TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessเอไอเอส ส่งตรง “โอลิมปิก โตเกียว 2020” ทุกแมตซ์การแข่งขัน ครบจบที่เดียว ที่ AIS PLAY

เอไอเอส ส่งตรง “โอลิมปิก โตเกียว 2020” ทุกแมตซ์การแข่งขัน ครบจบที่เดียว ที่ AIS PLAY

กีฬาโอลิมปิกส์ คือ ที่สุดของมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติ ทุกครั้งที่ผ่านมามีคนทั่วโลกมีส่วนร่วมในการติดตามชม เชียร์ และกำลังในนักกีฬาโอลิมปิกส์จำนวนมาก แต่ครั้งนี้ ด้วยวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้โอลิมปิกเกมส์ถูกเลื่อนการจัดการแข่งขันมา 1 ปี แต่โอลิมปิกส์ โตเกียว 2020 กำลังจะเปิดฉากอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 กรกฎาคม 2021 

ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกของโอลิมปิกเกมส์ที่จะไม่มีคนดูอยู่ในสนาม แต่ด้วยศักยภาพของโครงข่ายสื่อสารความเร็วสูงของผู้ให้บริการโทรคมนาคมอย่างเอไอเอส ทำให้นักกีฬาไทยทั้ง 41 ชีวิต ที่จะลงแข่งในกีฬา 14 ประเภทกีฬา จะไม่ห่างไกลจากแรงเชียร์เลย เพราะเอไอเอสจะทำการถ่ายทอดสดการแข่งขันทุกรายการส่งตรงเข้ามาที่คนไทยทุกคนในระดับคุณภาพแบบ Full HD 

ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวว่า เอไอเอส มีความตั้งใจและมีความในการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทอดสดกีฬา “โอลิมปิก โตเกียว 2020”  ในฐานะ Official Broadcaster อย่างเป็นทางการ เอไอเอสจะถ่ายทอดกีฬา “โอลิมปิก โตเกียว 2020” ทุกกีฬา ซึ่งทั้งหมดมี 50 ประเภทกีฬา รวมแล้ว 339 events คิดเป็นจำนวนชั่วโมงการถ่ายทอดรวมทิ้งสิ้น มากกว่า 4,800 ชั่วโมง ครอบคุลมนักกีฬากว่า 11,000 คนจาก 200 ประเทศทั่วโลก

การถ่ายทอดครั้งนี้เอเอสจะถ่ายทอดในระบบ Full HD ทุกคนในประเทศไทยจะได้รับชมทุกกีฬา 50 ประเภทในรูปแบบที่คมชัดในระดับ Full HD 

ในการถ่ายทอดกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ เอไอเอสเตรียมไว้ 16 ช่อง ผ่าน AIS PLAY แบ่งเป็นช่อง 1,2,3 ที่รวมกีฬาไทยที่ไปแข่งขันที่โอลิมปิกและกีฬาที่ไฮไลท์ในโอลิมปิกในครั้งนี้ที่นักกีฬาไทยไม่ได้แข่งด้วย ที่จะมีสปอร์ต กูรู กว่า 30 คน มาให้ความคิดเห็นและพูดคุยพร้อมกับการแข่งขัน และอีก 13 ช่อง (คือช่องที่ 4 ถึงช่อง 16) ที่เรียกว่าเป็น exclusive original ถ่ายทอดตรงมาจากโตเกียวสำหรับลูกค้าของเอไอเอสที่จะรับชมแบบ original ในกีฬาหลากหลายประเภท

“ช่อง 1, 2, 3 มีสปอร์ตกูรูพากษ์ และมีการรีรัน ช่อง 4-16 เป็นเสียงจากออรินัล ไม่มีพากย์ เหมือนนั่งดูอยู่ที่ขอบสนาม ส่วนการรีรันจะอยู่ในรูปแบบของวิดีโอออนดีมานด์ เอไอเอสมีรีรันทุกแมทซ์ครบถ้วนหากดูไม่ทัน” ปรัธนา กล่าว

สามารถเข้าไปเช็กตารางการแข่งขันได้ที่ www.ais.th/olympics ว่าแต่ละวันมีการแข่งขันกีฬาประเภทอะไรบ้างวันเวลาใดบ้าง โดยที่ AIS PLAY สามารถเข้ารับชมได้ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันผ่านโทรศัพท์มือถือ แท็ปเล็ต พีซี รวมถึง AIS PLAY Box, smart TV และ Apple TV ทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ สามารถเข้ารับชม AIS PLAY ได้อย่างเต็มรูปแบบ

ทุกคนในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเอไอเอสหรือไม่ สามารถเข้าเว็บไซต์และดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน AIS PLAY ได้ ช่อง 1,2,3 รับชมได้ทุกคน ช่องกีฬาที่คนไทยเข้าแข่งขัน กีฬาสำคัญ ๆ และมีพี่ ๆ สปอร์ตกูรูร่วมพากษ์ พูโคุย และให้ข้อมูล ส่วนช่อง 4-16 ที่เราเตรียมมาโดยเฉพาะที่เป็น original sound จากการถ่ายทอดตรง จะเป็นสำหรับลูกค้าเอไอเอส

“ขอบคุณกลุ่มพันธมิตรที่ร่วมกันนำการถ่ายทอดในช่องต่าง ๆ ไปถึงประชาชน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเนชั่น ข่าวสด มติชน PPTV Manager และ Siam Sport” ปรัธนา กล่าว

พิธีเปิดตรงกับวันที่ 23 กรกฎาคม เวลาในประเทศไทย 18:00 น. United by Emotion เป็นธีมของงานเปิด ในขณะที่ทุกคนไม่สามารถมาอยู่รวมกันได้ แต่จะเป็นความรู้สึกที่จะร่วมกันได้ในพิธีการเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ 

ปรัธนา กล่าวว่า เอไอเอสมีความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการนำกีฬาระดับโลกมาถึงคนไทย และอยากชวนให้เชียร์ไปพร้อมกัน ณ ขณะนี้ ประเทศไทยและทั่วโลกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเนื่องจากโควิด เอไอเอสตั้งใจขอเป็นส่วนหนึ่งในกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ ที่จะนำความร่วมแรงร่วมในที่จะเชียร์กีฬาไทยมาเป็นสิ่งดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงนี้

“เวลาเราดูกีฬาโอลิมปิก จะได้แรงบันดาลใจในหลากหลายแง่มุม อย่าว่าแต่เยาวชนเลย แม้แต่ตัวเราเอง เมื่อเห็นความพยายามตั้งใจ ทีมเวิร์ค ความมุ่งมันในทุก ๆ การแข่งขัน เราเห็นโอลิมปิกฮีโร่ในหลากหลายมิติ เป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญ” ปรัธนา กล่าว

บทบาท Official Broadcaster และความพร้อมของโครงข่าย

Official Broadcaster บนช่องทางอินเทอร์เน็ต คือ สิ่งที่เอไอเอสนำมาให้กับคนไทย แต่ละช่องที่เป็น Territorial TV ก็มีการถ่ายทอดสดด้วยในแมทซ์ที่ได้รับสิทธิ์การถ่ายทอดการแข่งขันโอลิมปิกส์มา

เอไอเอสมีความเชื่อว่า เอไอเอสสร้างเครือข่ายดิจิทัลความเร็วสูงไม่ว่าจะเป็นเครือข่าย 5G และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปถึงบ้านด้วยข่ายสายไฟเบอร์ สร้างถนนดิจิทัลที่มีขนาดใหญ๋มาก พร้อมรองรับในการนำสิ่งที่ดีมาสู่ลูกค้าและประชาชน วันนี้อินเทอร์เน็ตถือเป็นไฮเวย์ขนาดใหญ่ที่สามารถจะส่งผ่านข้อมูล ข่าวสาร บันเทิง และกีฬา และโอลิมปิก ถือเป็นกีฬาระดับโลก เอไอเอสเองมีความต้องใจที่จะมีส่วนร่วมในการถ่ายทอดกีฬาระดับโลกนี้ และมีความมั่นใจว่าด้วยศักยภาพของอินเทอร์เน็ต และแพลตฟอร์มที่เอไอเอสมีอยู่สามารถสร้างประโยชน์ได้

“วันนี้ ยอดการใช้งานของ AIS PLAY เดือนละหลายล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคอนเทนต์บันเทิงและข่าว เรามีความเชื่อว่า AIS PLAY จะเป็นเครื่องมือที่จะนำคอนเทนต์กีฬาระดับโลกมาถึงคนไทยทุกคน เรามีความมั่นใจและเตรียมพร้อมในทุกสถานการณ์ในการถ่ายสดการแข่งขันรวมถึงนำเนื้อหาต่าง ๆ มาถึงลูกค้า ถึงคนไทยทุกคน มั่นใจว่ามีเพียงพอต่อการรับชม” ปรัธนา กล่าว

การถ่ายทอดโอลิมปิกคราวที่แล้วของเอไอเอส เป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ การชมถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาที่มีแมทซ์จำนวนมากอาจจะยังไม่เป็นที่คุ้นเคยในเมืองไทย คนส่วนใหญ่ใช้แบบผสมผสาน คือ ดูทีวีด้วย ดูอยู่บนมือถือด้วย แต่ครั้งนี้ เริ่มจากการที่ทำให้ประชาชนทราบว่ากีฬาอะไรถ่ายทอดเวลาไหนมีความสำคัญ เพราะรายละเอียดของกีฬามีความหลากหลายในช่วงของกรแข่งขันจริง ซึ่งเอไอเอสมีความตั้งใจในการทำแหล่งรวมของข้อมูล เพราะว่าถ่ายทอดทั้งหมด 16 ช่อง มีข้อมูลมหาศาล 

กีฬาที่คนไทยแข่ง และกีฬาสำคัญ ๆ บางครั้งหลายท่านอาจจะไม่รู้ที่มาที่ไป สปอร์ตกูรูทุกท่านที่ร่วมกับเอไอเอส ถือเป็นแรงสำคัญที่ทำให้ผู้ชมได้รับทราบและได้รับออรถรสรายละเอียดของกีฬาอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ เอไอเอสได้ผลิตรายการเสริมขึ้นมาสำหรับโอลิมปิก โตเกียว 2020 ซึ่งเริ่มออกอากาสใน AIS PLAY อาทิ “Road to Olympics” หรือว่า “คนติดธง” เป็นต้น

“เป้าประสงค์ของเอไอเอส คือ การนำกีฬาโอลิมปิกส์มาให้คนไทยได้รับชมกันอย่างเต็มที่ เชื่อว่าโครงข่ายดิจิทัลที่เรามี รวมถึง AIS PLAY จะทำให้เราสามารถที่จะตอบสนองต่อการเข้าชมได้ทั้งประเทศ ไม่ว่าจะกี่สิบล้านคน เป็นความตั้งใจโดยเฉพาะ” ปรัธนา กล่าว

ลูกค้าโทรศัพท์มือถือในไตรมาสที่ผ่านมามี 42.7 ล้านหมายเลข ลูกค้า AIS Fibre มี 1.4 ล้านราย ลูกค้าเหล่านี้สามารถเข้าชม AIS PLAY ได้ รวมถึงแม้กระทั่งไม่ใช่ลูกค้าของเอไอเอสก็สามารถดาวน์โหลด AIS PLAY หรือเข้าทางเว็บไซต์ เพื่อเข้าชมช่องต่าง ๆ ที่กล่าวถึงได้

“ไม่มีครั้งไหนเลยที่คนไทยสามารถชมทุกกีฬาในทุกสนามที่มีการแข่งขัน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก และทำแบบนี้ได้เพราะศักยภาพของโครงข่ายดิจิทัล เราเองตั้งใจว่าโครงข่ายที่สร้างขึ้นมา นอกจากจะทำการสื่อสารและให้ประโยชน์อย่างอื่น ๆ แล้ว การถ่ายทอดครั้งนี้ถือเป็นประโยชน์ในการทำให้ประชาชนเข้าถึงกีฬาระดับโลกครั้งนี้” ปรัธนา กล่าว

นอกจากนี้ เอไอเอสเตรียมการถ่ายทอดกีฬาพาราลิมปิกคู่ขนานกับการถ่ายทอดโอลิมปิกเกมส์ หลังจากจบโอลิมปิกส์ฤดูร้อน เอไอเอสจะถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกต่อ เอไอเอสมีความพร้อม

สปอร์ตกูรูเพิ่มความรู้และอรรถรสการชมและเชียร์

วีระศักดิ์ นิลกลัด นักพากย์กีฬาแถวหน้าของไทย กล่าวว่า “โอลิมปิก โตเดียว 2020” ครั้งนี้ ถูกสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ถูกเลื่อนมา 1 ปี และครั้งนี้จะเป็นโอลิมปิกครั้งแรกที่จะไม่มีคนดูในสนาม

“ผมบรรยายโอลิมปิกเกมส์มาตั้งแต่ปี 1992 ที่บาเซโลน่า ไม่มีครั้งไหนที่แฟนกีฬาชาวไทยจะได้ชมกีฬาทุกชนิด ทุกประเภท 480 ชั่วโมง เพราะที่ผ่านมาเป็นฟรีทีวีที่ถ่ายทอดสดให้ชม มีช่วงจำกัดเวลา และส่วนใหญ่ที่ถ่ายทอดจะเป็นประเภทกีฬาที่มีนักกีฬาไทยลงแข่ง และกีฬามหาชน กีฬายอดนนิยม อย่างฟุตบอล กรีฑา และว่ายน้ำ และจำกัดช่วงเวลา นี่เป็นครั้งแรกที่คนไทยจะได้ชมทุกแมทซ์การแข่งขันผ่านช่องทางที่เป็นลิขสิทธิ์ที่ถูกต้อง” วีระศักดิ์ กล่าว

โอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ใกล้คนไทยมาก ด้วยเรื่องเวลาที่ต่างกันแค่ 2 ชั่วโมง สามารถดูสด ๆ ได้ ได้สัมผัสบรรยากาศแบบสด ๆ ได้

“เราอาจจะเชียร์นักกีฬาไทยได้หลายช่องทาง แต่กีฬาประเภทอื่น ๆ กีฬาระดับโลก ทุกแมทซ์ เลือกชมได้ แต่ละประเภทกีฬาน่าสนใจ น่าชมทั้งสิ้น เอไอเอสตั้งใจให้คนไทยได้ชม เพราะฉะนั้นไม่ควรพลาด” วีระศักดิ์ กล่าว

ทรงศักดิ์ วรรณวิจิตร สุดยอดนักจัดรายการจาก FM 99 Sport Radio กล่าวว่า โอลิมปิกครั้งนี้มีกีฬาใหม่ที่น่าสนใจ 6 ชนิดกีฬา คือ กีฬาเอ็กซ์สตรีม อาทิ สเกตบอร์ด เซิร์ฟ (Surf) และปีนหน้าผา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่กีฬาเหล่านี้ถูกบรรจุอยู่ในโอลิมปิกเกมส์ รวมถึงคาราเต้ เบสบอล (สำหรับนักกีฬาชาย) และซอฟต์บอล (สำหรับนักกีฬาหญิง) ซึ่งเบสบอลและซอฟต์บอลเป็น 2 กีฬาที่กลับเข้ามาอยู่ในโอลิมปิกเกมส์ หลังจากที่หลุดไปตั้งแต่ปี 2008 ที่กรุงปักกิ่ง 

กระแสโอลิมปิกเเกมส์ เริ่มตั้งแต่การวิ่งธง ที่วิ่งกัน 4,000 กิโลเมตรทั่วประเทศไทย และมีตูน บอดี้สแลม วิ่งเป็นคนสุดท้ายนำธงไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ กระแสตอนนั้นดีมาก ทำให้รู้ว่าคนไทยจะไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ส่วนกระแส ด้วยความที่ฟุตบอลยูโรเพิ่งจบไป และสถานการณ์โควิด-19 ที่ทุกคนต้องอยู่บ้าน ได้ดูกีฬาโอลิมปิกเกมส์ อยู่บ้านได้ดู และไทยมีโอกาสลุ้นหลายเหรียญรวมทั้งเหรียญทอง

ชนาธิป ช้อนขำ อดีตนักกีฬาเทควันโดหญิงเหรียญทองแดงโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2012 กล่าวว่า ความแตกต่างของสถานการณ์การแข่งขัน บรรยากาศตอนที่เคยไปแข่งขันมีสีสัน ทั้งสนามกีฬา หมู่บ้านนักกีฬา จะมีนักกีฬามากมาย ทำให้บรรยากาศการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกน่าติดตามมาก แต่ทว่าครั้งนี้ไม่สามารถใช้รูปแบบของการแข่งขันปกติได้ นักกีฬามีการฝึกซ้อมที่ยากลำบากขึ้น ในสถานการณ์โควิด อาทิ ความเตรียมพร้อมของหลายชนิดกีฬาเป็นปัญหา การเก็บตัวฝึกซ้อมที่ไม่สามารถรวมตัวกันได้ หรือเดินทางมาเพื่อฝึกซ้อมเหมือนปกติ

เมื่อไปถึงสนามและหมู่บ้านนักกีฬา ด้วยมาตรการต่าง ๆ ทำให้นักกีฬาก็ไม่สามารถซ้อมได้ตามปกติ จะไปใช้พื้นที่ส่วนรวมแบบเดิมไม่ได้ อาทิ การ warm-up ในฟิตเนส หากละเมิดจะถูกตัดสิทธิ์ในการแข่งขันทันที ทำให้นักกีฬาต้องมีความพร้อม ความรับผิดชอบ และต้องโฟกัส 

นักกีฬาทั้ง 41 คนส่วนมากผ่านโอลิมปิกมาแล้ว 2-3 ครั้งเป็นอย่างน้อย หลายคนมาตามล่าความฝันที่อยากได้ชัยชนะในโอลิมปิกส์ เกมส์ ทุกคนมีความพร้อมมาก แม้สถานการณ์อาจจะไม่พร้อม แต่ใจพร้อมมาก 

“การติดตาม การชมกีฬาโอลิมปิกส์เกมส์​ เป็นการสร้างแรงบันดาลใจ จุดเริ่มต้นของการเล่นกีฬา มาจากการดูกีฬาก่อน เรามีแรงบันดาลใจ เรามีไอดอล มีตัวอย่าง อยากเป็นแบบพี่เขา อยากมีโอกาสเหมือนเขา จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ตรงนี้กลายเป็นความฝัน และขับเคลื่อนมาด้วยความตั้งใจว่าครั้งหนึ่งในชีวิต เราอยากจะไปแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ ทำให้ฝึกซ้อมอย่างหนัก จนได้เป็นตัวแทนทีมชาติไทย จนมีโอกาสได้ไปโอลิมปิกส์เกมส์” ชนาธิป กล่าว

จากการดูกีฬาในตอนเด็ก ๆ เป็นการปลูกฝัง ให้แรงบันดาลใจ ให้พลังใจต่าง ๆ ให้น้อง ๆ เด็ก ๆ เยาวชน ว่าการที่เราจะเข้าร่วมได้ การที่เราจะเป็น (นักกีฬา) ไอดอลแบบที่เห็น มีโอกาสกันทุกคน ได้ติดตามกีฬา ได้เห็นเทคนิคของต่างประเทศ ได้เห็นบรรยากาศการแข่งขัน ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี เปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้สไตล์การแข่งขันของนักกีฬาต่างประเทศด้วย คิดว่าตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับเยาวชนไทยและคนทั่วไป ได้เห็นความตั้งใจของนักกีฬาที่ขับเคลื่อนตัวเองจนมาถึงความสำเร็จในการแข่งขัน

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ