TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มกลับมาเดินทางอีกครั้ง

ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มกลับมาเดินทางอีกครั้ง

ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เมื่อเกิดการระบาดใหญ่ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 3.8 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก และเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งในช่วงต้นปีนี้

ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการเดินทาง และบรรดานักท่องเที่ยวต่างก็กระตือรือร้นที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวให้หนำใจเพื่อชดเชยเวลาที่เสียไป โดยพวกเขาตั้งใจที่จะออกไปเที่ยวให้บ่อยขึ้น หาจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ และใช้โอกาสที่มีให้คุ้มค่ามากที่สุด  

Hermione Joy, Sector Lead, APAC Travel ของ Google กล่าวว่า เพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการและความคาดหวังของนักท่องเที่ยว และโอกาสที่เกิดจากอุปสงค์ที่เริ่มฟื้นตัวสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ Google จึงได้นำข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์การค้นหาล่าสุดบน Google Search มาวิเคราะห์อย่างละเอียด  

ความต้องการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว 

สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่ออ้างอิงจากปริมาณการค้นหาพบว่าความต้องการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียมีการฟื้นตัวเร็วที่สุด ในช่วงเดือนมีนาคม ความต้องการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศฟิลิปปินส์สูงกว่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาด (ปริมาณการค้นหาแตะ 104% ของระดับก่อนเกิดโรคระบาด) ด้านอินโดนีเซียก็ใกล้ฟื้นตัวเต็มที่แล้ว (94%) นอกจากนี้ การท่องเที่ยวขาออกของ 2 ประเทศนี้ก็มีการฟื้นตัวที่เร็วที่สุดเช่นกัน โดยปริมาณการค้นหากลับมาอยู่ที่ 70% ของระดับก่อนเกิดโรคระบาด ส่วนสิงคโปร์รั้งอันดับ 3 ทั้งในส่วนของการท่องเที่ยวขาเข้าและขาออก 

ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 ประเทศไทยมีการเดินหน้าผ่อนคลายมาตรการเกี่ยวกับการเดินทางระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ภาคการท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้กับประเทศคิดเป็นสัดส่วนถึง 20% ของจีดีพี เมื่อมาตรการการเดินทางเริ่มผ่อนคลายลง ความต้องการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ ในเดือนมีนาคม อุปสงค์การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่ที่ 61% ของระดับก่อนเกิดโรคระบาดในปี 2562 ในขณะที่ความต้องการเดินทางไปต่างประเทศก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับปี 2562 ปริมาณการค้นหาลดลง 73% ในเดือนมกราคม และเพิ่มขึ้นเป็น 51% ในเดือนมีนาคม การค้นหา “Thailand Pass” และประกันการเดินทางเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 นอกจากนี้ยังพบว่า 6 ใน 10 ของจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวในต่างประเทศที่อุปสงค์ของคนไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากเป็นประเทศในแถบยุโรป

การท่องเที่ยวภายในประเทศฟื้นตัวเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยในเดือนมีนาคม มีการเติบโตอยู่ที่ 85% ของระดับก่อนเกิดโรคระบาด คนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวในหลากหลายสถานที่ ชายหาดพัทยา หัวหิน เกาะสมุย และป่าตองเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการพักผ่อนและความบันเทิงยามค่ำคืน ความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในเชียงใหม่ ในขณะที่ห้วยสัตว์ใหญ่และสาริกาเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความงดงามของธรรมชาติ

นักท่องเที่ยวต้องการความหรูหราและใส่ใจในความยั่งยืน

แม้ว่าความต้องการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่การทำความเข้าใจและตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของนักท่องเที่ยวก็เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวควรให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน จากเทรนด์การค้นหาเห็นได้ชัดว่าสภาพแวดล้อมทางการท่องเที่ยวในปัจจุบันมีความซับซ้อนกว่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาด

  • ผู้คนใช้เวลาในการค้นหาข้อมูล วางแผน และค้นหาทางเลือกต่างๆ มากขึ้น รวมทั้งแสวงหาความอุ่นใจ และทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการดูแลเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด โดยการค้นหาเกี่ยวกับประกันการเดินทางในสิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้นกว่า 165% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 
  • นักท่องเที่ยวต้องการที่จะอยู่เที่ยวให้นานกว่าเดิม ความสนใจในที่พักให้เช่าระยะสั้น (Vacation Rental) ในหมู่นักท่องเที่ยวชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นกว่า 1010% จากปีที่ผ่านมา สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย พบว่าการค้นหาที่พักให้เช่าระยะสั้นเพิ่มขึ้นถึง 8 เท่า 
  • นักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวให้หายแค้น (revenge travelers) ซึ่งกระตือรือร้นที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวให้หนำใจเพื่อชดเชยเวลาที่เสียไป พร้อมที่จะใช้จ่ายเงินไปกับตัวเลือกการท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยม การค้นหา “boutique hotel” (โรงแรมสไตล์บูทีค) ในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยเพิ่มขึ้นถึง 40% จากปีที่ผ่านมา 
  • นักท่องเที่ยวชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจิตสำนึกด้านความยั่งยืนกันมากขึ้น โดยเฉพาะในสิงคโปร์และฟิลิปปินส์ การค้นหาเกี่ยวกับความยั่งยืนเพิ่มขึ้น 45% จากปี 2562 ในขณะที่การค้นหาเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสิงคโปร์และฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นกว่า 163% และ 156% ตามลำดับ  

การปรับใช้เครื่องมือของ Google เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยว 

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์การเดินทางที่พวกเขาตั้งตารอคอยมาอย่างเนิ่นนาน ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้พวกเขารับมือกับสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อน บนเว็บไซต์ Google Travel ในส่วนของเที่ยวบิน (Flights) โรงแรม (Hotels) และกิจกรรมน่าสนใจ (Things to Do) จะมีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโควิด-19 และนักท่องเที่ยวสามารถค้นหาตัวเลือกการจองที่ยืดหยุ่นได้ นอกจากนี้ยังมีเว็บไซต์ Google Travel Help ที่ช่วยให้ผู้คนเข้าใจนโยบาย ข้อจำกัด และข้อกำหนดพิเศษในการเดินทางได้ง่ายยิ่งขึ้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ เราได้เพิ่มจุดหมายปลายทางเพิ่มเติมในแท็บสำรวจ (Explore) ซึ่งรวมถึงเมืองเล็กๆ และอุทยานแห่งชาติ พร้อมทั้งตัวเลือกในการกรองข้อมูลตามความสนใจ เช่น กลางแจ้ง ชายหาด หรือการเล่นสกี

ไม่เพียงเท่านี้ เรายังช่วยให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเลือกตัวเลือกการเดินทางที่มีความอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้นเมื่อทำการค้นหาข้อมูลและจอง ซึ่งรวมถึงการให้โรงแรมต่างๆ สามารถแสดงป้ายกำกับ “ผ่านเกณฑ์อีโค” ซึ่งจะปรากฏใกล้ชื่อโรงแรม และให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืนของแต่ละแห่ง นอกจากนี้ยังมีการแสดงปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนโดยประมาณไว้ข้างเที่ยวบินแต่ละเที่ยวด้วย 

การสนับสนุนการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

นอกเหนือจากการพัฒนาเครื่องมือสำหรับนักเดินทางแล้ว เรายังทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยให้พันธมิตรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกด้านการท่องเที่ยวและแผนสำหรับอนาคต การใช้ Travel Insights with Google จะทำให้ธุรกิจ ภาครัฐ และคณะกรรมการการท่องเที่ยวสามารถตัดสินใจโดยอิงจากข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและดำเนินการได้อย่างรวดเร็วเมื่อโอกาสมาถึง 

เพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง เราได้ทำให้โรงแรมและบริษัทท่องเที่ยวทุกแห่งสามารถแสดงลิงก์การจองในโปรไฟล์ของพวกเขาได้ฟรี และสามารถดูจำนวนผู้ที่คลิกลิงก์เหล่านั้นได้โดยการสร้างรายงานใน Hotel Center

ขณะนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ผู้คนเริ่มจองตั๋วเครื่องบินและที่พักสำหรับทริปที่พวกเขาเฝ้าใฝ่ฝันถึง (และเก็บเงินไว้สำหรับเที่ยว) มาเป็นเวลานาน พวกเขามีความคาดหวังที่สูงขึ้น รวมถึงประสบการณ์ดิจิทัลที่ราบรื่นตลอดการเดินทาง และพร้อมที่จะใช้เงินและเวลาไปกับการท่องเที่ยวมากกว่าที่เคย ทั้งนี้ ความต้องการท่องเที่ยวที่เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น โดยจุดหมายปลายทางสำคัญๆ เช่น จีนและญี่ปุ่น ยังไม่ได้เปิดให้ท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ 

ยังมีโอกาสอีกมากมายมหาศาลสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่เข้าใจลูกค้าและมอบประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขา เราจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนอีกครั้ง 

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ