TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusiness‘พี.วี.ที. แมนูแฟคเจอริ่ง’ ยิ่งเจ็บ ยิ่งโต โตแบบยั่งยืน

‘พี.วี.ที. แมนูแฟคเจอริ่ง’ ยิ่งเจ็บ ยิ่งโต โตแบบยั่งยืน

‘พี.วี.ที. แมนูแฟคเจอริ่ง’ บริษัทรุ่นลูกที่เติบโตแบบคิดนอกกรอบในการทำธุรกิจด้วยโมเดล Solution Provider มีความโดดเด่นด้าน Innovative Enterprise ซึ่งเป็น 1 ใน 6 สุดยอดบริษัทที่ได้รับรางวัลจาก ‘Bai Po Business Awards by Sasin’ อะไรคือ Key message สำคัญที่ทำให้ธุรกิจสารถนอมอาหารสัตว์โดยคนไทยสามารถเติบโตต่ออย่างยั่งยืนตลอดระยะเวลา 19 ปี หลังจากเปลี่ยน Pain point สู่การทำธุรกิจแบบพึ่งพาตนเอง

ทำธุรกิจ ‘ยิ่งเจ็บยิ่งโต’

น.สพ.ธนันต์  ลีละยูวะ General manager บริษัท พี.วี.ที. แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด กล่าวว่า ก่อนนี้หน้าครอบครัวทำธุรกิจตัวแทนจำหน่ายสารถนอมอาหารสัตว์ (Feed Preservative) จากต่างประเทศ ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลายปีที่ธุรกิจดำเนินไปได้ด้วยดีมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ตัวเองต้องตัดสินใจกลับมาประเทศไทยเพื่อช่วยขยายธุรกิจครอบครัว โดยในช่วงปี 2546 ธุรกิจเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางผู้ผลิตจากต่างประเทศอยากทำตลาดเองโดยไม่ผ่านตัวแทนจำหน่าย ทางบริษัทเองหากไม่ได้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นี้ อาจมีผลต่อการดำเนินธุรกิจและต่อเนื่องถึงพนักงาน การเริ่มต้นของการพัฒนาต่าง ๆ การพึ่งพาตนเองเพื่อการอยู่รอดจึงเกิดขึ้น 

จุดเริ่มต้นของการพัฒนา คือ การพัฒนาทางวิศกรรมในการพัฒนาระบบจ่ายน้ำยาสารถนอมคุณภาพอาหารสัตว์ (Liquid Feed Preservative Application System) ควบคู่กับพัฒนาผลิตภัณฑ์สารถนอมคุณภาพอาหารสัตว์ (Feed Preservative) โดยเริ่มแรกของการมีผลิตภัณฑ์ของตนเองคือ คิดค้นพัฒนาสูตรสารถนอมอาหารสัตว์ที่เป็นของตัวเอง ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย สอดคล้องกับกฏหมายและข้อบังคับต่าง ๆ จ้างโรงงานในต่างประเทศผลิตและนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย แต่ปัญหาและอุปสรรคยังคงมี เนื่องจากหลังจากผลิตภัณฑ์เริ่มทำตลาดได้ดี สูตรสารถนอมอาหารได้ถูกดัดแปลงและนำเสนอให้กับลูกค้าของผู้ว่าจ้างผลิตรายอื่น ดังนั้นเราจึงกลับมาที่จุดคิดเริ่มต้นว่า จะทำอย่างไรให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน คำตอบ คือ เราต้องมีโรงงานผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นของตนเอง 

ด้วยแนวคิดของการพึ่งพาตนเองเพื่อความอยู่รอด ในปี 2547 บริษัท พี.วี.ที. แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ได้จัดตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย โดยนำสูตรสารถนอมคุณภาพอาหารสัตว์ (Feed Preservative) ที่เคยว่าจ้างผู้ผลิตในต่างประเทศ กลับมาผลิตในประเทศไทย คิดค้นพัฒนาและวิจัยต่างๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สินค้าได้มาตรฐานทัดเทียมสินค้าที่มาจากต่างประเทศ ทางโรงงานเองได้จัดทำระบบมาตรฐานต่าง ๆ และระบบความปลอดภัยของอาหาร ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015 GHP HACCP  FAMI-QS ซึ่งทำให้บริษัทสามารถจัดจำหน่ายให้ลูกค้าผู้ผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ต่าง ๆ ที่มีฟาร์มเลี้ยงสัตว์ของตัวเอง ตลอดจนมีโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์เพื่อจำหน่ายสู่ตลาดในประเทศและส่งออก

โดยสินค้าหลักมี 2 กลุ่มได้แก่ สารป้องกันเชื้อรา ( Mold Inhibitor Products) และสารป้องกันเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Control Products) ซึ่งช่วยลดการเกิดโรคในระบบทางเดินอาหารของสัตว์ มีการผลิตที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ ประหยัดหลังงาน และลดการใช้บรรจุภัณฑ์ ลด Carbon Emission ซึ่งมีผลต่อ Carbon Foot Print Label ของผลิตภัณฑ์

ส่วนเครื่องจ่ายน้ำยาสารถนอมคุณภาพอาหารสัตว์ (Liquid Feed Preservative Dispenser) ทางบริษัทได้พัฒนาเครื่องรุ่นต่าง ๆ ที่เหมาะกับการใช้งาน และดูแลรักษารวมถึงปรับปรุงเครื่องจ่ายน้ำยาที่ติดตั้งแล้วให้ทันสมัยตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทำให้ลูกค้าสามารถควบคุมการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็น Smart Liquid Dispenser ใช้ Internet of Things (IoT) มีการเก็บข้อมูลการใช้งาน มีการเรียนรู้ภายใน ทำให้เป็นเครื่องจ่ายน้ำยามีความอัจฉริยะ ลดการดูแลรักษา และมีระบบแจ้งเตือนเมื่อเครื่องทำงานผิดปกติ หรือเริ่มมีแนวโน้มการเบี่ยงเบน และสามารถช่วยเหลือลูกค้าในกรณีฉุกเฉินทางไกลผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้ (Remote Assistant) 

ตัวเครื่องจ่ายน้ำยาถูกออกแบบให้สามารถตรวจเช็กสภาพเครื่องได้ง่าย และหลังจากติดตั้งเครื่องจ่ายน้ำยาแล้วยังสามารถอัพเกรดซอฟแวร์ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าเพิ่มได้ เพิ่มความสามารถในเชิงป้องกันได้ตลอดเวลา ปัจจุบันเครื่องจ่ายน้ำยานี้ได้มีการดำเนินการจดสิทธิบัตรในระดับนานาชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“เราภูมิใจในความเป็นไทย เชื่อมั่นในทีมงาน เชื่อมั่นศักยภาพคนไทย ว่าเราสามารถค้นคว้าวิจัย รวมถึงสร้างสรรค์นวัตกรรมไปสู่ระดับโลกได้ เราเป็นอุตสาหกรรมการผลิตที่มีพนักงานไม่มาก แต่ทำงานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ คล่องตัว ไม่กลัวต่างชาติ เราให้ความสำคัญกับความสุขและคุณภาพชีวิตของพนักงาน อย่างในโรงงานเราเอง เราลงทุนใช้ระบบอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบในการผลิต มีการวางแผนการดำเนินการล่วงหน้าอย่างมีระบบ ทำให้โรงงานของเราทำงานแบบเข้างานเช้าและเย็นกลับบ้าน เสาร์อาทิตย์ไม่ทำงาน เพื่อเป้าหมายให้พนักงานมีเวลากับการดูแลสุขภาพ และใช้เวลากับครอบครัว เราเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ สร้างการเติบโต และสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจ” น.สพ.ธนันต์ กล่าว

โมเดลธุรกิจ Solution Provider จุดต่างเหนือคู่แข่ง

ภวาทิพย์  ลีละยูวะ Head of Finance and QMR Solution Provider บริษัท พี.วี.ที. แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด กล่าวว่า วิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัท คือ ต้องอยู่ภายใต้คุณธรรมจริยธรรม และความรับผิดชอบเพื่อความปลอดภัยของสัตว์ ในฐานะผู้ผลิตที่เป็นจุดเริ่มต้นห่วงโซ่อาหารของสัตว์ ไม่ได้มองตัวเองเป็นการซื้อมาขายไปสินค้าเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งธุรกิจจะเติบโตได้จะต้องมีสินค้าที่เป็นของตัวเอง ผลิตได้เองและที่สำคัญสิ่งที่ทำให้ธุรกิจแตกต่างจากคู่แข่งคือ มีนวัตกรรมให้กับลูกค้า ไม่ใช่เพียงแค่ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ แต่ยังมีบริการออกแบบ การติดตั้งเครื่องจ่ายน้ำยาสำหรับสารถนอมคุณภาพอาหารสัตว์ในโรงงานผลิตของลูกค้า มีบริการดูแลหลังการขาย

สำหรับลูกค้าหลัก ได้แก่ กลุ่มผู้ผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ของประเทศทั่วไป รวมถึงบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และมีการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV และ MSCI และในปี 2566 นี้ พี.วี.ที. แมนูแฟคเจอริ่ง ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI และการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) เพื่อขยายโรงงานการผลิต มีผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology)

บริษัทให้ความสำคัญด้านนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีการร่วมกับหน่วยงานวิจัยต่าง ๆ และมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ เพื่อเรียนรู้ พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมของประเทศ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทมีเป้าหมายและนโยบายด้าน ESG อย่างชัดเจน

Bai Po Business Awards by Sasin การันตีความภูมิใจ

บริษัท พี.วี.ที. แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ได้รับรางวัล Bai Po Business Awards by Sasin ครั้งที่ 18 ในมิติองค์กรที่มีการสร้างสรรค์นวัตกรรม (Innovative Enterprise) การบริหารจัดการด้านสินค้าและบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า (Customer-Focused Product and Service) และการสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) 

โดย น.สพ.ธนันต์  ลีละยูวะ มองว่า เป็นรางวัลที่ทำให้เกิดความภูมิใจในการทุ่มเททำธุรกิจที่ผ่านมา ความไม่ประมาท การไม่หยุดพัฒนา การสร้างสรรค์นวัตกรรม และทำออกมาได้จริง การเสมอต้นเสมอปลาย คือสิ่งที่จะทำให้เราก้าวต่อไป ขอบคุณลูกค้าที่เชื่อมั่นเรา เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์และบริการของเรา เราเชื่อว่าถ้าลูกค้าเราเติบโต เราเองก็เติบโตด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ รางวัล Bai Po Business Awards by Sasin เกิดจากความร่วมมือระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์และสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เล็งเห็นความสำคัญใน การส่งเสริมเอสเอ็มอีไทยให้แข็งแกร่งพร้อมผลักดันให้เข้มแข็งและสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืนภายใต้การแข่งขันที่รุนแรงในยุคดิจิทัลดิสรัปชัน

Naiin x Dek-D สร้างคอมมูนิตี้ เจาะกลุ่ม New Gen ชูคอนเซ็ปต์ “อ่านดี เรียนดี ชีวิตดี”

สถานทูตไทย-สวีเดน จับมือ เอสซีจี ผลักนวัตกรรมจัดการป่ายั่งยืนระดับโลก ตัดไม้แต่ได้ป่า

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ