แม้วิกฤติโควิด-19 ทำให้เกิดการสะดุดของยอดขายช่วงล็อกดาวน์ แต่ COM7 ก็ยังทำยอดขายกลับมาได้และรักษาการเติบโตที่ 10% ในปีนี้ มีรายได้แตะที่ 3.3 พันล้านบาท เดินหน้าลงทุนต่อเนื่องอีก 400 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาเพิ่มอีกมากกว่า 100 สาขาในปี 2564 และตั้งเป้ารักษการเติบโต 10% ต่อเนื่อง
- โตชิบา เปิดตัวโซลูชันป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ภาคอุตสาหกรรม
- แสนสิริ ส่ง “IRIS” พรีเซนเตอร์โลกเสมือนแบรนด์ “สิริ เพลส” ตั้งเป้าดันยอดขาย 600 ลบ.
สุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 กล่าวว่า ปีหน้าบริษัทจะลงทุนเปิดสาขาเพิ่มอีกมากกว่า 100 สาขาในปี 2564 โดย 70-80% จะเปิดสาขาในต่างจังหวัด นอกจากนี้จะใช้เงินลงทุนในการเทรนนิ่งพนักงาน ลงทุนระบบฮาร์ดแวร์ในองค์กร เพื่อเดินหน้ากลยุทธ์ Omni-Channel หรือ Online-to-Offline ระหว่างหน้าร้านทุกสาขากับหน้าร้านออนไลน์ที่บริษัทเริ่มให้ความสำคัญปรับหน้าเว็บใหม่ให้ตอบโจทย์การช้อปปิ้งของลูกค้ามากขึ้น
ปีนี้บริษัทมียอดขายจากออนไลน์ประมาณ 5% และจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากช่องทางออนไลน์เป็น 10% ในปี 2566
สัดส่วนรายได้จากออนไลน์ของบริษัทมีไม่มากซึ่งเป็นปกติของธุรกิจค้าปลีกที่ยอดจายส่วนใหญ่จะมาจากหน้าร้าน
ปัจจุบันมีประมาณ 811 สาขาทั่วประเทศ จากหลายแบรนด์ ได้แก่ แบรนด์ BaNANA 257 สาขา แบรนด์ Studio7 102 สาขา แบรนด์ KingKong Phone 96 สาขา แบรนด์ True Shop by Com7 121 สาขา แฟรนไชส์ 97 สาขา แบรนด์ BKK 54 สาขา แบรนด์ iCare 27 สาขา และอื่น ๆ 57 สาขา
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย คือ การนำช่องทางออนไลน์มาช่วยเพิ่มยอดขายที่หน้าร้านออฟไลน์ให้มากขึ้น
ซึ่งกลยุทธ์นี้ทำให้พนักงานหน้าร้านต่อสาขาลดลง 10% ปกติจะมีตั้งแต่ 2 คนถึง 20 คนต่อสาขา
“ก่อนโควิดมี 3,500 คน ลดไป 200 คนช่วงโควิด ตอนนี้กลับมาเพิ่มพนักงาน และจะเพิ่มอีกตามจำนวนสาขาที่จะเปิดเพิ่ม”
แนวโน้มร้านออฟไลน์ยังคงต้องเปิดอยู่ ต้องเอาออนไลน์มาช่วยหน้าร้าน ขยายสาขาได้มากขึ้น ร้านที่มีหน้าร้านออฟไลน์มักจะมีสัดส่วนยอดออนไลน์ไม่มาก พฤติกรรมคนไทยชอบเดินห้าง
สัดส่วนสินค้าที่บริษัทจำหน่ายคือ มือถือ 45% คอมพิวเตอร์ 18% แท๊ปเล็ต 15% และอื่น ๆ
อย่างไรก็ดี วันนี้เป็นวันจำหน่าย iPhone 12 ซีรีส์เป็นวันแรกในประเทศไทย COM7 ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่สุดของ Apple ในประเทศไทยทั้งในแง่ของยอดขายและปริมาณสาขา ยังได้รับการตอบรับการจอง iPhone 12 เป็นอย่างดี
“ปีนี้คึกคักเพราะ iPhone 12 ซีรีส์เป็นมือถือที่สเปกสูงและเป็น iPhone รุ่นแรกที่รองรับ 5G ทำให้ได้รับความทสนใจจองซื้อจำนวนมาก ทำให้ยอดขายปีนี้โดยเฉพาะไตรรสารสุดท้ายกลับมาคึกคักหลังจากซบเซาไปในไตรมาสที่ 2”
