บริษัท อีโวลูชั่น ดีซี (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และ บริษัท Evolution Data Centres ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ร่วมขับเคลื่อนเทคโนโลยีดิจิทัล ตอบรับความต้องการธุรกิจ Cloud Computing และ Data Storage และสร้างความพร้อมให้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็น ASEAN DIGITAL HUB
ภูมิ จิราธิวัฒน์ Head of Alternative Investments บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “ความร่วมมือกับ NT ครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุน Ecosystem ของเซ็นทรัลพัฒนา ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน ด้วยความพร้อมของโครงข่ายพื้นฐานด้านโทรคมนาคม ของ NT จะช่วยให้ธุรกิจดาต้า เซ็นเตอร์ สามารถรองรับการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการโครงข่ายได้อย่างครบวงจร และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ด้วย Sustainable Data Centre เพื่อตอบรับดีมานด์ของธุรกิจ Cloud Computing และ Data Storage
ทั้งนี้ เซ็นทรัลพัฒนา มีจุดแข็งและความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการบน Strategic Location ที่ตอบโจทย์ธุรกิจต่าง ๆ สำหรับการพัฒนาโครงการ Data Centre เรามีแผนการพัฒนาบนทำเลที่มีศักยภาพ โดยเลือกทำเลย่านบางนา ซึ่งมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีเส้นทางเชื่อมต่อที่หลากหลาย มีความปลอดภัยสูง รวมถึงอยู่ใกล้แหล่งพลังงานไฟฟ้า จึงมั่นใจได้ว่าเราจะสามารถให้บริการลูกค้าทั้ง Hyperscalers และ Build-to-Suit ได้อย่างดี และจะทำให้บางนา กลายเป็น Hotspot ที่สำคัญสำหรับธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ ทั้งนี้ ตั้งเป้าเปิดให้บริการเฟสแรกช่วงปี 2569”
![โครงการ Data Centre](https://www.thestorythailand.com/wp-content/uploads/2024/01/Evolution-DC-x-NT-ASEAN-DIGITAL-HUB-Data-Center.jpg)
ด้านดาร์เรน เว็บบ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Evolution Data Centers กล่าวว่า “โครงการดาต้าเซ็นเตอร์ ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นจากการร่วมมือกับ NT เพราะมี Fibre Network ที่ครอบคลุมในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Terrestrial Fibre และ Submarine Cable ทั้งนี้ เรามั่นใจว่าความร่วมมือจากผู้นำด้านธุรกิจทั้ง 3 องค์กรครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการพัฒนาและยกระดับประเทศไทยสู่ Thailand’s 4.0 Digital Transformation และ นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ของประเทศไทยสู่โมเดลธุรกิจแห่งอนาคต ซึ่งจะสร้างประโยชน์ในหลากหลายภาคส่วน และช่วยส่งเสริมการเชื่อมต่อข้อมูลสื่อสารของผู้ให้บริการสู่ผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ขณะที่ เสกสรรค์ มิตรเกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT กล่าวว่า “ในส่วนของ NT เรามีความเชี่ยวชาญและมีความพร้อมในการให้บริการด้านโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมที่ครอบคลุมทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ด้วยระบบเคเบิลภาคพื้นดินที่เชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านกว่า 10 จุด และระบบเคเบิลใต้น้ำ (Subsea Cables) ที่มากที่สุดถึง 9 ระบบ เพื่อเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงบริการด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่ครบวงจร ซึ่งจะช่วยพัฒนาธุรกิจดาต้า เซ็นเตอร์ เพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการโครงข่ายได้อย่างไร้รอยต่อ”
“ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของการให้บริการด้านการแลกเปลี่ยนเชื่อมต่อข้อมูลได้อย่างคลอบคลุม สามารถสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจโทรคมนาคมของประเทศ ซึ่งจะเป็นการต่อยอดสู่การเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลสื่อสารในระดับภูมิภาค และยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย ให้ทันต่อเทรนด์และความต้องการของผู้ใช้งานต่อไป”
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
LG ประกาศกลยุทธ์ธุรกิจ เพื่อการบรรลุเป้าหมาย “FUTURE VISION 2030”