เมื่อโควิด-19 คือ ตัวเร่งให้ทุกองค์กรต้องเอาจริงเอาจังกับการลงทุนทรานฟอร์มองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันและเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ได้ ความคึกคักในการจับจ่ายใช้สอยและความตื่นตัวที่จะลงทุนในเทคโนโลยีในส่วนต่าง ๆ ขององค์ทุกขนาดเริ่มเกิดขึ้น จึงมีการคาดการณ์ว่าระบบเทคโนโลยีที่จะมีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น คือ ระบบเครือข่าย ระบบคลาวด์ ระบบบิ๊กดาต้า และระบบอัตโนมัติ เป็นต้น
เมื่อทุกอย่างวิ่งขึ้นระบบคลาวด์ ระบเครือข่าย การทำงานของอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ระบบเครือข่ายจึงมีความสำคัญและถูกเรียกร้องให้มีความฉลาดมากขึ้น อรูบ้า บริษัทในเครือ HP Enterprise จึงเข็นสินค้าใหม่ลงตลาด ด้วยการเปิดตัว Aruba ESP แพลตฟอร์มคลาวด์-เนทีฟที่สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนนระบบเครือข่ายอัฉริยะ (Intelligent Edge)
- กสิกรไทย ตั้งบริษัทเทคโนโลยีในจีน เล็งพัฒนานวัตกรรมทางการเงินป้อนจีน-อาเซียน
- SCG แจกทุนป.โท “Data Science” คว้างานแห่งอนาคต
- แบรนด์ใหญ่พ่าย โฮมช้อปปิ้งอัดงบสู้โควิด
ประคุณ เลาหกิตติกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท HPE Aruba กล่าวว่า Aruba ESP หรือ Aruba Edge Services Platform เป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัติโนมัติ ถูกออกแบบมาเพื่อให้ประสบการณ์การใช้งานแบบคลาวด์แก่ผู้ใช้งานที่ส่วนปลาย (Edge) ของระบบเครือข่าย ทำงานได้โดยอัตโนมัติอย่างครบวงจร สามารถวิเคราะห์ข้อมูลครอบคลุมทุกโดเมน ตรวจสอบความผิดปกติและสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานได้ด้วยตัวเอง สามารถดูแลและรักษาความมั่นคงปลอดภัยจากอุปกรณ์ที่ไม่รู้จักซึ่งเชื่อมต่อเข้ามาในระบบเครือข่ายได้
การเข้าสู่ยุคของการวิเคราะห์ข้อมูลที่ขับเคลื่อนโดย IoT, AI และระบบอัตโนมัติ (Automation) ที่ได้รับการสนับสนุนด้วยการประมวลผลและระบบเครือข่ายที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแอปพลิเคชันและภาระงานใหม่ ๆ ซึ่งทำงานประสานกันอยู่บนระบบคลาวด์
การปฏิบัติงานอยู่ที่ส่วนปลายของระบบเครือข่าย (Edge) เป็นผลให้องค์กรต่างสร้างข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างจำนวนมหาศาลขึ้นมาซึ่งหากนำมาวิเคราะห์และดำเนินการอย่างเหมาะสมแล้วสามารถใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน สร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ผู้ใช้และทำให้เกิดผลลัพธ์ใหม่ ๆ ที่ดีทางธุรกิจได้
กุญแจสำคัญในการเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์เหล่านี้ให้กลายเป็นการกระทำที่มีความหมาย คือ การวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลนี้ ณ จุดกำเนิด (คือที่ Edge) เป็นจุดที่ซึ่งผู้คน อุปกรณ์และสิ่งต่าง ๆ เชื่อมต่อเข้าสู่โลกดิจิทัล
สุรชัย ชัยยารังกิจรัตน์ ผู้จัดการวิศวกรรมระบบ บริษัท HPE Aruba กล่าวว่า Aruba ESP ใช้ AI และการวิเคราะห์หาต้นเหตุของปัญหาที่มีความถูกต้องมากกว่า 95% ทำให้ระบบเครือข่ายสามารถแก้ไขปัญหาเครือข่ายได้เองโดยอัตโนมัติ ตรวจสอบประสบการณ์ของผู้ใช้งานในเชิงรุก สามารถปรับแก้ระบบเครือข่ายเพื่อป้องกันปัญหาก่อนที่จะเกิดขึ้น และทำการเทียบเคียงกับค่าเบนช์มาร์คที่ใกล้เคียงและให้คำแนะนำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบเครือข่ายได้อย่างต่อเนื่อง
“ในการปรับใช้จริงของลูกค้าพบว่าการใช้ AIOps ส่งผลให้ความสามารถรับส่งข้อมูล (Throughput Capacity) เพิ่มขึ้น 15% และลดเวลาในการแก้ไขปัญหาลงเกือบ 90% เป็นผลรวมทำให้ประสบการณ์ของผู้ใช้และฝ่ายไอทีปรับปรุงดีขึ้นมาก”
Aruba ESP ถูกการออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือองค์กรโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการตรวจวัดจากระยะไกลอัตโนมัติ (Data Telemetry) ในระบบเครือข่ายเพื่อลดการทำงานที่มีความซับซ้อน ด้วยการทำให้งาน IT Operation เป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้น
องค์กรต่าง ๆ จึงสามารถแก้ปัญหาไอทีที่ซับซ้อนได้เร็วขึ้น ในขณะเดียวกันสามารถรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้แก่โครงสร้างพื้นฐานระบบเครือข่ายที่มีเอกภาพได้ทั่วถึงทุกแคมปัส สาขาและตอนนี้รวมถึงสาขาขนาดเล็กเช่นที่บ้านอีกด้วย จึงมีเวลาและทรัพยากรมากขึ้นเพื่อมุ่งทุ่มเทสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ
ทั้งนี้ องค์กรสามารถเลือกใช้บริการได้แบบ as a service บนระบบคลาวด์ หรือฃติดตั้งระบบเอง (On-Premises) และบริการแบบ Manged Service ผ่านพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ ของ Aruba หรือจะเลือกใช้บริการแบบ Network as-a-Service ผ่านทาง HPE GreenLake อีกทั้งยังสามารถเลือกวิธีการชำระเงินได้ตามการใช้งาน โดยลูกค้าสามารถจัดซื้อจัดหาได้ด้วยทางเลือกทางการเงินที่ยืดหยุ่นผ่านทาง HPE Financial Services
