TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyกระทรวงดิจิทัลฯ จับมือหัวเว่ย สานต่อความร่วมมือด้านเทคโนโลยีคลาวด์ เร่งพัฒนาทักษะดิจิทัลแก่บุคลากรรัฐ

กระทรวงดิจิทัลฯ จับมือหัวเว่ย สานต่อความร่วมมือด้านเทคโนโลยีคลาวด์ เร่งพัฒนาทักษะดิจิทัลแก่บุคลากรรัฐ

HIGH LIGHT 

  •  กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) และบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงในการสานต่อความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงาน ในการเสริมประสิทธิภาพระบบคลาวด์
  • โอกาสที่คนไทยจะรับจากการบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้คือ การนำระบบคลาวด์จากหัวเว่ยไปเสริมศักยภาพการให้บริการสาธารณะภาครัฐ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ IoT
  • ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นตัวเร่งให้เกิดเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย และขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลแห่งอาเซียน

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เสริมประสิทธิภาพระบบคลาวด์ เพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันทางดิจิทัลของประเทศ นำโปรแกรมพัฒนาทักษะบุคลากรด้านดิจิทัลของหัวเว่ยมาใช้ในการอบรมผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลของรัฐบาลไทยภายในระยะเวลา 3 ปี  ร่วมกันสร้างอีโคซิสเต็มคลาวด์ที่มีความพร้อม และนำไปสู่รากฐานของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลให้กับประเทศไทย

ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) ได้กล่าวว่า “รัฐบาลยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อก้าวสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ แก่นโยบายด้านเทคโนโลยีคลาวด์เป็นอันดับแรก ดังจะเห็นได้จากความร่วมมือระหว่างกระทรวงดิจิทัลฯและบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีคลาวด์ การวิจัยเชิงนวัตกรม การจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัล

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ภาครัฐยังจะได้พัฒนาทักษะและต่อยอดความรู้ด้านเทคโนโลยีคลาวด์ที่ศูนย์นวัตกรรมร่วมด้านซอฟต์แวร์ ตอนนี้ประเทศไทยได้ขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G ในระดับภูมิภาคอาเซียน โดยมีคลาวด์เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ประเทศกลายเป็นศูนย์กลางทางด้านดิจิทัล และในอนาคตอันใกล้นี้ ผมหวังว่าเราจะได้เห็นประชาชนชาวไทยสามารถเข้าถึงการให้บริการจากภาครัฐผ่านอุปกรณ์ทุกชนิด”

จุดเริ่มต้นบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ

“นับตั้งแต่มีการลงนามครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน ปี 2560 ได้มีความร่วมมือกับหัวเว่ยผ่านโครงการต่าง ๆ จนมีการสานต่อในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น โดยวัตถุประสงค์ของบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ จะว่าด้วยการกระชับความร่วมมือด้านเทคโนโลยีคลาวด์ให้แน่นเฟ้นยิ่งขึ้น ผ่านโครงการที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและนวัตกรรม รวมไปถึงการพัฒนาทักษะของบุคลากร

โดยมุ่งหวังที่จะเร่งการเปลี่ยนผ่านบริการของรัฐบาลจากแบบดั้งเดิมสู่ระบบคลาวด์ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่าย ปรับปรุงและยกระดับบริการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน ทางกระทรวงจะส่งเสริมระบบคลาวด์สำหรับรัฐบาลเพื่อพัฒนาไปสู่ระบบที่ “ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล” และการโอนถ่ายข้อมูลภายในระหว่างหน่วยงาน นอกจากนี้ จะร่วมมือกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์สำหรับรัฐบาล โดยใช้เทคโนโลยีคลาวด์ระดับชั้นนำจากหัวเว่ย รวมถึงข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ IoT เพื่อเพิ่มความหลากหลายและความสามารถในการให้บริการเชิงลึกให้แก่หน่วยงานของรัฐและสังคม”

รายละเอียดบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ

ชัยวุฒิ ยังเน้นย้ำถึงบันทึกข้อตกลงความร่วมมือซึ่งรวมไปถึงการอบรมบุคลากรเป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อพัฒนาทักษะดิจิทัลในด้านของคลาวด์ ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบ IoT พร้อมทั้งเสริมทักษะด้านเทคโนโลยีให้แก่บุคลากรของรัฐจำนวน 2,000 คน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการผลักดันเศรษฐกิจและสังคม

ความร่วมมือในครั้งนี้ยังจะรวมไปถึงการปรับโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์สาธารณะ เพื่อรองรับความต้องการและให้การบริการแก่ผู้ใช้งานในส่วนของภาครัฐที่มากยิ่งขึ้น ผลักดันการให้บริการสาธารณะผ่านระบบคลาวด์ของรัฐ ที่สำคัญ ทั้งสองฝ่ายต่างมุ่งเน้นที่จะร่วมกันเร่งสร้างอีโคซิสเต็ม (ระบบนิเวศดิจิทัล / Digital Ecosystem) ในวงกว้างนอกเหนือจากหน่วยงานรัฐ รวมถึงพาร์ตเนอร์ในอุตสาหกรรม สตาร์ตอัพ ธุรกิจ SMEs และมหาวิทยาลัย เพื่อนำโซลูชันไปใช้ในอุตสาหกรรมแนวดิ่ง ทั้งนี้ ยังมีพันธมิตรจากหัวเว่ย คลาวด์ กว่า 20,000 รายทั่วโลก ซึ่งกระทรวงดิจิทัลฯ และหัวเว่ยจะร่วมมือกับพาร์ตเนอร์เหล่านี้ในการพัฒนาดิจิทัลอีโคซิสเต็ม (ระบบนิเวศดิจิทัล / Digital Ecosystem) ชั้นนำที่เปิดกว้างเพื่อทุกฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันได้

เป้าหมายในการเติบโตของหัวเว่ยในประเทศไทย และการลงทุนในระบบคลาวด์

อาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เราภูมิใจที่เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการคลาวด์ระดับโลกรายแรกที่เปิดตัว Available Zone (AZ) ในประเทศไทย และเป็นรายเดียวที่มี AZ 3 แห่งตั้งอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ ในฐานะที่เรามุ่งมั่นสนับสนุนสังคมอย่างต่อเนื่อง หัวเว่ยจะยังคงส่งเสริมศักยภาพของอีโคซิสเต็มให้แก่ SMEs และบุคลากรที่มีความสามารถด้านดิจิทัลให้แก่ประเทศ ผ่านการริ่เริ่มโครงการต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงโปรแกรมการแข่งขัน Huawei Spark Ignite, Huawei ASEAN Academy และ Seeds for Future 

ด้วยเป้าหมายความสำเร็จต่าง ๆ ในวันนี้ จะเร่งให้เกิดการใช้งานบริการคลาวด์และเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย และขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลแห่งอาเซียน และทำให้เกิดโลกอัจฉริยะที่เชื่อมต่อถึงกันอย่างสมบูรณ์ได้ในที่สุด”

“วงปี สตูดิโอ” เปลี่ยนการทำงานสู่บนระบบคลาวด์จากดีแทค ตอบโจทย์ลูกค้าเร็วขึ้น

กสทช. เร่งจัดระเบียบสายสื่อสารในกรุงเทพฯ ประเดิม ถ.สุโขทัย เขตดุสิต

สวทช. มอบใบรับรองระบบบริหารการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม แก่กลุ่มทรู

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ