TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessKBTG ส่ง Touchless/​Contactless หนุนเมเจอร์สู่ Green Cinema

KBTG ส่ง Touchless/​Contactless หนุนเมเจอร์สู่ Green Cinema

ความบันเทิงจากการชมภาพยนตร์บนจอขนาดใหญ่ยังคงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคนิยมเสพแม้ห้วงเวลาที่ผ่านมาจะมีการล็อกดาวน์และความกังวลเรื่องความสะอาดและปลอดภัยเพื่อตอบโจทย์ตรงนี้ KBTG KBank และ Major ได้ร่วมมือกันทำ Co-Innovation ด้วยการนำเทคโนโลยีไร้สัมผัส 2 ตัวหลักคือ Contactless Menu และ ReKeep มาใช้อำนวยความสะดวกในการซื้อตั๋วของผู้บริโภคที่หน้าโรง 

นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด บริษัท เมจอร์ ซีเนเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมเจอร์ได้ร่วมมือกับ KBank และ KBTG มานานแล้ว ตั้งแต่แอปพลิเคชันของเมเจอร์ที่พยายามทำให้ Seamless ที่สุด คือ ลูกค้าสามารถซื้อ จอง จ่าย และเดินเข้าโรงได้เลย เพราะมี QR Code อยู่แล้ว เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ของเมเจอร์จะยังคงเดินมาซื้อตั๋วก่อนเข้าที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ (คีออส) ซึ่งการนำเทคโนโลยี Touchless และ Contactless มาใช้ ทำให้ลูกค้าไม่ต้องสัมผัสทั้งหน้าจอ ทั้งตั๋วกระดาษ เดินเข้าโรงหนังได้เลย 

“เราเข้มข้นกับมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างมาก ทั้งเรื่องของการทำควาสะอาดโรงหนัง การนำ Touchless และ Contactless มาใช้ เดินเข้าโรงแบบ Seamless เพราะที่หน้าโรงมีตัวอ่าน QR Code ลูกค้าสแกนตั๋วที่ซื้อมาที่อยู่ในมือถือแล้วเด้นเข้าไปดูหนังได้เลย ต้องขอบคุณพันธมิตรทั้ง KBank และ KBTG ที่มาช่วยทำให้การซื้อตั๋วหนังเป็น Seamless ง่ายขึ้น สะดวกสบายขึ้น ไม่ต้องสัมผัส มีความสะอาด”

KBTG ส่ง Touchless/​Contactless หนุนเมเจอร์สู่ Green Cinema
นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด บริษัท เมจอร์ ซีเนเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)

เมเจอร์จะเริ่มทดลองนำเทคโนโลยี Touchless และ Contactless ใช้งานที่ 2 สาขา คือ ที่ พารากอน และรัชโยธิน เริ่ม Rollout ตัวContactless Menu ก่อน และเป็นตัว ReKeep ด้วย จะลอง Test-Learn-Do จากลูกค้า เพื่อนำ Feedback มาปรับแก้ก่อนที่จะ Rollout ทุกสาขาภายใน 2 เดือนหลังจากนั้น

นอกจาก ประโยชน์ที่เกิดกับลูกค้า เรื่องความสะอาด สะดวก สบาย แล้ว การนำเทคโนโลยี Touchless และ Contactless มาใช้ในการซื้อ-จอง-จ่าย ตั๋ว e-Ticket ที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ยังเอื้อประโยชน์กับเมเจอร์ในการลดการใช้กระดาษพิมพ์ตั๋วกระดาษ ซึ่งในปี 2019 มีการพิมพ์ตั๋วกระดาษมากถึง 40 ล้านใบ ซึ่งการลดการใช้ตั๋วกระดาษจะช่วยให้เมเจอร์ประหยัดและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย

นอกจากนี้เทคโนโลยี ReKeep จะสามารถนำมาต่อยอดในเรื่องธุรกิจโฆษณาให้เมเจอร์และพันธมิตรของเมเจอร์ได้ เพราะสามารถพัฒนาฐานข้อมูลลูกค้าเพื่อนำเสนอ “ข้อเสนอ” ที่ถูกใจ ตรงใจลูกค้า ซึ่งสามารถต่อยอดธุรกิจให้เมเจอร์ได้ต่อ 

แผนธุรกิจของเมเจอร์ คือ พยายามทำให้ลูกค้าไปดิจิทัลให้มากที่สุด ปัจจุบัน สัดส่วนที่ลูกค้าซื้อตั๋วผ่านแอปหรือออนไลน์ อยู่ที่ 10% เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก ที่ประเทศจีนสัดส่วนการซื้อผ่านแอปอยู่ที่ 70-80% ซึ่งปี 2021 เมเจอร์มีการปรับปรุงแอปเวอร์ชันใหม่ มีการนำเสนอแบบ Personalized มากขึ้น ถูกใจลูกค้ามากขึ้น อาทิ ลูกค้าที่ชอบดูหนังไทย ชอบดูหนังการ์ตูน ก็จะมีข้อเสนอตรงใจไปนำเสนอ เมเจอร์ตั้งเป้าจะได้สัดส่วนการซื้อตั๋วหนังผ่านแอปประมาณ 20%

“ในอนาคตเมเจอร์เชื่อว่า ดิจิทัล เป็นแนวทางสำคัญที่เราต้องไปต่อ ต้องพึ่งพาพันธมิตรที่เก่งกว่าเรา อย่าง KBTG และ KBank ที่มีเทคโนโลยีที่ซับซ้อนกว่าเราเยอะ อนาคตจะมีสินค้าและบริการที่ร่วมกันพัฒนาร่วมกันอีกหลายเรื่อง” 

KBank ทำให้แอปซื้อตั๋วหนังของเมเจอร์ สะดวกมากขึ้น จะทำให้มียอดคนซื้อตั๋วหนังผ่านแอปมากขึ้นในปีหน้า ปีหน้าแอปจะเน้นเรื่องข้อเสนอแบบ Personalized มากขึ้น นำเเสนอโปรโมชันที่ถูกใจ ผ่านแอปลูกค้าจะตัดสินใจกดซื้อตั๋วผ่านแอปได้ง่ายขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องมี KBTG และ KBank มาช่วยเรื่องการชำระเงิน 

KBTG ส่ง Touchless/​Contactless หนุนเมเจอร์สู่ Green Cinema

“เราจะเน้น Customer Centric โครงการที่ทำร่วมกับ KBTG นี้ สบโอกาสมาก ช่วงเวลาที่คนกำลังกลัวกันอยู่ เรามีเทคโนโลยี Touchless และ Contactless ทั้ง Contactless Menu และ ReKeep ทำให้ลูกค้ามั่นใจมากขึ้นว่ามาดูหนังที่โรงหนังเมเจอร์ปลอดภัยแน่นอน ไม่ต้องสัมผัสจอ ไม่ต้องสัมผัสตั๋ว เดินเข้าโรงหนัง Seamless มาก”

ประโยชน์ต่อมา คือ ช่วยเรื่อง Green Cenima ที่เมเจอร์ทำ คือ ประหยัดตั๋ว รักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ต้องใช้ตั๋วกระดาษอีกต่อไปแล้ว และสามารถต่อยอดได้ เพราะการที่ลูกค้าใช้ ReKeep เมเจอร์สามารถติดต่อกับลูกค้าได้ สามารถที่จะนำเสนอข้อเสนอพิเศษได้ในอนาคต

“คนที่ซื้อตั๋วที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ได้ตั๋วกระดาษ เราจะไม่รู้จักตัวตนของลูกค้าเลย ไม่รู้ว่าเขาใช้กี่ครั้ง ดูหนังเรื่องอะไรบ้าง ดูที่โรงไหนสาขาไหน ด้วย ReKeep เราจะรู้จักลูกค้าของเรามากขึ้น ว่าใครชอบดูหนังอะไรเป็นประจำ ชอบดูที่ไหน เราสามารถต่อยอดการนำเสนอ Personalized ได้ และต่อไปอาจจะต่อยอดเรื่องโฆษณาและกิจกรรมอื่น ๆ ที่อยู่บนลิงก์ของ ReKeep ได้” 

ปัจจุบันเมเจอร์ยังคงโฟกัสที่ธุรกิจโรงหนังเป็นหลัก แต่สิ่งที่กำลังจะ Diversify คือ การทำธุรกิจ Pop Corn ให้ใหญ่ขึ้น ช่วงล็อกดาวน์โควิด-19 ได้ทำ Pop Corn Delivery ได้ดีขึ้นมาก ยอดขายสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บริษัทเปิดตัวบริการ Pop Corn Take Home จะมี Pop Corn ขายในซูเปอร์มาร์เก็ต และจะมี Pop Corn สำหรับไมโครเวฟ ในส่วนของช่องทางค้าปลีกนั้นเมเจอร์กำลังคุยกับพันธมิตรอยู่จะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ว่าจะมี Pop Corn วางจำหน่ายที่ Retail Outlet ที่ไหนบ้าง 

Pop Corn ที่ขายนอกโรงเติบโตทุกเดือน ๆ ละ อย่างน้อย 20% แม้ว่าตอนนี้ยังเป็นสัดส่วนที่ไม่มากเมื่อเทียบกับยอดขาย Pop Corn โดยรวมที่ขายที่โรงหนัง แต่ในอนาคตยอดขย Pop Corn นอกโรงหนังจะมีความสำคัญมากสำหรับเมเจอร์ 

KBTG พันธมิตรเทคโนโลยี

กระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ประธาน กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวว่า เป็นโครงการ Co-Innovation ที่ KBTG และ KBank ทำร่วมกับเมเจอร์ เป็นทั้ง Contactless และ Cashless ซึ่ง KBTG ได้เปิดตัวเทคโนโลยี Contactless ตั้งแต่เดือนเมษายน เพื่อออกมาตอบโจทย์การทำธุรกิจทำงานในช่วงโควิด-19 ที่ลูกค้าผู้ใช้งานไม่ต้องสัมผัสหน้าจอที่มีความเสี่ยง ซึ่งเป็นระบบที่นำมาใช้กับเมเจอร์คือ ระบบ QR-based ที่ตู้คีออสจำหน่ายตั๋ว เมื่อจองรอบ จ่ายเงิน แล้วระบบจะสร้างตั๋วหนังอิเล็กทรอนิกส์ (e-Ticket) มาที่มือถือลูกค้าเลย

KBTG ส่ง Touchless/​Contactless หนุนเมเจอร์สู่ Green Cinema
กระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ประธาน กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG)

ส่วนเทคโนโลยี Touchless จะเริ่มใช้บริการได้วันที่ 26 ธันวาคม เป็นลักษณะของ Contactless Menu เป็น Touchless Navigation ผู้ใช้งานไม่ต้องสัมผัสหน้าจอคีออสเลย (จากเดิมที่ลูกค้ายังต้องสัมผัสหน้าจอตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ) ซึ่งตอบกระแสโควิด-19 ความร่วมมือในการติดตั้งระบบ Touchless และ Contactless ในครั้งนี้ นอกจากจะแสดงความใส่ใจของเมเจอร์ในการนำเสนอบริการไร้สัมผัสแล้วยังเป็นการลดการใช้ตั๋วกระดาษลงด้วย และลดความเสี่ยงในการสัมผัสตั๋วกระดาษไปอีกด้วย 

“ต้องขอบคุณเมเจอร์ที่ให้โอกาสเรา เพราะ Co-Innovation จะเกิดไม่ได้ถ้าพันธมิตรธุรกิจไม่เห็นพันธกิจร่วมกัน ซึ่งทางเมเจอร์มีวิสัยทัศน์ทั้ง Green และ Clean รวมถึงการทำ Seamless และ Digital Experience ทำให้ที่เหลือ คือ ส่วนของการพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งเรามี Technology Stack อยู่แล้ว ถ้าทำจริง ๆ ไม่ง่าย อย่างตัว ReKeep คือ การ Integrate ระหว่าง KBank และพันธมิตร” 

โรงหนังไม่หายไป ไม่มีวันหายไป คลายล็อกดาวน์ คนอยากเข้าโรงหนังเพื่อดูหนัง ไม่มีทางที่จะนั่งดูสตรีมมิ่งที่บ้านได้อย่างสนุกสนานเหมือนมาดูหนังในโรง ซึ่งมี Sense of Belonging ของ Community ย่อม ๆ ที่มาอยู่ด้วยกัน การดูหนังในโรงเป็นความบันเทิงที่ไม่อาจถูกแทนที่ได้ด้วยดิจิทัล 

KBTG ส่ง Touchless/​Contactless หนุนเมเจอร์สู่ Green Cinema

“ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็น การนำร่องก่อน ขั้นต่อไป คือ การขยับเข้ามาเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น จะมีการทำ Co-Innovation กันหลายเรื่องมากขึ้น อาทิ การทำ Personalization ร่วมกัน จะเริ่มเห็นบริการที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคลมากขึ้น การนำเสนอบริการจะต้องอิงความต้องการความชอบของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งลูกค้ามีหลายมิติ ทั้งการเงินและการใช้จ่าย อย่าง KBTG เองก็มีแอป “ขุนทอง” ซึ่งพอเป็นเรื่องของ Lifestyle จะต้องนำเสนอสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าและเอาลูกค้าเป็นตัวตั้ง ซึ่งเป็นการผนึกความแข็งแกร่งระหว่างกันที่มีประโยชน์มาก ๆ” 

เวลาเลือกจับมือกับพันธมิตร สิ่งแรก คือ ต้องเป็นพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์ด้านดิจิทัลร่วมกัน ที่มองออกว่าลูกค้ามีความต้องการอะไร และเทคโนโลยีดิจิทัลสามารถเข้ามาช่วยตอบโจทย์ธุรกิจให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างไร

แนวคิดเรื่องการเป็นพันธมิตรจะเป็น Strategic Partnership เป็นความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ทั้งด้านเทคโนโลยีและธุรกิจ รวมถึงข้อมูลและประสบการณ์ลูกค้า 

KBTG ส่ง Touchless/​Contactless หนุนเมเจอร์สู่ Green Cinema

“แนวทางการร่วมมือของ KBTG กับพันธมิตร คือ Co-Innovation คือ ต้องทำ Sand Box และ PoC ร่วมกัน ซึ่งกับเมเจอร์เรามีการทำ Proof of Concept (PoC) และ Internal Sand Box ที่เราทำร่วมกัน ทำ Design Sprint ร่วมกันตั้งแต่ Used-Cases และ Sceanario ซึ่งทีมของเมเจอร์มานั่งคุยและทำงานร่วมกับทีม KBTG และ KBank” 

ภายใต้ เทคโนโลยี Contactless ของ KBTG ประกอบด้วย 6 เทคโนโลยี แต่ตอนนี้ลองแค่ 2 เทคโนโลยี คือ Contactless Menu กับ ReKeep ต่อไปเมื่อเริ่มทำ Personalization ร่วมกันกับเมเจอร์จะมีความร่วมมือเพิ่มมากขึ้นในส่วนของหลังบ้าน แต่หน้าบ้านอาจจะไม่เห็นอะไรมาก หลาย Cluster ที่ KBTG ไปทำร่วมกันทำ Co-Innovation ในลักษณะของ AI Co-Innovation คือ ทำ AI ร่วมกัน มี Data Scientists สองฝั่งมานั่งรวมกันทำกันทำ 

“เราทำกับพันธมิตรออกมาเป็น Technology Stack ตอนนี้ได้เกือบ 20 Used-Cases ซึ่งกับเมเจอร์ เราเอาเทคโนโลยี 2 เทคโนโลยีที่เห็นเป็นรูปธรรมมาใช้ก่อน ต่อไปจะนำ Technology Service Catalog ที่เรามีมานำเสนอและทำร่วมกันในอนาคต และปีหน้าจะมีการนำเทคโนโลยีที่พัฒนาที่จีนโดยทีม KBTG ที่จีนมาใช้กับเมเจอร์ด้วย” 

KBank พันธมิตรด้าน Payment 

สุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า หลายพฤติกรรมของผู้บริโภคมมุ่งไปยังดิจิทัล แต่เรื่องการดูหนังในโรงภาพยนตร์ ดิจิทัลยังไม่สามารถเข้ามาแทนที่ได้ทั้งหมด ต่อให้มีสตรีมมิ่ง แต่การดูหนังจอใหญ่ ๆ การมาสัมผัสโรงหนังเป็นชีวิตที่ได้อรรถรส เลยคิดว่าทำอย่างไรให้เป็น Hybrid ระหว่างโลก Digital และ Physical ได้ 

KBTG ส่ง Touchless/​Contactless หนุนเมเจอร์สู่ Green Cinema
สุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย

การทำแอปของเมเจอร์ที่จ่ายเงินด้วยดิจิทัล (ซื้อตั๋วผ่านออนไลน์จ่ายเงินผ่านออนไลน์) เป็นส่วนหนึ่งที่พัฒนามาไกลแล้ว แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ยังชอบมาซื้อตั๋วที่หน้าโรงที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ โจทย์ก็คือ ทำอย่างไรให้ 2 ส่วนนี้ คือ Digital และ Physical มาตอบโจทย์ Lifestyle ของลูกค้าได้ลงตัว ประจวบเหมาะกับสถานการณ์โควิด-19 ระบาด และ KBTG มีการพัฒนาเทคโนโลยี Touchless และ Contactless จึงเป็นที่มาของความร่วมมือแบบ Co-Innovation ที่จะผลิตบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงจุด

“เราไม่รู้หรอกว่าลูกค้าชอบดูหนังอะไร แต่โรงหนังรู้ การที่โรงหนังและผู้บริโภครู้จักกันมากขึ้น ซึ่งเราพยายามจะนำบริการทางการเงินไปผูกกับ Lifestyle ของผู้บริโภค ก็จะเป็นสิ่งที่เติมเต็มซึ่งกันและกัน เราพยายามนำเสนอสิ่งที่ต่าง ๆ ให้กับลูกค้าได้ตรงความต้องการมากขึ้น ทั้งบริการทางการเงินและความบันเทิง” 

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ