุกพิม อนันตชัย หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรธุรกิจ YouTube ประเทศไทย และเวียดนาม กล่าวว่า “YouTube เปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงแนวคิดและสร้างสรรค์ผลงานเพื่อเข้าถึงผู้ชมทั่วโลกอย่างมีคุณภาพ ไปพร้อมกับการพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ เพื่อส่งเสริมให้ครีเอเตอร์ ศิลปิน ตลอดจนแบรนด์ต่าง ๆ เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าใน 3 ด้านจาก YouTube ได้แก่ 1) ด้านอารมณ์ (Emotionally Rewarding) ผลสะท้อนจากคอนเทนต์ที่สอดคล้องกับทุกช่วงเวลาในชีวิตและความสนใจที่เปลี่ยนแปลงของผู้คน นอกจากการเข้าถึงคนดูจำนวนมากแล้ว เราเชื่อว่า YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่ครีเอเตอร์รู้สึกผูกพันกับแฟนๆ และผู้ติดตามอย่างลึกซึ้ง จนเกิดเป็นชุมชนที่มีความแน่นแฟ้น 2) ด้านการสร้างรายได้ (Financially Rewarding) ให้ครีเอเตอร์ได้รับผลตอบแทน ผ่านโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube เพราะเราเชื่อมั่นว่า YouTube จะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อครีเอเตอร์ประสบความสำเร็จเท่านั้น และ 3) ด้านความสร้างสรรค์ (Creatively Rewarding) มอบความสุขสนุกสนานไปกับการสร้างสรรค์ผลงานที่ยอดเยี่ยมได้อย่างอิสรภาพในรูปแบบที่หลากหลาย”
YouTube เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์สร้างสรรค์คอนเทนต์ และเชื่อมต่อกับผู้ติดตามได้อย่างมีอิสระ โดยชูจุดเด่นด้าน Creative Freedom ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่
- การสร้างสรรค์ข้ามประเภทเนื้อหา (Freedom on Genres): จากเดิมที่คอนเทนต์มีการแบ่งประเภทไว้อย่างชัดเจน สู่การปลดล็อกการสร้างผลงานที่ผสมผสานเพื่อความแปลกใหม่และการมีส่วนร่วมของผู้ชมอย่างท่วมท้น เช่น การนำคอนเทนต์วาไรตี้และทอล์คโชว์กับกระแสนักการเมือง หรือการโต้วาทีในรูปแบบเกมโชว์
- การสร้างสรรค์ที่หลากหลายรูปแบบ (Freedom on Formats): สามารถสร้างผลงานได้หลากหลายรูปแบบ ได้แก่ วิดีโอยาว-สั้น สตรีมแบบสด ด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันเพื่อตอบสนองแต่ละกลุ่มเป้าหมาย อย่างที่ผ่านมา ศิลปินเพลงประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจากการเปิดตัวเพลงโดยการใช้ประโยชน์จาก Shorts เพื่อสร้างกระแสและชาเลนจ์กับแฟนๆ ให้ม าร่วมสนุกกัน
- การสร้างสรรค์วิธีสร้างรายได้หลายช่องทาง (Freedom on Monetization): YouTube ยังช่วยสนับสนุนให้เหล่าครีเอเตอร์สามารถรับส่วนแบ่งรายได้และสร้างรายได้จากเนื้อหาของตนเองด้วยรูปแบบที่หลากหลาย นอกเหนือจากโฆษณา ซึ่งตลอด 3 ปีที่ผ่านมา YouTube ได้จ่ายค่าตอบแทนให้กับครีเอเตอร์ ศิลปิน และบริษัทสื่อรวมแล้วกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์
ปัจจุบัน เหล่าบรรดาครีเอเตอร์สามารถรับส่วนแบ่งและสร้างรายได้บน YouTube จากคอนเทนต์ผ่านโปรแกรมพาร์ตเนอร์ YouTube (YouTube Partner Program: YPP) รวมถึงช่องทางต่าง ๆ สำหรับครีเอเตอร์ในการสร้างรายได้ที่นอกเหนือจากโฆษณา เช่น การเป็นสมาชิกของช่อง (Channel Memberships), Super Chat, Super Stickers และ Super Thanks ในประเทศไทย โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา YouTube ก็ได้นำเสนอรูปแบบการสร้างรายได้เพิ่มเติมจากโฆษณาบน Shorts
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ATCI ชวนร่วมประกวด ‘Thailand ICT Awards 2023’ เวทีเฟ้นหาสุดยอดผลงานไทย ครั้งที่ 19 มุ่งดันสู่เวทีโลก