ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่มีมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม ส่งผลถึงบริการด้านการดูแลสุขภาพ หรือ Healthcare เป็นอย่างยิ่ง ทำให้เกิดการดูแลสุขภาพผ่านดิจิทัลโซลูชันต่าง ๆ ที่เป็นการปลดล็อกข้อจำกัดในการให้บริการทางการแพทย์ ให้สามารถเข้าถึงการรักษาได้ง่ายขึ้น ทุกที่ ทุกเวลา ทุกสถานการณ์ ซึ่งปัจจุบันก็มีบริการทางด้านการแพทย์แบบออนไลน์เปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการกันอย่างหลากหลาย อาทิ
บริการโทรเวชกรรมและใบสั่งยาอิเล็กทรอนิกส์ (Telemedicine and e-prescription)
แน่นอนว่าเมื่อนึกถึงบริการด้านการแพทย์ในรูปแบบดิจิทัล หนึ่งในบริการที่เป็นที่รู้จักและเริ่มเป็นที่ต้องการมากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดที่มีผู้ป่วยโควิด-19 ทะลุหลักหมื่นคนต่อวัน ทำให้ผู้คนไม่อยากออกจากบ้านไปไหน คือ บริการโทรเวชกรรม หรือ telemedicine ซึ่งรวมไปถึงบริการให้คำปรึกษาทางออนไลน์ (teleconsultation) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้คนสามารถเข้าถึงและรับคำปรึกษาปัญหาสุขภาพโดยตรงกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญที่หลากหลาย สามารถจัดส่งยาให้คุณถึงบ้าน หรือส่งต่อให้เข้ารับการรักษาอื่น ๆ ได้ เหมือนคุณไปพบหมอที่โรงพยาบาล โดยไม่ต้องเดินทางออกจากบ้าน เป็นการลดโอกาสติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้
- Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G เปิดจองเริ่ม 1,790 บาทต่อเดือน วันนี้ ถึง 9 ก.ย.
- วิศวะมหิดล โชว์หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ฝีมือคนไทย ในงาน AI -Big Data กองทัพเรือ 2564
บริการความเห็นที่ 2 ทางการแพทย์ (Medical Second Opinion Service – MSO)
บางครั้งแพทย์อาจมีการวินิจฉัยจากการตรวจสอบอย่างละเอียดว่าอาการของคุณมีโอกาสเป็นโรคร้ายแรง ไม่ว่าใครก็ต้องมีความกลัว สับสน และกังวลกันทั้งนั้น บริการความเห็นที่ 2 ทางการแพทย์ หรือ Medical Second Opinion Service (MSO) จึงเป็นบริการที่เข้ามาตอบโจทย์ความกังวลนี้ได้ ซึ่งในปัจจุบันแผนประกันหลาย ๆ แผนก็เพิ่มบริการนี้ให้ผู้ที่ถือกรมธรรม์ได้ใช้บริการมากขึ้น โดยบริการ MSO จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงและรับคำปรึกษาเฉพาะด้านจากสถาบันทางการแพทย์ชั้นนำทั่วโลก ไม่ว่าเคสนั้นจะมีความซับซ้อนมากแค่ไหนก็ตาม คุณจะไม่ต้องเสียทั้งเงิน ทั้งเวลา ในการเดินทางไปพบแพทย์แบบตัวต่อตัว เพราะแพทย์จะสามารถวินิจฉัยโรคจากบันทึกการรักษาและให้คำปรึกษาผ่านทางออนไลน์ แล้วแจ้งผลการวินิจฉัยเป็นความเห็นที่ 2 ได้ภายในระยะเวลาไม่กี่วัน
บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ 24 ชั่วโมง (SOS)
อีกหนึ่งบริการที่ช่วยให้เราสามารถมั่นใจและอุ่นใจได้ในกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน กับบริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ 24ชั่วโมง (SOS) ที่พร้อมให้บริการรถพยาบาลและความช่วยเหลือกรณีเคลื่อนย้ายเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง ทั่วโลก รวมถึงบริการอื่น ๆ ทั้งความช่วยเหลือด้านจัดหายาตามใบสั่งของแพทย์หรือการประสานงานกับโรงพยาบาลจนได้รับการรักษาแบบพรีเมียม ทุกที่ ทุกเวลา
ทั้งหมดนี้เพียงบางส่วนของดิจิทัลโซลูชันใหม่ ๆ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการดูแลสุขภาพของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น ทางทีเอ็มบีธนชาต (ttb) และ บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“พรูเด็นเชียล ประเทศไทย”) จึงได้ออกแบบและพัฒนาประกันชีวิตและสุขภาพแบบพรีเมียม ทีทีบี อัลติเมท แคร์ (ttb ultimate care) ที่มอบความคุ้มครองสุขภาพแบบเหมาจ่ายสูงสุด 100 ล้านบาท และบริการด้านสุขภาพระดับพรีเมียม ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถได้รับบริการทางด้านสุขภาพแบบดีที่สุด รวมไปถึงบริการด้านสุขภาพแบบดิจิทัลเซอร์วิส สร้างความคุ้มครองที่อุ่นใจ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้ทั้งในวันนี้และอนาคต ซึ่ง ทีทีบี อัลติเมท แคร์ (ttb ultimate care) ตอบโจทย์ครบรอบด้านด้วยบริการแบบพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็น
มอบความอุ่นใจ ทุกที่ ทุกเวลา
ด้วยความคุ้มครองแบบเหมาจ่ายที่ให้คุณเลือกได้ 50 ล้านบาทหรือ 100 ล้านบาท โดยสามารถเลือกอาณาเขตความคุ้มครองได้ทั่วโลก ที่ช่วยให้คุณมั่นใจว่าจะได้รับมาตรฐานการรักษาและบริการทางการแพทย์ที่ดีที่สุด ตลอด 24 ชั่วโมง ทั่วโลก เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ 24 ชั่วโมงทั่วโลก (SOS) ที่ให้บริการโดย Assist America และบริการความเห็นที่ 2 ทางการแพทย์ทั่วโลก (MSO)ผ่านเครือข่ายของ MediGuide นอกจากนี้ยังครอบคลุมบริการดี ๆ ในประเทศไทย อย่างบริการ Telemedicine และการให้คำปรึกษาทางออนไลน์ (Online Consultation) บนแอปพลิเคชัน Pulse by Prudential สุดยอดแอปพลิเคชันด้านการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร
ครอบคลุมการดูแลด้านสุขภาพที่มากกว่าเดิม ทั้งการตรวจสุขภาพประจำปี และอีกมากมาย
คุ้มครองค่าตรวจสุขภาพ (เฉพาะในประเทศไทย) ค่าตรวจรักษาทางทันตกรรม และค่าฉีดวัคซีน รวมถึงการรักษาโรคมะเร็งแบบออกฤทธิ์จำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง (Targeted Therapy) และการรักษาต่อเนื่องด้วยเวชศาสตร์ฟื้นฟู กายภาพบำบัด นอกจากนี้ยังมีบริการพยาบาลพิเศษสูงสุด 30 วัน ตามคำแนะนำของแพทย์หลังเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
ทีทีบี อัลติเมท แคร์ ยังครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) ด้วยค่าห้องสูงสุด 20,000 บาทต่อวัน ค่ารักษาผู้ป่วยนอก (OPD) แพทย์ทางเลือก และกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน โดยสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเครือข่ายชั้นนำกว่า 400 แห่งแบบไม่ต้องสำรองจ่าย (ความคุ้มครองเป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์) นอกจากนี้ ยังสามารถชำระค่าเบี้ยประกันภัยถูกลง ด้วยการเลือกความคุ้มครองแบบร่วมรับผิดส่วนแรก (Deductible) จึงเหมาะกับคนที่มีแผนประกันสุขภาพอื่น ๆ อยู่ และต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติมให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
