ในช่วงที่ระดับเงินเฟ้อปรับตัวสูงต่อเนื่อง แม้จะเริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัวบ้าง ขณะที่ตลาดหุ้นผันผวนทั่วโลก นักลงทุนหลายคนอาจเริ่มมองหาวิธีการลงทุนที่สามารถปรับตัวไปตามสภาวะตลาด เพื่อให้เงินต้นเติบโตในอัตราที่เท่าทันหรือสูงกว่าเงินเฟ้อ ซึ่งเครื่องมือการลงทุนอย่าง “Fixed Coupon Note” (FCN) ตราสารน้องใหม่ของหลักทรัพย์บัวหลวง ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจท่ามกลางสภาวะตลาดเช่นนี้
Fixed Coupon Note (FCN) คืออะไร ขออธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจกันง่าย ๆ แบบนี้ FCN เป็นหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงระยะสั้นอายุประมาณ 6 เดือน โดยมีจุดเด่น คือ สามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนรายเดือนเป็นเงินสดได้ทุกเดือน และสามารถจัดพอร์ตลงทุนเพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าตราสารหนี้ทั่วไป โดยผลตอบแทนที่คาดหวังของ FCN เฉลี่ยปัจจุบันอยู่ในช่วง 8-12% ต่อปี ซึ่งอาจมากหรือน้อยกว่านี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดย FCN จะมีการจ่ายคืนเงินต้นอ้างอิงกับหุ้นในตะกร้าหลักทรัพย์ในสัญญา ซึ่งขึ้นอยู่กับราคาใช้สิทธิ ราคา Knock Out (KO: เปรียบเสมือนราคากรอบบนของสัญญา) และราคา Knock In (KI: เปรียบเสมือนราคากรอบล่างของสัญญา) ทำให้รูปแบบการจ่ายคืนผลตอบแทนเป็นไปได้ทั้งเงินสดหรือรูปแบบของหุ้นอ้างอิง
“FCN จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาเครื่องมือสร้างกระแสเงินสด รับดอกเบี้ยรายเดือน โดยเฉพาะในภาวะตลาด Sideways ที่มีการแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ ที่อาจทำให้นักลงทุนไม่ต้องการเพิ่มการลงทุนในหุ้นอ้างอิงโดยตรงทันที แต่ก็ต้องการให้เงินต้นเติบโตในอัตราที่เท่าทันหรือสูงกว่าเงินเฟ้อ ในขณะที่นักลงทุนควรเข้าใจกลไกและความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้นอ้างอิงโดยตรงและรับความเสี่ยงได้ เนื่องจากมีโอกาสได้รับไถ่ถอนเป็นหุ้นอ้างอิง ดังนั้นการลงทุนใน FCN จะไม่มีการคุ้มครองเงินต้น”
สำหรับวิธีการประเมินผลตอบแทนของ FCN แบ่งออกเป็น 5 กรณี ดังนี้
ตัวอย่างสัญญา FCN อ้างอิงตะกร้าหลักทรัพย์ของหุ้น A และ B / ดอกเบี้ย 12% ต่อปี (เฉลี่ยดอกเบี้ยรายเดือน 1% ของเงินต้น) / อายุ 6 เดือน
- กรณีที่ 1 ไม่เกิดการ Knock Out ขึ้นและไม่เกิดการ Knock In ขึ้น นักลงทุนจะได้รับดอกเบี้ย 1% ของเงินต้นทุกเดือนและรับคืนเงินต้นเต็มจำนวน ณ วันครบกำหนดอายุ
- กรณีที่ 2 เกิด Knock Out ขึ้นในรอบเดือนที่ 3 นักลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยตั้งแต่งวดที่ 1 จนถึงงวดที่ 3 (เกิดการ Knock Out) และรับคืนเงินต้นเต็มจำนวน ณ เดือนที่ 3
- กรณีที่ 3 เกิด Knock Out ขึ้นในรอบเดือนที่ 5 แม้ว่าจะเกิดการ Knock In ขึ้นก่อนหน้าก็ตาม นักลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยตั้งแต่งวดที่ 1 จนถึงงวดที่ 5 (เกิดการ Knock Out) และรับคืนเงินต้นเต็มจำนวน ณ เดือนที่ 5
- กรณีที่ 4 เกิดการ Knock In ขึ้น และไม่เกิดการ Knock Out ขึ้นเลยหลังจากนั้น ทำให้นักลงทุนมีโอกาสได้รับไถ่ถอนคืนเป็นหุ้นอ้างอิง แต่เนื่องจากราคาทั้งหุ้น A และ B ณ วันครบอายุสัญญาสูงกว่าหรือเท่ากับราคาใช้สิทธิ กรณีนี้นักลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยทุกเดือน และได้รับคืนเงินต้นเต็มจำนวน ณ วันครบกำหนดอายุ
- กรณีที่ 5 เกิดการ Knock In ขึ้น และไม่เกิดการ Knock Out ขึ้นเลยหลังจากนั้น ทำให้นักลงทุนมีโอกาสได้รับไถ่ถอนคืนเป็นหุ้นอ้างอิง และณ วันครบอายุสัญญา หุ้น A เป็นหุ้นที่ราคาปรับตัวลงต่ำกว่าราคาใช้สิทธิเป็น % มากที่สุด (LPS) ดังนั้นนักลงทุนจะได้รับไถ่ถอนคืนเงินต้นเป็นหุ้น A และยังคงได้รับดอกเบี้ยครบทุกเดือน กรณีนี้นักลงทุนสามารถถือหุ้น A ต่อได้เพื่อรอการ
ฟื้นตัวในอนาคต
ท่ามกลางสภาวะตลาดแบบนี้ FCN เป็นหนึ่งในทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ เพราะนักลงทุนสามารถรับดอกเบี้ยเป็นเงินสดรายเดือนได้ตลอดการถือครอง โดยผลตอบแทนเฉลี่ยของ FCN อาจมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับทั้งความผันผวนของตะกร้าหุ้นอ้างอิง ระยะเวลาลงทุน ราคาใช้สิทธิ ราคา Knock Out และ ราคา Knock In ซึ่งเปรียบเสมือนกรอบล่างที่ราคาหุ้นอ้างอิงสามารถปรับตัวลดลงไปได้ก่อนนักลงทุนจะมีโอกาสขาดทุนในส่วนของเงินต้น โดยนักลงทุนสามารถกำหนดราคา Knock In ให้ต่ำลงเพื่อช่วยลดโอกาสขาดทุนได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยผลตอบแทนที่ลดลงด้วยเช่นกัน ดังนั้น FCN จึงเป็นทางเลือกการลงทุนที่ผลตอบแทนน่าสนใจและสามารถทำกลยุทธ์ลงทุนที่หลากหลาย พร้อมสร้างกระแสเงินสดรายเดือนได้ในเวลาเดียวกัน
จุดเด่นของสัญญา FCN ของหลักทรัพย์บัวหลวง คือ
- อ้างอิงกับคู่หุ้นที่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างดี ทั้งในแง่ปัจจัยพื้นฐานและสภาพคล่องการซื้อขาย รวมถึงเป็นหุ้นที่อยู่ในสภาวะเหมาะสมในการทำ FCN
- ผู้ลงทุนยังสามารถเลือกจับคู่หุ้นจากรายชื่อหุ้นอ้างอิงที่บริษัทฯ นำเสนอและระดับราคาต่าง ๆ ในการเข้าทำสัญญาได้เอง ทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจในหุ้นที่มีการติดตามความเคลื่อนไหวอยู่แล้ว
- FCN ของหลักทรัพย์บัวหลวงกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 1 ล้านบาท ทำให้ลงทุนได้สะดวกขึ้นและช่วยกระจายความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- สามารถซื้อ FCN โดยได้ราคาของหุ้นอ้างอิงแบบเรียลไทม์ ไม่จำเป็นต้องรอจนสิ้นวัน ทำให้เพิ่มความยืดหยุ่นและเลือกจับจังหวะตลาดได้ นอกจากนี้หลักทรัพย์บัวหลวงยังเป็นผู้ออกที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ที่ระดับ AA มีธนาคารกรุงเทพเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยการลงทุน FCN กับหลักทรัพย์บัวหลวงไม่มีค่าธรรมเนียม และมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาทั้งก่อนลงทุน ระหว่างลงทุนและหลังลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักลงทุนอุ่นใจและได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรทำความเข้าใจเงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้แนะนำการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน นักลงทุนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้แนะนำการลงทุนของท่าน หรือ BLS Customer Service โทร. 0 2618 1111