TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyเปิดเคล็ดลับการครองตลาด และกลยุทธ์เอปสัน กับ 'ยรรยง มุนีมงคลทร'

เปิดเคล็ดลับการครองตลาด และกลยุทธ์เอปสัน กับ ‘ยรรยง มุนีมงคลทร’

“ไม่ยึดติดกับความสำเร็จในอดีต” คำบอกเล่าที่เรียบง่าย แฝงความถ่อมตัว ของ ยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด หากกลายเป็นพลังอันยิ่งใหญ่สำหรับการก้าวสู่อนาคต ที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่หยุดยั้งของโลกยุคใหม่ที่คนในแวดวงธุรกิจ รวมถึงคนทั่ว ๆ ไปต่างสัมผัสและรับรู้ได้

การนำพาเอปสันครองผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท และโปรเจกเตอร์ในประเทศไทยยาวนานหลายปีถึงปัจจุบัน คือข้อพิสูจน์ความสามารถของยรรยงได้เป็นอย่างดี แต่หากยึดติดกับอดีต ก็จะไม่มีก้าวต่อไป

จากความไม่ยึดติดนี้ กลายเป็นพลังขับเคลื่อนงานในความรับผิดชอบ ทั้งการวางแผนและกำหนดกลยุทธ์ เพื่อผลักดันยอดขายและขยายตลาดสำหรับทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาศักยภาพทีมงานเอปสัน ประเทศไทย ให้เดินหน้าสู่สิ่งใหม่ ด้วยหลักการทำงาน “รับผิดชอบ สร้างความเชื่อมั่น” โดย‘อะไรที่ทำได้ จะทำเต็มที่’

โลกยังก้าวสู่ดิจิทัล

ผู้อำนวยการบริหาร ไล่เรียงสถานการณ์ที่ต้องฝ่าฟันในปีที่ผ่านมาว่า โลกเผชิญสภาวะอัตราเงินเฟ้อที่เรื้อรังและต่อเนื่อง สงคราม เศรษฐกิจ น้ำมัน พลังงานที่ฉุดรั้งการเติบโต ส่วนในประเทศยังมีสถานการณ์หนี้สินในครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น อำนาจซื้อในครัวเรือนลดลง

ท่ามกลางปัจจัยลบ แต่ยังมีข้อดีที่โลกยังก้าวสู่ดิจิทัล (Digitalization) อย่างต่อเนื่อง การปรับเปลี่ยนจาก Manual สู่ Digital ยังดำเนินต่อไป การพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ Sustainability ที่การใส่ใจสิ่งแวดล้อมมีบทบาทชัดเจนล้วนเป็นปัจจัยหนุนระดับโลก

เอปสัน ชูวิสัยทัศน์ ยึดความยั่งยืน สร้างอนาคตทางธุรกิจ เติมรุ่นเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเพื่อธุรกิจแน่นทั้งไลน์

ปัจจัยสนับสนุนในประเทศไทย มาจากภาคธุรกิจเอกชนและหน่วยงานราชการต่างลงทุนอุปกรณ์ไอที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสถาบันการศึกษาจำนวนมาก เริ่มนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปใช้ในกระบวนการเรียนการสอนเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายของภาครัฐผ่านโครงการต่าง ๆ

นอกจากนี้ การที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง ทำให้การจัดกิจกรรมการตลาดมีเพิ่มขึ้นอย่างมาก อีกทั้งการกลับมาให้บริการของสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศได้เป็นปกติ รวมถึงภาคการผลิตของไทย ก็ยังใช้ระบบซัพพลายเชนภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง และปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์เริ่มคลี่คลาย

ตลอดจนข่าวคราวการเลือกตั้งครั้งใหม่ ส่งผลให้เกิดการใช้จ่ายด้านไอที เช่น งานพิมพ์เอกสาร งานโปสเตอร์ ล้วนส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมไอที

เติบโตกว่า 10% ต่อเนื่อง

ในส่วนของเอปสัน ท่ามกลางธุรกิจเทคโนโลยีที่แข่งขันสูง ปี 2565 ที่จะสิ้นสุดในเดือน มี.ค. นี้ รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มของเอปสันยังคงมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 10% ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 นับจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งคาดหวังจะรักษาการเติบโตในปี 2566 ได้ต่อไป นับเป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ความสามารถของผู้บริหารไทยคนนี้

ปีที่ผ่านมา กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเอปสันคือ กลุ่มสินค้าเครื่องพิมพ์อุตสาหกรรมที่เติบโตสูงที่สุด 170%

“เอปสันทำกิจกรรมการตลาดเพื่อแนะนำสินค้าอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความมั่นใจของผู้บริโภคในแบรนด์เอปสันที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการพิมพ์ ทำให้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาด”

ถัดมาคือกลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมโปรเจกเตอร์ที่เติบโต 64% เป็นผลจากจำนวนลูกค้าติดตั้งโฮมเธียเตอร์ระดับไฮเอนด์ภายในบ้านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากกระแสความสนใจชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคในการดูภาพยนตร์แบบส่วนตัวภาย ในบ้านมากขึ้น

อันดับที่ 3 คือ กลุ่มเครื่องพิมพ์สิ่งทอระบบดิจิทัล เติบโต 52% จากแรงหนุนการฟื้นตัวของภาคธุรกิจโดยรวม

ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เติบโตดี ได้แก่กลุ่มผลิตภัณฑ์โปรเจกเตอร์ความสว่างสูง เติบโต 43% กลุ่มเครื่องพิมพ์มินิแล็บ เติบโต 29% เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทขนาดใหญ่ที่นำเข้าทำตลาดแข่งขันกับกลุ่มเครื่องถ่ายเอกสาร มียอดขายเพิ่มขึ้น 23% สะท้อนความสำเร็จในการเข้าชิงส่วนแบ่งตลาดเครื่องถ่ายเอกสารตามสำนักงานที่ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์อยู่เดิม

เอปสันชี้ ตลาดเลเซอร์โปรเจคเตอร์ทั่วโลกฟื้นตัว ล่าสุด เปิดตัว EB-PU2200 ความสว่างสูง เครื่องเล็กสุดในโลก

ส่วนตลาดที่ไม่เติบโตคือ กลุ่มโรโบติก จากการชะลอการลงทุนของลูกค้าฮาร์ดดิสก์ เพราะกำลังซื้อทั่วโลกลดลง (จำนวนชิ้นลดลง 11% , มูลค่าลดลง 13%) ส่งผลให้การรับรู้รายได้ส่วนนี้ลดลง แต่หวังว่าจะกลับมาในปี 2566

สร้างความเคลื่อนไหวใหม่ผ่านกลยุทธ์ ‘New 5’

จากเป้าหมายการเติบโตปี 2566 บริษัทวางกลยุทธ์ให้สอดรับการเปลี่ยนแปลงช่วง Post Covid-19 โดยเน้นสร้างความเคลื่อนไหวใหม่ ๆ แก่ธุรกิจที่ดำเนินงานอยู่ ผ่านกลยุทธ์ ‘New 5’ ประกอบด้วย New S-curve, New Target, New Business Model, New Service และ New Experience โดยยึดหลักความยั่งยืน (Sustainability) เป็นสารสำคัญที่จะถ่ายทอดผ่านกลยุทธ์ทุกทาง

ทั้งนี้ New S-curve มีเทคโนโลยี Heat-Free เป็นแกนหลักที่จะสร้างการเติบโตต่อไปในอนาคต ร่วมด้วยเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อสร้างความความยั่งยืนให้แก่ผู้ใช้งาน ตามแผนพัฒนาธุรกิจและการลงทุนสู่ความยั่งยืนของไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น

“ที่เห็นได้ชัดเจนคือการที่เอปสันประกาศยุติการจำหน่ายเครื่องพิมพ์เลเซอร์ เดือนธันวาคม 2566 แต่ยังมีหมึกพิมพ์จำหน่ายอีก 5 ปี”

พร้อมเปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันอิงเจ็ทในกลุ่ม WorkForce Enterprise รุ่น AM-Series ที่ใช้หัวพิมพ์ PrecisionCore Heat-Free Technology ที่กินไฟน้อย และออกแบบให้มีชิ้นส่วนประกอบที่ต้องดูแลรักษาน้อย ทำให้บำรุงรักษาง่าย เพื่อมาแข่งขันในตลาดเดียวกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์และเครื่องถ่ายเอกสาร

นอกจากนี้ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เลเซอร์โปรเจกเตอร์ ที่มีแหล่งกำเนิดแสงแบบเลเซอร์ ให้ความสว่างที่สูงกว่าแต่กินไฟน้อยกว่าเทคโนโลยีแบบหลอดภาพกำลังสร้างการเติบโตได้อย่างรวดเร็วในตลาด

New Target จะใช้ความได้เปรียบด้านผลิตภัณฑ์ที่มีจำนวนรุ่นที่หลากหลายที่สุดในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทความเร็วสูงที่เอปสันได้เข้าไปทำตลาดในกลุ่มเครื่องถ่ายเอกสาร

New Business Model ได้เริ่มทำธุรกิจเชิงการบริการ เช่นการนำเสนอรูปแบบบริการการพิมพ์แบบจ่ายรายเดือนอย่าง EasyCare ช่วยให้ลูกค้าควบคุมต้นทุนการพิมพ์ของตัวเองได้ ไม่ต้องสต๊อกหมึก และครึ่งหลังของปี 2566 ยังมีแผนจะเปิดการให้บริการการพิมพ์ภายใต้คอนเซ็ปต์ Epson iPrint AnyWhere สนับสนุนพฤติกรรมผู้บริโภคหลังโควิด-19 ที่มีรูปแบบการทำงานเป็นแบบ Hybrid มากขึ้น โดยจะเริ่มจากกลุ่มมหาวิทยาลัยก่อน

New Experience ได้ลงทุนสร้างโซลูชันเซ็นเตอร์แห่งใหม่ มีกำหนดเปิดให้บริการภายในไตรมาส 3 ปี 2566 โดยจะรวบรวมผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่มาจัดแสดง พร้อมสาธิตและจัดอบรมตัวแทนจำหน่ายและลูกค้าที่สนใจ ให้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานเครื่องจริงก่อนตัดสินใจซื้อ บนพื้นที่ 600 ตารางเมตรออกแบบด้วยแนวคิดด้านความยั่งยืน

New Service ด้านการบริการ โดยเสริมศักยภาพการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย เพิ่มทีมงาน Pre-sales สนับสนุนการทำโซลูชันต่าง ๆ และขยายเครือข่ายการให้บริการหลังการขายของสินค้ากลุ่ม B2B จาก 122 แห่ง เป็น 130 แห่ง สนองการขยายตัวออกไปยังภูมิภาคมากขึ้น

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ซีเมนส์ เตรียมติดตั้งเทคโนโลยีอัตโนมัติ ในโรงงานผลิตยางรถยนต์คอนติเนนทอล

นักวิจัย นาโนเทค ต่อยอด Nano Coating สู่น้ำยาเคลือบพื้นผิวโซลาร์เซลล์ “ลดฝุ่นเกาะ-สะท้อนน้ำ”

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ