ธนาคารกสิกรไทย ลูอินเตอร์เนชันแนล (Lu International) และบลน.โรโบเวลธ์ เปิดตัว FinVest บริการ Digital Investment Platform เพิ่มโอกาสในการลงทุนให้เข้าถึงง่ายตั้งเป้ายอดเปิดบัญชี 120,000 บัญชีและทำให้เกิด AUM 1.4 หมื่นล้านบาทใน 1 ปี
- Apple เปิดตัวโครงการสำหรับธุรกิจขนาดเล็กใน App Store
- ไทยน้ำทิพย์ ปรับกลยุทธ์ธุรกิจ โต ฝ่าวิกฤติโควิด-19
FinVest คือ แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการลงทุน ภายใต้แนวคิด ‘ติดปีกการลงทุนให้คุณ’ ทำให้ นักลงทุนไทยเข้าถึงการลงทุนได้ง่าย เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน FinVest จะได้รับข้อมูลที่มีเนื้อหาเข้าใจง่าย คมชัด และชี้เป้าการลงทุนอย่างเป็นกลาง เปิดบัญชีได้ด้วยตัวเองผ่านสมาร์ทโฟนไม่ต้องเดินทางไปสาขา หรือ บลจ. เน้นความหลากหลาย สามารถลงทุนในกองทุนรวมต่าง ๆ ของบลจ.ชั้นนำในประเทศไทย 15 บลจ. และบลจ.ชั้นนำจากทั่วโลก กระบวนการทำงานทุกขั้นตอนมีความน่าเชื่อถือที่ได้มาตรฐานฟินเทคระดับโลก
พัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า แพลตฟอร์มการลงทุนดิจิทัล FinVest เป็นการเสริมศักยภาพการลงทุนให้กับนักลงทุนรายย่อยในประเทศไทย สามารถลงทุนในกองทุนรวมได้ทั่วโลกได้โดยตรง
“ที่ผ่านมามีลูกค้ากองทุนรวมเพียงแค่ 300,000 จากลูกค้าธนาคารกสิกรไทย 16 ล้านราย ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการเพิ่มบริการให้ลูกค้าของเราได้ครบถ้วนมากขึ้น”
FinVest เป็นการพัฒนาดิจิทัลเทคโนโลยีร่วมกันระหว่างธนาคารกสิกรไทยที่เชี่ยวชาญด้าน ดิจิทัลแบงกิ้ง ร่วมกับลู อินเตอร์เนชันแนล (Lu International) ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งอยู่ภายใต้ บริษัท ลูแฟ๊กซ์ โฮลดิ้ง (Lufax Holding) ในเครือผิงอันกรุ๊ป (Ping An Group) บริษัทยักษ์ ใหญ่ในประเทศจีน ซึ่งมีทีมงานพัฒนาด้านเทคโนโลยีการลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญระดับโลก โดยมี บลน. โรโบเวลธ์ จำกัด บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้าน Wealth Tech เป็นผู้ดูแลการให้บริการแพลตฟอร์ม FinVest เพื่อให้เข้ากับตลาดทุนไทย ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต.
“ความร่วมมือนี้เป็นการตอกย้ำบทบาทการเป็นผู้ให้บริการทางการเงิน (Banking Service) เต็มรูปแบบ เป็นการผนึกความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลแบงกิ้งของธนาคารกสิกรไทย ผสานกับ ความเชี่ยวชาญของพันธมิตรระดับโลก และผู้เชี่ยวชาญด้านฟินเทค เพื่อทำให้บริการของธนาคารเข้าไปอยู่ในทุกที่ที่ลูกค้าใช้ชีวิตอยู่” พัชร กล่าว
“ผู้ลงทุนในกองทุนรวมมีอายุน้อยลงเรื่อย ๆ และชอบทำรายการลงทุนบนช่องทางดิจิทัล มีความสนใจในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับตราสารทุนทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น นอกจากนี้ ยังพบว่าการลงทุนในรูปแบบ Open Architecture มีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี”
“นักลงทุนไทยไม่ค่อยมีทางเลือกในการลงทุนเท่าไรนักที่ผ่านมาทางเลือกคือเลือกผู้จัดการกองทุนคนไหนเป็นคนบริหารกองทุนไทยแต่ทางเลือกที่ FinVest หาให้เป็นเรื่องของการเลือกชนิดการลงทุนใหม่ ๆ ที่อยู่ต่างประเทศ FinVest เป็นแอปที่จะมีความแตกต่างมากอยู่และเรื่องการเปิดบัญชีผ่านดิจิทัลสะดวกกว่าการที่จะต้องไปที่สาขาธนาคารแต่ก็ไม่ถึงขนาดว่ากดปุ่มเดียวแล้วสมัครได้เลยแต่อย่างไรก็จะพยายามทำให้การเปิดบัญชีง่ายที่สุด”
คิท วอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูอินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) กล่าวว่า ประเทศไทยเป็น ตลาดสำคัญที่มีความก้าวหน้าด้านการสร้างการเติบโตในการลงทุน และเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ความร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย และโรโบเวลธ์ ในการพัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์มการลงทุน ‘FinVest’ จะช่วยตอบสนองความต้องการของนักลงทุนในยุคปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับการนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาใช้เป็นเครื่องมือในการลงทุนด้วยตัวเอง ลู อินเตอร์เนชันแนล เชื่อมั่นว่าการนำเสนอแพลตฟอร์ม FinVest สู่ตลาดไทยจะช่วยยกระดับการลงทุนในรูปแบบดิจิทัลของไทยไปสู่แถวหน้าของ ภูมิภาค
สร้างความมั่งคั่งเฉลี่ยให้คนไทย
ด้าน ชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน (บลน.) โรโบเวลธ์จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยสมบูรณ์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ในขณะที่คนไทยมีค่าเฉลี่ยความมั่งคั่งแค่ 100,000 กว่าบาท ขณะที่ค่าเฉลี่ยความมั่งคั่งของทั้งโลกอยู่ที่ 200,000 กว่าบาท มีไม่ถึง 5% ของประชากร คือ มีไม่ถึง 4 ล้านคน
ภาพรวมการออมเงินของคนไทย มูลค่าของตลาดทั้งหมดรวม 44 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น ฝากเงินในธนาคารอยู่ประมาณ 15 ล้านล้านบาท และประมาณ 15 ล้านล้านบาทลงทุนในหุ้น อีกประมาณ 14 ล้านล้านบาทอยู่ในพันธบัตร
ในทั้งหมดนี้สัดส่วนของกองทุนรวมอยู่ที่ 4.8 ล้านล้านบาท จะเห็นได้ว่ามีแค่ประมาณ 10% ของการออมทั้งหมด ดังนั้นตลาดกองทุนรวมยังเติบโตได้อีกมาก
“เราทำสำรวจตลาดมา พบว่าสาเหตุที่คนไม่ลงทุน เพราะคนทั่วไปมองการลงทุนเป็นเรื่องเสี่ยง เห็นวิกฤติต้มยำกุ้ง แฮมเบอร์เกอร์ และโควิด-19 มองเป็นเรื่องที่ยาก ใช้เวลามาก และคิดว่ารวยไม่พอที่จะลงทุน เลยไม่ได้ลงทุนเสียที”
ชลเดช กล่าวว่า FinVest มาเพื่อช่วยแก้ Pain Point ของนักลงทุน ด้วยการนำเสนอบริการการลงทุนที่คัดเลือก 15 บลจ. ชั้นนำในประเทศไทย และ บลจ.ทั่วโลก เพื่อกระจายความเสี่ยงให้ หากมองการลงทุนเป็นเรื่องยาก FinVest ก็มีคอนเทนต์ที่สั้น กระชับ ได้ใจความ อ่านและดูคลิปก็จะรู้ว่าควรลงทุนในกองทุนรวมอะไรดี
โดยการได้รับข้อมูลวิเคราะห์การลงทุนในรูปแบบที่กระชับ และเข้าใจง่าย นำไปสู่ผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา ที่ได้ผ่านการคัดเลือกโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญร่วมกับผู้บริหารใน Product Screening Committee โดยโรโบเวลธ์จะให้บริการการเปิดบัญชี ซื้อขายหน่วยลงทุน ตลอดจนศูนย์บริการลูกค้า ผ่านแพลตฟอร์ม ‘FinVest’ ซึ่งเชื่อมต่อกับ Robowealth Open API ควบคู่ไปกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ของบริษัท
“ผู้ลงทุนสมัยก่อนอายุ 40-50 ปี ซื้อกองทุน คือ เดินไปที่สาขาธนาคาร เปิดบัญชี ซื้อกองของธนาคารนั้น กองทุนส่วนใหญ่จะคล้ายการฝากออมทัพย์ จะเป็นกองทุนตลาดเงิน บางคนชินกับการฝากประจำก็จะซื้อกองทุนพันธบัตรที่เป็น Fixed Term แต่ด้วยความสำเร็จของ Apple, Google, Facebook, Tesla และ Netflix คนมีแนวโน้มที่จะลงทุนในหุ้นมากขึ้นผ่านกองทุนรวม และอายุของนักลงทุนจะน้อยลง ส่วนใหญ่ประมาณ 60% ของฐานลูกค้าจะอายุต่ำกว่า 35 ปี และนิยมลงทุนผ่านมือถือ (Digital Channel) ไม่เดินไปที่ธนาคาร เราเชื่อว่าสัดส่วนของการลงทุนด้วยตัวเองจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และการลงทุนผ่านโมบายแพลตฟอร์มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน”
FinVest เป็นแอปแรกที่มีกองทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผ่านแพลตฟอร์ม Fund Connext เพื่อที่จะให้ลูกค้าสามารถแลกเงินผ่านแอปได้เลย โดยไม่ต้องออกไปที่อื่น ไปซื้อกองทุนในตลาดโลก
“เราเป็น One-Stop-Service เปิดบัญชีครั้งเดียวลงทุนได้ทุกบลจ.ที่เรามีอยู่ และที่สำคัญเราไม่ได้เอาการลงทุนเป็นชีวิตของคนรวยเพียงอย่างเดียว แต่ทำให้การลงทุนเป็นชีวิตของทุกคน ดังนั้นเวลาฝากครั้งแรก 1,000 บาท จะลงทุนได้ต่ำสุดที่กองทุนฯ นั้น ๆ มีตั้งแต่ 1 บาท”
“ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อกองทุนรวมในประเทศ หรือกองทุนรวมต่างประเทศที่เรียก ว่า Feature Fund หรือ Master Fund หรือจะไปซื้อตรง ขึ้นกับขนาดของเงินลงทุนของลูกค้า กองไหนบ้างที่ยังไม่ได้นำเข้ามา เราเป็น Open Architecture จริง ๆ ถ้าไม่มีแอป Fund Connext ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เราคงจะไม่สามารถทำให้การลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศเป็นเรื่องง่ายขนาดนี้”
สมัครง่าย เปิดบัญชี 1,000 เติมเงินสูงสุด 5 ลบ.
สมัครใช้งานง่าย ๆ ดาวน์โหลดแอป FinVest ใส่ข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ รหัสผ่าน ใส่เบอร์มือถือ พอได้ OTP มา ก็ถ่ายรูปบัตรประชาชน พร้อมกับ Selfie หน้าตัวเองกับบัตรประชาชน เพื่อทำ eKYC ไม่ต้องเดินไปสาขาธนาคารก็สมัครได้ จากนั้นใส่ข้อมูลส่วนตัวเพิ่มเติม
Step ต่อมา คือ ใส่ข้อมูลของธนาคาร เลือกได้ 4 ธนาคาร ได้แก่ KBank ผ่าน K PLUS ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิขย์ และธนาคารกรุงไทย เปิดบัญชีเสร็จ ก็ทำแบบทดสอบว่ายอมรับความเสี่ยงได้แค่ไหน จากนั้น “เติมเงิน” ลงใน e-Wallet ในแอป
“เราไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม นักลงทุนจะซื้อกองทุนรวมกับเราหรือซื้อตรงกับบลจ. หรือว่าจะซื้อจากตัวแทนขายรายอื่น แม้เราจะมีบริการที่ค่อนข้างพรีเมียม มีเนื้อหาให้อ่าน เราจะไม่คิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม เปิดบัญชีครั้งแรก 1,000 บาท โดยจะซื้อกองทุนรวม 1 บาท 5 บาท หรือ 10 บาทก็ได้ แล้วแต่ว่ากองทุนนั้นเปิดให้ซื้อขั้นต่ำกี่บาท”
แนวโน้มของกองทุนรวม คือ พยายามจะลดขั้นต่ำให้อยู่น้อย ๆ เพื่อให้นักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาลงทุนได้ง่ายขึ้น และสามารถกระจายความเสี่ยง จัดพอร์ตได้
ค่าธรรมเนียมแลกเงินบาทเป็นเงินต่างประเทศ หรือค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กับระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทจะคิดให้เท่ากับต้นทุนต่ำที่สุด นักลงทุนจะมีทางเลือกมากขึ้น ลงกองทุนรวมนี้ ซื้อ Feature Fund ในไทยดี หรือซื้อกองฯ ในต่างประเทศดี ระบบจะคำนวณให้ ว่าเงินกี่บาทซื้อในไทยถึงจะดี เงินกี่บาทขึ้นไปซื้อต่างประเทศถึงจะดี
Robo Wealth มาจาก Robo Adviser มีบริการลงทุนโดย Robot ล้วน แต่ FinVest ใช้ Robot คัดเลือกกองทุนรวมในเบื้องตันก่อน จากนั้นเอาผู้จัดการกองทุนมาช่วยเลือกอีกที แล้วเอาการตลาดมาเขียนเนื้อหา ทำให้กระชับ อาจจะอ่านหรือดูวิดีโอแค่ 5-10 นาที ก็มั่นใจซื้อกองทุนรวมได้เลย
ดาวน์โหลดแอป FinVest จาก iOS App Store Google Play Store และ Huawei App Gallery: finvest ดูวิธีการสมัคร เปิดบัญชี และใช้งาน หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3nsvYEm FinVest Facebook Fan Page: @finvestapp Line id: @finvest หรือโทร 02-026-6222 พิเศษช่วงเปิดตัว เมื่อดาวน์โหลด และเปิดบัญชีลงทุนสำเร็จรับเงินเข้าบัญชี FinVest 200 บาท (17 พ.ย. 63 – 31 ธ.ค. 63)