อาร์เอส กรุ๊ป เผย ปี 64 รายได้อ่อนตัวลง เตรียมจ่ายเงินปันผล 0.35 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นในเดือนพฤษภาคม 2565 มั่นใจ การเตรียมความพร้อมด้านผลิตภัณฑ์และแบรนด์จากปีที่ผ่านมา จะเป็นฐานให้บริษัทสามารถสร้างผลงาน New High และมีรายได้แตะ 5,100 ล้านบาท ในปี 2565 ตามที่ตั้งไว้
สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปี 2564 นับเป็นอีกปีที่ท้าทายของหลาย ๆ ธุรกิจ เพราะโควิด-19 ยังคงและส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แต่ด้วยโครงสร้างขององค์กรที่ให้ความสำคัญในเรื่องของการเตรียมความพร้อมสำหรับการปรับตัวตลอดเวลา ทำให้ปี 2565 จะเป็นปีที่ดีของอาร์เอส
เพราะในปี 2564 ที่ผ่านมาได้ดำเนินแผนการขยายธุรกิจ และพัฒนาไปหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสินค้านวัตกรรมด้านสุขภาพหลากหลายประเภท รวมถึงสินค้าเพื่อสุขภาพที่มาจากสารสกัดเมล็ดกัญชง เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่มีความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงวัย อาทิ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจน และอาหารเสริมมัลติ ออยล์ พลัส น้ำมันเมล็ดกัญชง แบรนด์ well u, เครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริงค์ แบรนด์ CAMU C ที่มีวิตามินซีสูง 200% และผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง แบรนด์ Lifemate
พร้อมมุ่งเน้นขยายช่องทางออนไลน์ทั้งธุรกิจคอมเมิร์ซและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ให้สอดรับกับเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุค New Normal ส่วนในแง่ของธุรกิจสื่อและบันเทิง อาร์เอส กรุ๊ป เอง ได้สร้าง Popcoin ซึ่งเป็นสมาร์ท มาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์ม เข้ามาช่วยยกระดับการทำงาน สร้างโอกาสทางการตลาด และมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งผู้ผลิตคอนเทนต์ สปอนเซอร์ และผู้บริโภค”
เร่งปรับกลยุทธ์
วิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงตลอดปี 2564 ทำให้อาร์เอส กรุ๊ป ต้องมีการปรับกลยุทธ์และการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้รายได้รวมจากการขายและบริการอยู่ที่ 3,573 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 127 ล้านบาท
ปัจจัยที่ทำให้รายได้ปี 64 อ่อนตัวลงในระยะสั้น
- กำลังซื้อที่ลดลงจากสถานการณ์โควิด-19 อุตสาหกรรมโฆษณาที่หดตัวจากพิษเศรษฐกิจ และการออกมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่น การห้ามจัดงานอีเว้นท์หรือคอนเสิร์ตขนาดใหญ่
- อาร์เอส กรุ๊ป ลงทุนพัฒนาแบรนด์และผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมไปถึงการทำ M&A เพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าในปี 2565 เศรษฐกิจของไทยจะกลับมาฟื้นตัวหลังสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลาย และจะเติบโตจากการลงทุนในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ บริษัทมีมติอนุมัติประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.35 บาทต่อหุ้น และกำหนดจ่ายเงินปันผลในเดือนพฤษภาคม 2565 เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นอีกด้วย วิทวัสกล่าว
ทิศทางปี 2565 ตั้งเป้า 5,100 ลบ.
สำหรับทิศทางปี 2565 สุรชัยกล่าวว่า การเตรียมความพร้อมด้านผลิตภัณฑ์และแบรนด์จากปีที่ผ่านมา จะเป็นฐานให้บริษัทใช้สร้างยอดขายและพัฒนาสินค้า SKUs ใหม่ ๆ ภายใต้แบรนด์เดิม โดยในปีนี้ ไลฟ์สตาร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป มีแผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่มากกว่า 28 SKUs ซึ่งรวมถึงสินค้าจากสารสกัดเมล็ดกัญชงและ CBD จะช่วยให้ธุรกิจคอมเมิร์ซสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ธุรกิจมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ จะสร้างรายได้จากการพัฒนาคอนเทนต์รูปแบบใหม่ในช่องทางออนไลน์ และจากการเข้าสู่ตลาด NFT รวมไปถึงรายได้จากกิจกรรมและคอนเสิร์ตที่จะกลับมา โดยจะมี Popcoin สมาร์ท มาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์ม ซึ่งปัจจุบันมียอดผู้ลงทะเบียนเป็น Popster มากกว่า 7 แสนราย และแบรนด์ต่าง ๆ เริ่มมีการนำ Popcoin ไปใช้ในกิจกรรมส่งเสริมการตลาดแล้ว
รวมไปถึงการเข้าซื้อธุรกิจขายตรง ยูไลฟ์ จากยูนิลีเวอร์ ที่มีศักยภาพที่มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม และเครือข่าย Business partner ที่แข็งแกร่งกว่า 150,000 ราย โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ปีแรกประมาณ 900 ล้านบาท และมีเป้าหมายที่จะผลักดันและสร้างการเติบโตอย่างเต็มที่เพื่อให้ ยูไลฟ์ ก้าวขึ้นเป็นบริษัทขายตรงอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศภายในปี 2567
ซึ่งการเข้ามาเสริมทัพด้วย ยูไลฟ์ จะส่งเสริมให้โมเดลธุรกิจคอมเมิร์ซของ อาร์เอส กรุ๊ป ที่มุ่งมั่นเป็น Lifestyle Wellbeing Solution เกิดเป็นรูปธรรมได้อย่างแน่นอน พร้อมช่วยสร้างการ synergy ภายในกลุ่มธุรกิจให้มีความแข็งแกร่ง ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า และทำให้ Ecosystem ของอาร์เอส กรุ๊ป ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และจะสามารถสร้างผลงาน New High ตามเป้ารายได้ที่ตั้งไว้ที่ 5,100 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน” สุรชัย กล่าวปิดท้าย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
กันตนา กรุ๊ป ประกาศ เตรียมสร้างคอนเทนต์บนโลก Metaverse
ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ ตั้งเป้า ปี 65 ปักหมุดเป็นโลจิสติกส์ระดับภูมิภาคเอเชีย